Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความคืบหน้ากรณีจับกุมผู้ต้องสงสัยคดีปล่อยข่าวลือทุบหุ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย.โดยระบุว่า ‘องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน’ (RSF) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่รณรงค์ด้านการปกป้องสิทธิสื่อ ได้ออกแถลงการณ์ต่อต้านการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายที่ถูกกล่าวหาว่าปล่อยข่าวลืออันเป็นเท็จและเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อันได้แก่ น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน นายคทา ปาจาริยพงษ์ และนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล

เนื้อหาในแถลงการณ์ RSF เรียกร้องให้ตำรวจไทยยกเลิกข้อกล่าวหาที่มีต่อผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย เพราะถือเป็นการคุกคามสิทธิในการรายงานข้อมูลของประชาชน ทั้งยังระบุด้วยว่าการตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายเป็นข้อกล่าวหาที่ “ไม่มีมูลความจริง” เพราะผู้ถูกจับกุมทั้งหมดเผยแพร่ข้อมูลอ้างถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หลังจากที่หุ้นตกไปเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ น.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ถูกจับกุมเป็นรายแรก ยอมรับว่าแปลข่าวดังกล่าวมาจากการรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเพราะต้องการอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่หุ้นตก แต่กระบวนการจับกุมของตำรวจไทยกลับไม่อ้างถึงข่าวของบลูมเบิร์กซึ่งเป็นข้อมูลต้นฉบับเลยแม้แต่น้อย จึงดูเหมือนว่าบทความที่ น.ส.ธีรนันต์แปลเป็นภาษาไทยจะเป็นหลักฐานเพียงชิ้นเดียวที่ตำรวจใช้เป็นข้ออ้างในการจับกุม ทำให้เกิดการสมมติฐานตามมาว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 รายอาจเป็นเพียง “แพะรับบาป” สำหรับกรณีหุ้นตกในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา


เล็งเรียกสอบเว็บมาสเตอร์ 2 เว็บ

สำหรับความคืบหน้าของคดี เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าสอบปากคำนายสมเจตน์ อิทธิวรกุล ผู้ต้องหาคนล่าสุด ในคดีปล่อยข่าวไม่เป็นมงคล ทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วน

โดยจากการสอบสวนพบว่า นายสมเจตน์เป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะสามารถนำไปสู่การจับกุมผู้ที่ปล่อยข่าวไม่เป็นมงคลนี้ ซึ่งเชื่อว่ามีเจตนาทำให้ตลาดหุ้นปั่นป่วน และคดีนี้ต้องมีการออกหมายจับอีก 3-4 คน ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตกลง 53 จุด ในกลางเดือนที่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 3 คน ไม่มีความเชื่อมโยงกัน เป็นเพียงสมาชิกในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่เข้าไปโพสต์ความคิดเห็นไว้ และใช้โต้ตอบผ่านเว็บไซต์ โดยหลังจากนี้จะดูพยานหลักฐานว่า จะสามารถเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ดังกล่าวได้หรือไม่ และจะมีการออกหมายเรียกเว็บมาสเตอร์ หรือ ผู้ดูแลเว็บไซต์ 2 แห่ง มาสอบสวน หากพบมีการปล่อยปละละเลยให้มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ก็จะประสานไปยังกระทรวงไอซีที ทำให้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ และดำเนินคดีเช่นกัน
 

ที่มา: Thai king rumour charges 'baseless': watchdog และ สอบพบ!! ผู้ต้องหาคดีทุบหุ้นล่าสุดเป็นกุญแจจับมือปล่อยตัวจริง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net