สื่อรัฐบาลคิวบารายงานกลุ่มต้านรัฐประหารในฮอนดูรัสประณามสหรัฐฯ “สองมาตรฐาน” เหตุหนุนเจรจาว่าเป็นเพียงการยื้อเวลา ประธานกลุ่มแรงงานชี้คณะทำงานบางคนมีความใกล้ชิดกับผู้อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร เซลายาเผยฮอนดูรัสต้องพึ่งสหรัฐฯ ไม่ได้พึ่งคิวบา ด้านยูเอ็นประณามคณะรัฐประหารลิดรอนเสรีภาพสื่อ

 

 

ทนายความในฮอนดูรัสออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลชั่วคราวในวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา

ป้ายทางซ้ายเขียนว่า “รัฐประหารแห่งชาติเท่ากับรอยร้าวของระเบียบรัฐธรรมนูญ”

ส่วนป้ายขวาเขียนว่า “หากปราศจากส่วนร่วมของประชาชนแล้ว ประชาธิปไตยหาได้มีอยู่”

(REUTERS/Edgard Garrido)

 

ฟิลิปเป คัลเดรอน (ขวา) ประธานาธิบดีเม็กซิโก และมานูเอล เซลายา (ซ้าย)

ยืนอ่านโน๊ตที่ส่งขึ้นมาขณะมีการแถลงข่าวร่วมที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้

(AP Photo/Dario Lopez-Mills)

 

ชายคนหนึ่งชูของเล่นเป็นกอริลล่าถืออาวุธขณะเข้าร่วมประท้วงสนับสนุนเซลายา ในวันที่ 4 ส.ค.

(AP Photo/Arnulfo Franco)

 

 

สื่อคิวบา : กลุ่มต้านรัฐประหารในฮอนดูรัสประณามสหรัฐฯ สองมาตรฐาน

หนังสือพิมพ์ Granma ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลคิวบา รายงานว่าเมื่อวันที่ 3 ส.ค. กลุ่มแนวหน้าแห่งชาติต่อต้านรัฐประหาร (The National Front against the Coup) ของฮอนดูรัสออกมาประณามสหรัฐฯ ว่าทำตัวสองมาตรฐานในการดำเนินนโยบายต่อกลุ่มรัฐประหาร โดยมีเป้าหมายเพื่อยืดเวลาการปกครองของคณะรัฐประหารและทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น

 

ในการแถลงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีครูและอาจารย์มหาวิทยาลัยกว่าพันคนมารวมตัวกันบนถนนทางหลวง แกนนำกลุ่มแนวหน้าต่อต้านรัฐประหารแห่งชาติได้พูดถึงประเด็นนี้ว่าการที่สหรัฐฯ สนับสนุนให้ประธานาธิบดีออสการ์ อาเรียส ของคอสตาริกาดำเนินการเจรจา นั้นเป็นเพราะสหรัฐฯ มีวัตถุประสงค์เบื้องหลังเพื่อยืดเวลาดังที่กล่าวมา

 

อิสราเอล ซาลินาส เลขาธิการสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงาน (Unified Workers Federation หรือ FUTH) เปิดเผยว่าทางกลุ่มแนวหน้าฯ รู้มาตั้งแต่เกิดการรัฐประหารแล้วว่าทางสหรัฐฯ จะมีนโยบายสองมาตรฐานเช่นนี้ โดยผู้คนเป้นจำนวนมากในที่ชุมนุมยังได้พากันตะโกนคำว่า "สองมาตรฐาน!" ซ้ำ ๆ ด้วย

 

โดยซาลินาส บอกอีกว่า แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกมาประกาศกับสื่อว่าพวกเขายอมรับมานูเอล เซลายา เป็นประธานาธิบดีคนเดียวเท่านั้น แต่ทางการสหรัฐฯ ก็ไม่ได้อธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย. เป็นการรัฐประหาร

 

"ในขณะเดียวกันก็มีแผนทำให้สถานการณ์ถูกยื้อเวลาออกไป และปล่อยให้พวกที่ก่อรัฐประหารรวมตัวกันเองแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ" ซาลินาสกล่าว โดยเขายังได้บอกอีกว่า ทางกลุ่มแนวหน้าฯ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรที่หนักแน่น

 

ขณะที่ ฮวน บาราโฮนา ผู้ประสานงานทั่วไปของกลุ่มแนวหน้าแห่งชาติต่อต้านรัฐประหาร และประธาน FUTH ก็กล่าวถึงกรณีที่ให้มีการเจรจาโดยอาเรียส ว่า ทางกลุ่มประชาชนได้ปฏิเสธการเจรจากับผู้นำรัฐประหารมาตั้งแต่แรกแล้ว โดย ฮวน อธิบายว่าการให้มีการเจรจาถือเป็นการให้ความชอบธรรมกับกลุ่มทหารและนักธุรกิจที่รุกล้ำอธิปไตย ละเมิดรัฐธรรมนูญและกฏหมาย

 

นอกจากนี้ผู้ประสานงานกลุ่มต้านรัฐประหาร ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ เอนริค อิกเลเซียส เลขาธิการองค์กรอิเบโร-อเมริกัน (Organization of Ibero-American States หรือ OEI) จะทำงานร่วมกับออสการ์ อาเรียส ว่าเขาปฏิเสธการทำงานล็อบบี้ของทั้งสองคนนี้ โดยเสริมว่า เอนริค อิกเลเซียส นั้นมีความใกล้ชิดกับพระราชาคณะ ออสการ์ แอนเดรียส รอดริจซ์ มาราเดียกา ผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญของรัฐประหาร

 

ฮวน เห็นว่าการยึดเวลานั้นเป็นการทำเพื่อคณะรัฐประหาร ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเชื่อว่าสิ่งที่จะสามารถโค่นล้มรัฐประหารได้คือการออกมาต่อต้านของประชาชน "ถ้าเราไม่ทำ ก็จะไม่มีคนอื่นทำให้" ฮวน กล่าว

 

 

เซลายาประกาศ สหรัฐฯ สามารถขจัดรัฐประหารในฮอนดูรัสได้ภายในห้าวินาที

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. มานูเอล เซลายา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN ภาคภาษาสเปนว่า ฮอนดูรัสไม่ได้ต้องการพึ่งรัฐบาลคิวบาเช่นที่ผู้นำรัฐประหารว่าไว้ แต่ฮอนดูรัสต้องพึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ

 

"ขอเพียงแค่สหรัฐฯ ตรึงกำปั้นให้แน่นกว่านี้ แล้วพวกรัฐประหารก็จะอยู่ต่อได้แค่อีกห้าวินาทีเท่านั้น" เซลายากล่าว ซึ่งในวันเดียวกันนี้เขาได้เข้าพูดคุยกับประธานาธิบดีเม็กซิโก ฟิลิปเป คัลเดรอน และแถลงข่าวร่วมกันด้วย

 

โดยก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯ ได้ยกเลิกเงินสนับสนุนทางการทหารแก่ฮอนดูรัส 16.5 ล้านดอลล่าร์ เนื่องจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 28 มิ.ย. แต่ทางรัฐบาลชั่วคราวนำโดยโรเบอร์โต มิเชลเลตตี ก็บอกว่าจะยังคงเดินหน้าปกครองฮอนดูรัสภายใต้รัฐบาลชั่วคราวต่อไป แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลประเทศใดเลยก็ตาม

 

 

ยูเอ็นประณามรัฐบาลรัฐประหารฮอนดูรัสเรื่องเสรีภาพสื่อ

สหประชาชาติได้ออกมาประณามรัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัสในกรณีการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ ในวันอังคาร (4 ส.ค.) ที่ผ่านมา โดยฟรังค์ ลา รูห์ คณะกรรมการพิเศษด้านเสรีภาพในการแสดงความเห็นของสหประชาชาติ กล่าวผ่านสถานีวิทยุเรดิโอ โกลโบ (Radio Globo) ว่าทางรัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัสได้ "ปิดกั้นพื้นที่ประชาธิปไตย"

 

ซึ่งสถานีเรดิโอ โกลโบ เป็นหนึ่งในสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลชั่วคราวอย่างหนักมาโดยตลอด และเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ รวมถึงเคยถูกขู่ว่าจะยกเลิกการส่งสัญญาณกระจายเสียงของสถานีนี้ด้วย

 

คณะกรรมการด้านเสรีภาพในการแสดงความเห็นของสหประชาชาติยังได้กล่าวอีกว่าการเปิดให้มีความเห็นต่างเป็นเรื่องสำคัญ เขายังได้ประณามการขู่ปิดสถานีวิทยุของรัฐบาลชั่วคราวด้วย

 

โดยก่อนหน้านี้ไม่นานได้มีการปิดสถานีโทรทัศน์ช่อง 36 ซึ่งเป็นสถานีที่วิจารณ์รัฐบาลรัฐประหารอย่างหนักอีกแห่งหนึ่ง ซึ่ง ลา รูห์ บอกว่าการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการรุกล้ำสื่อ ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ (1 ส.ค.) ที่ผ่านมา ฟรังค์ ลา รูห์ ได้เข้ามาในฮอนดูรัสเพื่อตรวจสอบเรื่องเสรีภาพในการแสดงความเห็น

 

 

 

ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก

U.S. can end Honduras crisis in seconds: Zelaya, Reuters, 05/08/2009

Honduras' freedom of speech under attack, People's Daily, Xinhua, 05/08/2009

U.S. accused of double standards over military coup in Honduras, Raimundo López, Granma International, 04/08/2009