เรื่อง      ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันโหดเหี้ยมของคนร้าย กรณีกราดยิงสองแม่ลูกที่กูจิงลือปะ

           

สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. ของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 เกิดเหตุคนร้ายแต่งกายชุดไอ้โม่งจำนวน 7 คน ได้ดักซุ่มและกราดยิงสองแม่ลูก ขณะเตรียมตัวกรีดยางที่เชิงเขาลูโบ๊ะบาเดาะ บ้านกูจิงลือปะ ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้นางเจ๊ะแมะ หะแย อายุ 47 ปี (มารดา) และนางบาราตี ลาบอ อายุ 24 ปี (ลูกสาว) เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จากสภาพศพของผู้ตายนั้นพบว่า นางเจ๊ะแมะ หะแย ถูกยิงบริเวณลำคอและหน้าอกกว่าสิบนัด และนางบาราตี ลาบอ ถูกยิงบริเวณหน้าอกและขาหลายนัด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่โหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรมอย่างถึงที่สุด ที่กระทำต่อสตรีผู้บริสุทธิ์และไร้ทางต่อสู้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวดังกล่าวถูกคุกคามและข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ และมีการข่มขู่ว่าจะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตระกูลดังกล่าวอีกด้วย

           

เป็นอีกครั้ง ที่เลือดผู้บริสุทธิ์เจิ่งนองบนหน้าประวัติศาสตร์แผ่นดินเดือดแห่งนี้ ภาพของสตรีที่ถูกกราดยิงอย่างไร้ซึ่งความปราณีได้สร้างความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุดแก่ผู้ที่พบเห็นและรับรู้ ไม่น้อยไปกว่าภาพของลูกน้อยวัยเพียง 3 ขวบและขวบเศษของน.ส.บาราตี ที่เฝ้าร้องไห้ฟูมฟายหาแม่ผู้ล่วงลับตลอดเวลา การทวงถามความเป็นธรรมของชาวบ้านบ้านกูจิงลือปะและประชาชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเริ่มดังระงมขึ้นอีกครั้ง แต่กลับแฝงไว้ซึ่งน้ำเสียงของการขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจนสัมผัสได้ อาจเพราะตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา แม้ประวัติศาสตร์จะจารึกเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดบนแผ่นดินนองเลือดนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์การใช้อาวุธสงครามถล่มคนร้ายที่มีเพียงมีดและมือเปล่าในมัสยิดกรือเซะ กระทั่งมีผู้เสียชีวิตถึง 34 คน เหตุการณ์ตากใบที่ผู้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างสงบถูกปราบปรามอย่างเกินกว่าเหตุ จนมีผู้เสียชีวิตมากถึง 84 คน และพิการกว่า 1,298 คน เหตุการณ์การซ้อมทรมานผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัย กระทั่งมีผู้บาดเจ็บและล้มตายครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุการณ์การข่มขืนแล้วฆ่าน.ส.นูรฮายาตี โดยทหารพราน หรือแม้แต่เหตุการณ์การกราดยิงผู้กำลังปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดอัลฟุรกอน บ้านไอปาแย จนเป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตมากถึง 12 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความชอกช้ำอย่างถึงที่สุดแก่คนในพื้นที่ อีกทั้งสร้างคำถามและความเคลือบแคลงใจมากมายในสายตาสังคมภายนอก แต่กลับยังไม่สามารถให้ความเป็นธรรมและสร้างความกระจ่างชัดได้จวบจนทุกวันนี้ ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของคนในพื้นที่ที่ถูกกัดกร่อนและฉีกทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า กำลังท้าทายกระบวนการยุติธรรมในพื้นที่อีกครั้งว่า จะสามารถกู้คืนความเชื่อมั่นและคลายปมคำถามในใจคนในพื้นที่ต่อกรณีดังกล่าวได้หรือไม่?

          

 เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันโหดเหี้ยม ป่าเถื่อนของคนร้ายต่อกรณีการกราดยิงสตรีสองแม่ลูกดังกล่าว และขอประณามการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และทั่วทุกมุมโลก พร้อมทั้งขอเรียกร้องให้เร่งสอบสวนหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้รวดเร็วและเป็นธรรมที่สุด เพื่อเยียวยาแม้เพียงเศษเสี้ยวของความเจ็บปวดในจิตใจผู้สูญเสียก็ตาม และเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนทั้งประเทศ และประชาคมโลกให้กลับคืนมาอีกครั้ง

 

                                                                                                      ด้วยจิตรักสันติภาพ

                                                                                    เครือข่ายเยาวชนนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน

                                                                                                    19 กุมภาพันธ์ 2553