เกิดเหตุขับรถประกบขบวนรถนายกรัฐมนตรี 2 ครั้งในวันเดียวกัน รายแรกเป็นชายวัยรุ่นขับรถยนต์ฮอนด้า รายต่อมาเป็นแท็กซี่ติดสติ๊กเกอร์ “ไม่เอาอำมาตย์-เผด็จการ” ร้อนถึงรถ รปภ. นายกฯ ต้องขับเบียด แต่จับไม่ได้ทั้ง 2 ราย สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดูภาพย้อนหลัง ส่วนบ้านนายก รปภ.คุมเข้ม ติดตั้งกล้องวงจรปิด 21 ตัวเชื่อมต่อภาพเข้า สน.ทองหล่อ 

หนุ่มซิ่งฮอนด้าประกบขบวนรถมาร์ค ก่อนเจอ รปภ.เบียด แต่หนีไปได้
เมื่อเวลา 13.15 น. วันนี้ (13 ก.พ.) มีรายงานว่า ขณะที่ขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางจากบ้านพักซอยสวัสดี ถนนสุขุมวิท 31 มายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อบันทึกเทปรายการโทรทัศน์ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับ นายกฯ อภิสิทธิ์” โดยใช้ทางยกระดับที่ด่านอโศกมุ่งหน้ามาลงแยกยมราช ได้มีรถยนต์ฮอนด้าสีขาว มีผู้ขับและผู้โดยสารเป็นชายวัยรุ่น 2 คน พยายามเบียดเข้ามาในช่วงท้ายขบวน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) นายกฯ ที่อยู่ในรถแวนยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน 3 ษ 2877 โบกมือส่งสัญญาณให้คนขับนำรถคันดังกล่าวออกจากขบวนไป แต่เจ้าของรถไม่ยอมและพยายามเบียดแทรกเข้ามาในขบวน จน รปภ. ต้องตัดสินใจนำรถเบนซ์เบียดสกัดรถดังกล่าวออกไปจนชนเข้ากับขอบทางด่วนและยอมจอดในที่สุด

จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ได้เข้าไปตักเตือน แต่เจ้าของรถฮอนด้าคันดังกล่าวได้เหยียบคันเร่งขับหนีไป ส่วนขบวนรถนายกรัฐมนตรีได้ขับมุ่งหน้ามายังทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยไม่ได้จอดแวะ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีวัยรุ่นขับรถเบียดขบวนว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องของการปองร้ายหรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไปดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุหรือการปองร้าย และคงไม่เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอะไรอีก ส่วนการเพิ่มกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่รอบบ้านนั้น ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องตรวจตราให้เข้มขึ้นในช่วงนี้ตามความจำเป็น แต่คิดว่าสังคมต้องช่วยกันว่าจะยอมรับให้มีพฤติกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้นเรื่อยๆหรือ ไม่

เมื่อถามว่ายังแคลงใจเรื่องบุคคลปาสิ่งปฏิกูลเข้าบ้านพักหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่ผิดตัว คือมีเทปที่ยืนยันได้ เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการพูดกันหลายฝ่ายว่าอาจจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ดูเหมือนจะง่ายเกินไปในการจับกุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รักษาการผบ.ตร.ระบุว่าไม่ผิดตัว ส่วนว่าทำไมถึงปาก็อีกเรื่องหนึ่ง.

ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อขบวนรถของนายกฯไปถึงทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ ได้เข้าไปบันทึกรายการที่ตึกสันติไมตรีทันที โดยครั้งนี้ได้เชิญบรรดาพิธีกรรายการคุยข่าวของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องจำนวน 26 คน ระหว่างนั้นบรรดาช่างภาพผู้สื่อข่าวทีวีที่ตึกสันติไมตรีได้พยายามเข้าไปถ่ายสภาพรถเบนซ์แวนของเจ้าหน้าที่ศรภ.ที่จอดเทียบอยู่ด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าเนื่องจากไม่สามารถเก็บภาพเหตุการณ์บนทางด่วนไว้ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ในทีม รปภ.นายกฯคนหนึ่งชี้หน้ากล่าวกับบรรดาช่างภาพที่กำลังโฟกัสภาพอยู่ว่า " ใครอนุญาตให้ถ่าย" สร้างความงุนงงให้กับบรรดาช่างภาพทีวีที่ไปตามๆ กัน
 

ตกเย็นเอาอีก คราวนี้เป็น “แท็กซี่” แดงไม่เอาอำมาตย์
ต่อมาหลังจากบันทึกรายการโทรทัศน์เสร็จ ใน เวลา 17.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยใช้เส้นทางยกระดับยมราช-พระราม 9 แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าสู่สี่แยกพร้อมพงษ์ ก่อนจะผ่านเส้นทางลัดเข้าไปในซอยพร้อมจิตร์นั้น

ได้เกิดเหตุรถแท็กซี่สีฟ้า เลขทะเบียน ทว 3801 กรุงเทพมหานคร พยายามเบียดแทรกขบวนรถของนายกฯ โดยเข้าประชิดรถโตโยต้า พราโด้ ซึ่งเป็นรถของชุด รปภ. ที่ตามหลังรถเบนซ์กันกระสุนของนายกฯ เลขทะเบียน ษห 3835 กรุงเทพมหานคร ทำให้ รปภ. พยายามส่งสัญญาณถึงพลขับแท็กซี่ออกจากขบวน แต่ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวพยายามแทรกเข้ามาท้ายรถเบนซ์ของนายอภิสิทธิ์โดยสารอีกครั้ง ทำให้รถเบนซ์แวน เลขทะเบียน 3 ษ 2877 คันเดิมที่สกัดรถฮอนด้าของวัยรุ่นในช่วงบ่าย ต้องขึ้นมาเบียดแซงขึ้นมาช่วยสกัดอีกทาง สุดท้ายรถแท็กซี่คันดังกล่าวจึงยอมล่าถอยลงไป โดย รปภ. ไม่สามารถจับกุมได้

โดยบริเวณท้ายกระโปรงของรถของแท็กซี่คันดังกล่าวได้ติดสติ๊กเกอร์สีแดง 2 แผ่น มีข้อความว่า "แดงไม่เอาเผด็จการ" และ "แดงไม่เอาอำมาตย์"

ขณะที่บรรยากาศบ้านของนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อบริษัทเอกชนที่จำหน่ายกล้องวงจรปิดนำกล้องวงจรปิด ไปติดตั้งเพิ่มจากที่มีอยู่เดิม 7 ตัว รวมเป็น 21 ตัว โดยกล้องวงจรปิดที่นำมาติดตั้งเพิ่มเป็นกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดยี่ห้อซันโย รุ่น VA-MP-68V ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้งานมีความคมชัดและราคาแพงกว่ารุ่นเก่ามาก รวมทั้งได้ทำการเชื่อมสัญญาณภาพต่อไปยังสน.ทองหล่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาสังเกตการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีพล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.น.และพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 เดินทางมาดูแลความเรียบร้อย

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ตำรวจสน.ทองหล่อยังได้ประสานให้กทม.นำตาข่ายไนล่อนกว้าง 4 เมตรขึงต่อจากสันกำแพงรอบรั้วบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปาวัตถุสิ่งของ เข้าไปได้ อย่างไรก็ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านนายกฯซอยสุขุมวิท 31 ขณะนี้มีการวางกำลังตำรวจในและนอกเครื่องแบบจากสน.ทองหล่อ ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ตำรวจปราบจราจล และ สห.ทบ.คอยสอดส่องดูแล รอบบ้านชุดละ 30 นายโดยแบ่งเป็นชุดละ 3 ผลัดตลอด 24 ชั่วโมง