ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่ามีการแจกทุนการศึกษา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการกล่าวอ้างที่ผิด เพราะตนไม่เคยแจกอะไรที่เกาะสมุย หรือที่ไหนก็ไม่เคยแจกเหมือนกัน เนื่องจากในช่วงหลังนี้มีกฎหมายเลือกตั้งที่เคร่งครัด เมื่อก่อนก็เคยส่งเสียให้ทุนการศึกษาเด็กเรียน 48 คน แต่ตอนนี้ต้องเลิกไป เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมาย "เรื่องนี้คงต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่ กกต.ต้องสรุปสำนวนเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หากศาลพิจารณาให้ใบเหลือง และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ จากนั้นจึงจะถึงคดีอาญา ผมขอยืนยันจะสู้คดีอย่างถึงที่สุด สู้กันทั้ง 3 ศาล เชื่อว่าเรื่องคงอีกยาว เพราะไม่เข้าใจว่าการที่ไปงานประเพณีจะผิดกฎหมายอย่างไร" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้จะสร้างมาตรฐานทางการเมืองอย่างไร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นปัญหาที่ต้องตีความกันอยู่ คงไม่ไปสร้างอะไรที่พิสดารอย่างนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องการทุจริตหรือคอร์รัปชั่น รวมทั้งกรณีนี้ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับกรณีของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลในคดีจัดซื้อรถดับเพลิงได้ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน เรื่องรถดับเพลิงเป็นเรื่องการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลเราอาจต้องพิจารณา แต่กรณีของตนไม่ใช่อย่างนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ว่าหากถูกคดีอาญาจะต้องหลุดจากตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า ไม่รู้สึกหนักใจ ต้องดูว่าคดีอะไร เพราะคดีอาญามีหลายแบบ ขับรถชนคนตายก็เป็นคดีอาญา ไม่จำเป็นต้องออกจากตำแหน่ง แต่กรณีของตนก็อยากให้ไปพิสูจน์ในศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ได้ชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบหรือยัง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ตอนที่รายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เรียนให้นายกรัฐมนตรี รับทราบสั้นๆ ว่า ได้ไปร่วมงานประเพณีสงกรานต์เท่านั้น แต่ กกต.บอกว่าผิด ก็ต้องสู้คดีกันในศาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เข้าใจดี อย่างไรก็ตาม เรียนว่าที่ผ่านมา กกต.ไม่เคยเชิญไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวเลย เป็นเรื่องที่แปลกมาก แต่ก็ไม่อยากมองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งข้อสังเกตอะไรหรือไม่ เพราะ กกต.มีมติตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน แต่เพิ่งมีการเปิดเผย จะมีเจตนาอะไรหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไม่คิดอะไรมาก และไม่สงสัยอะไรทั้งสิ้นต่อเรื่องนี้ เพราะ กกต. คงจะงานเยอะเลยสับสน เลยจำเรื่องไม่ได้ทั้งหมด รวมทั้งไม่สงสัยนางสดศรี สัตยธรรม กกต. เพราะไม่ใช่คนที่ชอบสงสัยคนอื่น ส่วนเรื่อง กกต. เสื้อแดงอย่าไปคิดเลยว่าจะเสื้อสีอะไร

"สุเทพ"ส่อแววหลุดอาญาเหตุกกต.ไม่เรียกแจง

รายงานข่าวจากกกต. แจ้งว่า กรณีกกต.มีมติให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.สุราษฎร์ธานี ใหม่ เนื่องจากนายธานี เทือกสุบรรณ ผู้ได้รับเลือกตั้ง ถูกร้องเรียนว่าแจกทุนการศึกษาในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งจากมติดังกล่าว นอกจากจะสั่งให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่แล้ว ยังได้สั่งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องและร่วมแจกทุนการศึกษา ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายชุมพล กาญจนะ ส.ส. สุราษฎร์ และนาย ประพนธ์ นิลวัชรมณี หัวคะแนน

ขณะนี้ กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการเขียนสำนวนส่งให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย หากศาลไม่เห็นด้วยกับมติของกกต. นายสุเทพก็ถือว่าไม่มีความผิด

อย่างไรก็ตามกรณีนี้มีความเป็นไปได้ว่าศาลอาจจะสั่งยกฟ้องเนื่องจากในสำนวนที่กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ และให้ดำเนินคดีอาญาและเตรียมส่งฟ้องศาลนั้นปรากฏว่าไม่ได้เรียกนายสุเทพ มาสอบสวนทั้งในชั้นกกต.จังหวัด และกกต.กลาง ซึ่งมีผลทำให้สำนวนอ่อนลง และเชื่อว่านายสุเทพจะยกประเด็นนี้ขึ้นมาต่อสู้ในชั้นศาลด้วยเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อศาลยกคำร้องกกต.ไม่สามารถนำคำร้องกลับมาสอบสวนเพิ่มเติมได้ เนื่องจากอายุความเกิน 1 ปีแล้ว ทั้งนี้ กกต.ก็อาจมีความเสี่ยงผิดตามพ.ร.บ.คณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 มาตรา 29 ห้ามมิให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และอนุกรรมการ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่เพื่อเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดในการเลือกตั้ง หรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการ โดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10  ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี

นายกฯขอ3วันชี้ชะตา"วิฑูรย์-บุญจง" ส่วน"สุเทพ"รอศาลตัดสิน

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก ครั้งที่ 39 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ถึงการที่เคยระบุว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน ภายหลังกลับจากเมืองดาวอส ในการจัดการปัญหากรณีความไม่โปร่งใสในการแจกถุงยังชีพของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และการแจกเงินพร้อมแนบนามบัตรของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ จ.นครราชสีมา ว่า เมื่อครบเวลาแล้วจะเรียนให้ทราบ โดยจะยึดประโยชน์ของส่วนรวมและหลักมาตรฐาน 9 ข้อเป็นหลัก

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่ กกต.ชี้มูลว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีความผิดจากการแจกทุนการศึกษาในช่วงการเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ ลงสมัคร และเตรียมส่งเรื่องให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ว่า ตนทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้มาก่อนแล้วว่ามีการร้องเรียนในช่วงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สุราษฎร์ธานี ถ้าเข้าใจไม่ผิด เป็นการร่วมกิจกรรมในวันสงกรานต์ แต่กระบวนการต้องขึ้นอยู่กับศาลอุทธรณ์ เพราะถือเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อศาลฯวินิจฉัยกรณีของนายก อบจ.ออกมาอย่างไรแล้ว ก็จะส่งเรื่องกลับมาที่กกต.เพื่อพิจารณาสอบสวนในทางคดีอาญาต่อไป แต่ตอนนี้เรายังไม่ทราบว่าข้อยุติในส่วนของศาลอุทธรณ์และการดำเนินงานในกระบวนการทางอาญาจะเป็นอย่างไรต่อไป

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า  มติของกกต.ตอนนี้ยังเป็นเรื่องของผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี อีกทั้ง นายสุเทพ ยังไม่เคยได้มีโอกาสไปชี้แจงต่อ กกต. เพราะคดีในขณะนี้เป็นคดีเลือกตั้งซึ่งเกี่ยวข้องกับการประกาศผลการเลือกตั้ง หรือจะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือจะเพิกถอนสิทธิ์นายก อบจ.

เมื่อถามว่านายสุเทพยังไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ต้องรอให้ทุกอย่างเดินไปให้มีความชัดเจนก่อน

ต่อข้อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่านายกฯจะกล้าหาญในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีที่มีปัญหาจนส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยืนยันเหมือนเดิมว่าจะตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

เรียบเรียงจาก เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล, เว็บไซต์ไทยโพสต์, เว็บไซต์คมชัดลึก