Skip to main content
sharethis

 

ผอ.หอสมุดมช.แจ้งจับเสื้อแดงถูกตบหน้าช่วงไล่"เทพเทือก" / ปชป.ชนะเลือกตั้งซ่อมส.ส.นนทบุรี / เบรกรัฐขึ้นภาษีมรดกและที่ดิน / "สุริยะใส" อัด"ทักษิณ"จอมลวงโลก เผย พธม.พร้อมเดินหน้าปราศรัยทั่วประเทศรณรงค์การเมืองใหม่ / ปชป.ตั้ง 2 องครักษ์ช่วย "กษิต-วิฑูรย์" นายกฯ ตั้งกฎเหล็กใครติดงานต้องแจ้งก่อน กันเหตุสภาล่มซ้ำ / "กษิต" เคลียร์กัมพูชาก่อนไปเยือนแล้ว / สั่งเร่งบรรจุ ขรก.2.4หมื่นเบี้ย"คนแก่"ได้เฮเม.ย.นี้

 

ผอ.หอสมุดมช.แจ้งจับเสื้อแดงถูกตบหน้าช่วงไล่"เทพเทือก"
เว็บไซต์คมชัดลึก - ผอ.ฯหญิงหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งจับเสื้อแดง ถูกตบหน้าระหว่างไล่ "เทพเทือก" ที่หอประชุม มช.แล้ว ยันดำเนินคดีถึงที่สุดฐานทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ ด้านรองอธิการบดี มช.เผย เตรียมส่งตัวแทนเข้าแจ้งความทรัพย์สินถูกทำลายเพิ่มอีกจันทร์นี้
สุเทพเชื่อตร-ผู้ว่าฯเชียงใหม่รู้เห็นเป็นใจม็อบเสื้อแดง
เว็บไซต์คมชัดลึก -  สุเทพเชื่อตร-ผู้ว่าฯเชียงใหม่รู้เห็นเป็นใจม็อบเสื้อแดงชี้จนท.ยึดติดยึดกับกลุ่มอำนาจเก่าอยู่ กร้าวหลังจากนี้จะส่งสัญญาณแรงกว่านี้
ปชป.ชนะเลือกตั้งซ่อมส.ส.นนทบุรี
เว็บไซต์คมชัดลึก -  การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ "ณรงค์ จันทร์ทนดิษฐ์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์" คว้าเก้าอี้ ส.ส.นนทบุรี ได้เป็นผลสำเร็จ โกย 86,807 คะแนน ส่วนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย และ"ฉลอง เรี่ยวแรง" สอบตก
สำหรับการนับคะแนน การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 2 นนทบุรี อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งขณะนี้นับคะแนนไปได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยหมายเลข1 นายฉลอง เรี่ยวแรง พรรคประชาราช ได้ 6,132 คะแนน หมายเลข2 นายณรงค์ จันทร์ทนดิษฐ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 86,807 คะแนน , หมายเลข3 นายสุชาติ บรรดาศักดิ์ พรรคเพื่อไทย ได้ 65,795 คะแนน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 396,570 คน สำหรับบรรยากาศในช่วงนับคะแนน ได้มีบรรดาตัวแทนจากผู้สมัคร และประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาลุ้นการนับคะแนนกันอย่างบางตา
 
"สุริยะใส" อัด"ทักษิณ"จอมลวงโลก เผย พธม.พร้อมเดินหน้าปราศรัยทั่วประเทศรณรงค์การเมืองใหม่
เว็บไซต์แนวหน้า - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีอาญาแผ่นดินโดยโฟนอินผ่านดีทีวีและให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์อาซาฮีนั้น จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงของวิกฤติการณ์บ้านเมือง โดยพยายามตัดตอนความจริงและสรุปสถานการณ์แบบเอาดีใส่ตัวโยนความชั่วร้ายให้คนอื่น เช่นการพูดถึงบทบาทของศาลหรือตุลาการภิวัฒน์และบทบาทของกองทัพนั้นก็พูดถึงตอนปลายสถานการณ์คือหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 แต่ไม่ยอมพูดถึงที่มาของเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดจากการเผด็จอำนาจหรือพยายามกินรวบประเทศของระบอบทักษิณ ที่สยายปีกจากการยึดอำนาจบริหาร เข้าควบคุมเหนืออำนาจนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและอำนาจตุลาการ และยังแปรสภาพกองทัพเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยส่งเครือญาติและเพื่อร่วมรุ่นมานั่งในตำแหน่งบังคับบัญชาหลายระดับ
ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายเสื้อแดงคงไม่มีพลังเป็นเพียงงานใหม่ของบรรดา ส.ส.ที่ตกงานเพราะพรรคถูกยุบและเปลี่ยนขั้วอำนาจมาเป็นฝ่ายค้านทำให้ช่องทางทำมาหากินหดหาย จึงว่าจ้างมวลชนในเครือข่ายออกมาต่อต้านรัฐบาลและพันธมิตรฯ เพื่อวางบิลเท่านั้นเอง ซึ่งเหตุการณ์ที่ร้อยเอ็ดไม่ได้ทำให้พันธมิตรฯ หวั่นไหวยังจะเดินหน้าจัดเวทีอีกหลายจังหวัด
โดยเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 31 ม.ค.ที่สระบุรี 11 ก.พ.ที่ชุมพร 12 ก.พ.ที่ระนอง 13 ก.พ.ที่หัวหิน 14 ก.พ.ที่อุดรฯ 15 ก.พ.ที่ขอนแก่น 28 ก.พ.ที่พิษณุโลก ฯลฯ และยังมีเวทีปราศรัยย่อยอีกหลายจังหวัดเพื่อรณรงค์สร้างการเมืองใหม่และให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน
 
รมช.คลัง เตือนปชช.อย่าวิตกเรื่องจัดเก็บภาษีมรดก
เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจะดำเนินการออกกฎหมายพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และพระราชบัญญัติภาษีมรดก ว่า ยังเป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น ต้องศึกษาข้อดี-ข้อเสีย รวมทั้งผลกระทบต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนที่จะออกเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด ประชาชนจึงไม่ต้องวิตกกังวลว่า จะได้รับความเดือดร้อน หรือเกิดผลกระทบจากการต้องชำระภาษีในทันที โดยเฉพาะประชาชนที่มีฐานะยากจนหรือมีรายได้น้อย.
เบรกรัฐขึ้นภาษีมรดกและที่ดิน
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ -   นักวิชาการเห็นต่าง รัฐเก็บภาษีมรดก และที่ดิน แนะรัฐบาลรอเศรษฐกิจฟื้นก่อน   นายวรพล โสคติยานุรักษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คนที่ 2 เปิดเผยกรณีรัฐบาลจะเก็บภาษีมรดก และที่ดินว่า ถือเป็นแนวทางที่ดี แต่ขณะนี้รัฐบาลไม่ควรดำเนินการ เพราะยังมีปัญหาเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นค่อยนำกลับมาพิจารณา ซึ่งเห็นว่ายังมีเครื่องมืออีกหลายด้านให้สามารถเลือกทำได้ อาทิ การจัดเจ็บภาษีผู้ก่อมลภาวะ เป็นต้น
นายวรพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ภาคเอกชนลำบากมากแล้ว อะไรที่ช่วยกันได้ก็ต้องประคับประคองกันไปก่อน เพราะการกระจายรายได้ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นสิ่งที่ต้องทำแต่ก็ทำได้หลายอย่าง เช่น พัฒนาระบบสาธารณูปโภคกระจายไปทั่วประเทศ เส้นทางคมนาคมให้สะดวกมีต้นทุนในการเดินทางลดลง การพัฒนาด้านการศึกษา หากสิ่งเหล่านี้ดีขึ้น ความเหลื่มล้ำทางรายได้จะดีขึ้น
นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงมีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจจะเก็บภาษีอะไรเพิ่มคงลำบาก แม้ว่าแนวทางการจัดเก็บภาษีมรดกจะเก็บจากคนมีฐานะ แต่คงไม่กระทบต่อกลุ่มดังกล่าวมากนัก คงต้องดูว่าเมื่อจัดเก็บแล้วจะช่วยได้หรือไม่ หรือควรรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนจึงค่อยดำเนินการ
สำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากดำเนินการก็ควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ เพราะจะเป็นองค์กรที่รู้เกี่ยวกับพื้นที่มากที่สุดว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน และหากเก็บได้ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็จะมีรายได้พัฒนาท้องถิ่นโดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาลกลาง แต่ขณะนี้ต้องให้ อปท.ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าภาษีดังกล่าวมาใช้พัฒนาท้องถิ่น ประชาชนก็จะยอมเสียภาษีเพราะมีการนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์.
 
เพื่อไทย ฉะ นโยบายแจกที่ สปก.4-01 เชื่อแค่เครื่องมือหาประโยชน์ของรัฐบาล
เว็บไซต์แนวหน้า - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลจะแจกที่ดินสปก.4-01 ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการออกมาเพื่อรองรับการบุกรุกที่ดิน ที่ใกล้จะหมดสัญญา และผิดสัญญาเช่า ในหลายพื้นที่มีปัญหา การที่รัฐบาลจะแจกที่สปก. 14 ล้านไร่นั้น เลขาธิการสปก.ระบุว่ามีเพียง 4 ล้านไร่ 10 ล้านไร่ที่เกินมานั้นได้ข่าวว่ารัฐบาลจะไปเอาของกรมป่าไม้ เราตั้งข้อสังเกตว่ากรณีแจกที่สปก.นั้นเป็นการหาประโยชน์ของรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวนำ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาตลอด วันนี้คนในพื้นที่รู้ดีว่า นายทุนเอาที่ดินไปหมดแล้วด้วยวิธีนอกเหนือกฎเกณฑ์ ใช้ความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้องถ้าจะมีการแจกที่สปก.หากมีการตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ต่อไป เราก็จำเป็นต้องยกมือคัดค้าน
 
ปชป.ตั้ง 2 องครักษ์ช่วย "กษิต-วิฑูรย์" นายกฯ ตั้งกฎเหล็กใครติดงานต้องแจ้งก่อน กันเหตุสภาล่มซ้ำ
เว็บไซต์มติชน - ปชป.ตั้ง 2 องครักษ์ป้อง"กษิต-วิฑูรย์" หวั่น"เพื่อไทย"ใช้โอกาสประชุมรัฐสภาโจมตี กำชับลูกพรรคอย่าโดดประชุมสภา ตั้งกฎใครติดภารกิจต้องแจ้งก่อน ส.ว.พร้อมอุดช่องโหว่องค์ประชุมไม่ครบ ฝ่ายค้านแนะกมธ.ศึกษากรอบอาเซียนก่อน โวยแค่ 2 วันอ่าน กม. 20 ฉบับไม่ทัน

"กษิต" เคลียร์กัมพูชาก่อนไปเยือนแล้ว
เว็บไซต์มติชน - นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม ก่อนเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อเริ่มต้นการเยือนอย่างเป็นทางการหลังเข้ารับตำแหน่งระหว่างวันที่ 26-27 มกราคม ว่า เป้าหมายหลักนอกจากไปแนะนำตัวตามประเพณีอาเซียนแล้ว ยังไปทบทวนสถานะความสัมพันธ์ในประเด็นต่างๆ เพราะไทยกับกัมพูชามีความร่วมมือทุกด้าน อีกทั้งไปขอบคุณสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ตอบรับการเชิญของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้

"ผมจะไปยืนยันคำมั่นสัญญาว่าการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างกันจะเป็นการพูดจาด้วยสันติวิธี อะไรที่เป็นเรื่องเทคนิค ให้ระดับเจ้าหน้าที่ว่าไป รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนและไม่ปล่อยให้เรื่องเป็นปัญหาการเมืองภายในที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือขัดใจกัน" นายกษิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กดดันหรือไม่ที่มีคนจับตามองการเดินทางไปครั้งนี้อย่างมาก นายกษิตกล่าวว่า ไม่มี ได้พูดโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา 2 ครั้ง และได้รับประทานอาหารร่วมกับเจ้าหน้าที่ทูตกัมพูชาอย่างน้อย 3 ครั้ง มีการคุยกันและทบทวนสถานะความสัมพันธ์ทั้งหมด และทูตไทยที่กัมพูชาก็พบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถึงกันทุกเรื่องทุกประเด็น อะไรที่เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ เคลียร์กันหมด ไม่มีอะไรที่คาใจ ไม่มีอะไรที่สงสัย
 
สั่งเร่งบรรจุ ขรก.2.4หมื่นเบี้ย"คนแก่"ได้เฮเม.ย.นี้
ASTV ผู้จัดการรายวัน - "อภิสิทธิ์" ปรับรูปแบบรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยฯ" เล็กน้อย แต่เนื้อหายังคงเน้นรายงานความคืบหน้าการทำงานตามนโยบาย เตรียมอบรมแรงงาน 5 แสนรายใน100 กลุ่ม ย้ำแผนเรียนฟรีอนุบาลถึงม.ปลาย พร้อมขยายกรอบการกู้ยืมเพื่อการศึกษา เร่งบรรจุข้าราชการลงในตำแหน่งที่ว่างอีก 2.4หมื่นอัตรา ส่วนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เม.ย.นี้ได้เฮ ส่วนเรื่องเก็บภาษีมรดกยอมรับต้องใช้เวลาในการออกกฎหมาย โครงการเมกะโปรเจกต์ยังเดินหน้า แต่โละแผนผันน้ำจากลาวของ"สมัคร" ถ่อมตนไม่เทียบชัน "โอบาม่า"
 
ปชป.ถกงบประมาณเพิ่มเติม ปี 52
เว็บไซต์แนวหน้า - นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหลังการประชุมส.ส.ของพรรคว่า ได้มีการพูดถึงงบประมาณเพิ่มเติมปี 2552 ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อนโยบายที่ได้หาเสียงเอาไว้ในการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นกรอบงบประมาณกลางปี 2552 จะมีการจัดงบประมาณสนับสนุน โครงการ 4 โครงการคือ 1.โครงการเรียนปี 15 ปี จำนวน 19,000 ล้านบาท 2. โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 9,000 ล้านบาท 3.โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน 15,200ล้านบาท 4. เบี้ยยังชีพอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พรรคจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่นายกฯ กล่าวเอาไว้ นอกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแล้ว จะมีโครงการลงทุนขั้นพื้นฐาน เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ ดังนั้นในงบฯกลางปี จะมีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ และถนนไร้ฝุ่นรวมอยู่ด้วย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณปี 2552 เพิ่มเติมมีประสิทธิภาพ พรรคเสนอกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรค จำนวน 10 คน ประกอบด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล นายนิพนธ์ บุญญามณี นายอาคม เอ่งฉ้วน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายวุฒิพงศ์ สงวนวงศ์ชัย นายเชน เทือกสุบรรณ นายนคร มาฉิม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน นายอนุชา บูรพชัยศรี โดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญและสัดส่วนส.ส.ในแต่ละพื้นที่ หนุนขยายฐานภาษีทรัพย์สินให้กว้างขึ้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พูดถึงแนวคิดหลายเรื่อง แม้บางเรื่องไม่ได้อยู่ในเอกสารหาเสียงแต่นายกฯและรมว.คลังได้นำเสนอแนวคิดต่อสาธารณะไปแล้ว เช่นภาษีทรัพย์สิน ซึ่งจะมีการขยายระบบภาษีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ให้มีฐานกว้างขึ้นและเป็นธรรม แม้เรื่องนี้อาจจะถูกมองว่าทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม แต่เบื้องต้นดูแล้วว่ากระทบไม่มาก ดังนั้นจะมีการศึกษาเรื่องภาษีโรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง และขยายไปสู่ภาษีที่ดิน ส่วนภาษีมรดกจะมีการศึกษากรอบความเป็นไปได้ ที่จะดำเนินการ โดยที่ประชุมพรรครับทราบและสนับสนุน
"เพื่อไทย" จี้รัฐเร่งใช้งบปกติปี 52-งบกลาง แนะ บีบ"แบงค์ชาติ"ลดดอกเบี้ยให้เหลือศูนย์
เว็บไซต์แนวหน้า - ที่พรรคเพื่อไทย นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีความน่าเป็นห่วงสนภาสะเศรษฐกิจที่ส่อเค้าทรุดมากกว่าที่รัฐบาลคาดเอาไว้ พรรคเพื่อไทยไม่อยากให้รัฐบาลใช้แต่เพียงงบกลางปี 2552 อย่างเดียว แต่ควรจะผลักดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยลงอีกให้มากที่สุด แม้จะถึงศูนย์เปอร์เซ็นต์ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจโดยรวม รัฐบาลควรเร่งรัดใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2552 และงบกลางสำรองฉุกเฉินที่มีอยู่ประมาณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนการที่รัฐบาลจะออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกนั้นเราเห็นด้วย แต่สารถสำคัญคือการสร้างความเป็นธรรมในการถือครองที่ดินและทรัพย์สิน ขอเอาใจช่วยรัฐบาลให้ทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ และขอให้ประสบคยวามสำเร็จใยนการเจรจากับแกนนำพรรคประชาธิปัย์บางคนที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว
 
"อดิศร" ขอบคุณรัฐบาล ไม่ตัดสัญญาณ "แม้ว" โฟนอิน พร้อมเชิญ "มาร์ค"ร่วมรายการ
เว็บไซต์แนวหน้า -  นายอดิศร เพียงเกตุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดี สเตชั่น จำกัด กล่าวว่า จากการเปิดตัวทดลองออกอากาศสถานีประชาธิปไตย เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะนี้ได้ออกอากาศครบอาทิตย์หนึ่งแล้ว ปรากฏว่า มีเสียงตอบรับจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้ทีมงานมีกำลังใจ ที่จะเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ ทางสถานีมีรูปแบบรายการที่หลากหลาย โดยพร้อมจะเปิดโอกาสให้ทุกคนในสังคมเข้ามาร่วมดำเนินรายการ ซึ่งรายการความจริงวันนี้ ของนายวีระ มุสิกพงศ์ ไม่มีโอกาสได้ออกอากาศทาง เอ็นบีที ก็มาออกอากาศที่สถานีนี้ ซึ่งวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟน - อิน เข้ามาในรายการ ซึ่งเราต้องขอบคุณรัฐบาลที่เปิดโอกาส โดยไม่ตัดสัญญาณ และขอรัฐบาลอย่าได้มองสถานีประชาธิปไตย เป็นสื่อตรงข้ามรัฐ แต่เราจะทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาล
นายอดิศร กล่าวต่อว่า สถานีประชาธิปไตยไม่ใช่สถานีของคนใดคนหนึ่ง หากนายกฯมีเวลาว่างก็สามารถโฟน- อิน เข้ามาได้ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ จะโฟน- อิน เข้ามาเล่าเรื่องที่ถูกประชาชนไล่ที่เชียงใหม่ก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีเว็บไซต์ www.dstation.tv ซึ่งผู้ชมรายการรับชมรายการสดผ่านทางเว็บไซต์ โดยเริ่มชมได้ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.เป็นต้นไป
"บัวแก้ว" เชิญทูต 5 ประเทศถก "โรฮิงยา"
เดลินิวส์ - ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงได้เชิญเอกอัครราชทูตประเทศพม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และบังกลาเทศ เพื่อหารือถึงกรณีชาวโรฮิงยาที่หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จากนั้น นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศทั้งหมดที่มาร่วมหารือในวันนี้เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากชาวโรงฮิงยา โดย นายวีระศักดิ์ เสนอให้จัดการประชุมระดับปฏิบัติการครั้งแรกขึ้นในประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางการปฏิบัติของประเทศต่างๆ เชื่อมโยงข้อมูลและข่าวกรอง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาระยะยาวทั้งนี้ ทุกประเทศก็แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ และจะนำกลับไปให้รัฐบาลพิจารณา และรีบตอบกลับโดยเร็ว
ด้าน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย ว่า โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) แถลงข่าว ยูเอ็นเอชซีอาร์ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับชะตากรรมของผู้อพยพทางเรือจากพม่า 174 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของอินโดนีเซีย หลังจากที่คนกลุ่มนี้ซึ่งเชื่อว่าเป็นชาวมุสลิมโรฮิงยาที่รอดชีวิตและมีการกล่าวหาว่าทหารไทยทำร้ายและผลักดันออกนอกทะเลจนมาพบในทะเลนอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่ามีอยู่ประมาณ 650 คน ทางยูเอ็นเอชซีอาร์ได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรถึงรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อขอเข้าเยี่ยมชาวมุสลิมโรฮิงยาเหล่านี้ แต่ได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาลอินโดนีเซีย และ กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียยังแถลงด้วยว่าจะปฏิเสธการขอลี้ภัยการเมืองกับผู้อพยพจากพม่าและบังกลาเทศ 193 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ฐานทัพเรือของอินโดนีเซีย
 
วิกฤตการเงินฟาดหัวฟาดหาง อัตราว่างงานพุ่งทะยานทั่วโลก
ASTV ผู้จัดการรายวัน - วิกฤตการเงินโลกกำลังก่อให้เกิดกระแสการว่างงานพุ่งพล่านทั่วโลก โดยแรงงานที่ถูกกระทบกระเทือนได้ง่าย อันได้แก่ หนุ่มสาวผู้เริ่มทำงานและผู้สูงวัย รวมถึงแรงงานชั่วคราวและแรงงานต่างด้าว จะถูกกระทบรุนแรงที่สุด จากการทรุดตัวของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันหมดภายใต้ระบบโลกาภิวัตน์
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net