Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ณัฐกร วิทิตานนท์


 


"สนง.ศิลปากรที่ 8 ปิดประตูช้างเผือกขุดค้นเมืองโบราณ


โยธาฯ เชียงใหม่ เมินเสียงค้านเดินหน้าประกาศผังเมืองรวม"


 


"ชลประทาน รุกคืบแก้น้ำท่วม รื้อฝายเก่ากั้นลำน้ำปิง"


 


ข้างต้นคือ... ตัวอย่างพาดหัวข่าวสำคัญเกี่ยวกับเชียงใหม่ในสื่อกระแสหลักรอบปีที่ผ่านมา โดยกระแสการ คัดค้าน การขยายถนน (ตามผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่) นั้น เป็นที่รับรู้กันกินวงกว้างที่สุด ผ่าน "ป้าย" จำนวนนับร้อยนับพันที่ปรากฏอยู่ตามย่านต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ถึงขนาดที่รายการสารคดีท่องเที่ยวทางโทรทัศน์บางรายการยังต้องเอ่ยถึง พร้อมแสดงท่าทีเห็นด้วยจริงจัง โดยหาใส่ใจถามถึงเหตุผลในการเรียกร้องใหญ่คราวนี้ด้วยซ้ำไป


 


แน่นอน "ผังเมือง" (City/Town Planning) เป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการจัดวางผังและแผนการใช้พื้นที่ของเมือง / ชุมชน (เช่น พื้นที่สีแดง หมายถึง ย่านพานิชยกรรม พื้นที่สีเหลือง หมายถึง ที่พักอาศัยหนาแน่นน้อย พื้นที่สีเขียว หมายถึง สวนสาธารณะ พื้นที่สีน้ำตาล หมายถึง เขตอนุรักษ์ เป็นต้น) การกำหนดความสูงของอาคารในแต่ละพื้นที่ รวมถึงวางแนวโครงข่ายการจราจรและระบบขนส่งมวลชน แต่ "ผังเมืองที่ดี" ก็จะต้องเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมของสังคมนั้นๆ ด้วย ซึ่งความสอดคล้องเหมาะสมในที่นี้ ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้เลย นอกจากมาจากความต้องการของผู้คนในพื้นที่นั้นๆ กำหนดขึ้นเอง


 


ประเด็นของผม จึงใคร่อยากเห็น "ภาคประชาชนเชียงใหม่" (หาใช่ "ภาคประชาชน" ซึ่งมักถูกกล่าวอ้างถึงพร่ำเพรื่อโดยสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องหนึ่ง) นำเสนอข้อเรียกร้องให้ไปไกลกว่าเพียงการแสดงจุดยืน คัดค้าน การตัดสินใจดำเนินงานตามความต้องการของคนอื่น (ราชการส่วนกลาง / ภูมิภาค) ที่อยู่เหินห่างท้องถิ่น อาทิ คัดค้านการขยายถนน เพื่อแก้ปัญหาจราจร, คัดค้านการรื้อฝาย เพื่อสร้างประตูระบายน้ำ ฯลฯ อยู่อย่างนี้ร่ำไป เพราะมิเช่นนั้นก็อาจจะเกิดกรณีทำนอง เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรบูรณะพระพุทธรูปแลบลิ้น [ด้วยความไม่รู้] โดยการตัดลิ้นออก แบบแถวๆ อ.หางดง ขึ้นมาได้อีก


 


ผมเชื่อว่าปัญหานานาดังกล่าว เรา (ราชการส่วนท้องถิ่น) คิดเองทำเองได้ เช่นที่ "เทศบาลนครเชียงใหม่" กำลังถามคนเชียงใหม่ในเรื่องอาคารคุกเดิมว่าเค้าอยากได้แบบไหนกันแน่ จะรื้อแล้วทำเป็นสวนสาธารณะ (แบบข่วงโล่งๆ) หรือเก็บบางส่วนที่เห็นว่ามีคุณค่าเอาไว้ หรือจะอนุรักษ์ทั้งหมดเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์คุกดี นี่คือตัวอย่างในเชิงรูปธรรมของการปกครองตนเอง (Self Government) เป็น "ประชาธิปไตยใกล้ตัว" ที่ใครๆ ก็ย่อมสามารถจับต้องได้


 


คงต้องฝากถึงนายกฯ อภิสิทธิ์ (ซึ่งแม้นผมไม่ได้เป็นคนเลือกท่าน แต่ท่านก็รับปากหนักแน่นว่า "ผมขอยืนยันว่าผมจะทำงานให้กับคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลือกผมหรือไม่เลือกผม ไม่ว่าจะสนับสนุนผมหรือแม้แต่ต่อต้านผม...") ขอให้ทำให้ได้อย่างที่ "พูด" ไว้ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา (แต่แถลงที่กระทรวงการต่างประเทศแทน) ว่าจะ ส่งเสริมการกระจายอำนาจการปกครองสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง…" "...สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดบริการสาธารณะของท้องถิ่นเพิ่มขึ้น..." "...เร่งรัดดำเนินการถ่ายโอนภารกิจของราชการส่วนกลางให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น…"  บ้างก็พอ


 


แน่ละ ผมอยากมีโอกาสเลือก "ผู้ว่าฯ" ของผมเอง เหมือนๆ กับที่คนกรุงเทพฯ เค้าได้โอกาสนั้น ผมไม่อยากมี "ผู้ว่าฯ" ที่แม้นคำถามง่ายๆ (สำหรับคนเชียงใหม่แล้ว) เช่นว่า "จังหวัดเชียงใหม่มีกี่อำเภอ ได้แก่อำเภออะไรบ้าง?" ก็ยังตอบไม่ได้ !!! ผมอยากให้ "ผู้ว่าฯ" มีความมั่นคงในตำแหน่ง ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงบ่อยตามขั้วการเมืองอันพลิกผัน ขณะเดียวกัน ผมก็อยากเห็นท้องถิ่นต่างๆ (ทั้ง อบจ. / เทศบาล / อบต.) เข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเองยิ่งขึ้น สามารถทำอะไรๆ ได้มากและดีกว่าที่เป็นอยู่ โดยใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า มากกว่าสูญเสียไปกับป้ายประชาสัมพันธ์โฆษณาตัวผู้นำสีสันฉูดฉาดใหญ่โต หรือกระถางดอกไม้ (พลาสติก) ตั้งโชว์รอบเมืองเชียงใหม่บ่งบอกรสนิยมเชยๆ และสิ่งสำคัญสุด ผมปรารถนาให้ท้องถิ่นตอบสนองคนท้องถิ่น ซึ่งพร้อมอยู่แล้วในการกำหนดอนาคตของตัวเอง...

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net