การเมือง |
มท.1 ขอประชาชนตระหนักบ้านเมืองเสียหายมากแล้ว ใครมีหน้าที่อะไรก็ไปทำ อย่ามาชุมนุมอีกเลย
แนวหน้า - พล.อ.โกวิท วัฒนะ รักษาการณ์ รมว.มหาดไทย ในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้กำกับดูแลตาม พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในการประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ทางรัฐบาลให้ตนดูแลก็ทำหน้าที่ร่วมกับตำรวจทหาร ก็พยายายามให้เกิดความเรียบร้อยที่สุด ซึ่งรัฐบาลก็ต้องทำทุกอย่าง ป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยการป้องกันที่ดีที่สุดคือการที่พี่น้องประชาชนเห็นว่าบ้านเมืองมันเสียหายมามากแล้ว ถ้าทุกฝ่ายได้ไปทำมาหากินใครมีหน้าที่อะไรก็ไปทำ การชุมนุมควรพักช่วงไว้ก่อนให้บ้านเมืองได้คลี่คลาย คงไม่ต้องให้ตนไปออกทีวีพูดผ่านสื่อ ทุกฝ่ายก็ร่วมมือกันใครมีหน้าที่อะไรก็ช่วยกัน คิดว่าช่วยกัน เพราะบ้านเมืองบอบช้ำเป็นแสนล้านแล้วจากการชุมนุม 5 - 6 เดือนกว่าจะคืนสนามบินได้ ส่วนใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ก็ต้องว่าไปตามกฎหมายใครมีหน้าที่อะไรก็ทำไปใครผิดกฎหมายก็ว่ากันไป
พันธมิตรฯ โวย ทอท. หักหลัง เจรจาแล้วไม่ติดใจ แต่กลับลำฟ้อง 2 หมื่นล้าน ทำมึนบอก " ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย"
แนวหน้า - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่จะส่งคืนทำเนียบฯ ให้แก่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ว่า ในวันที่ 4 ธ.ค. เวลา 12.00 น. จะมีการส่งคืนทำเนียบฯ ให้กับทางสปน.อย่างแน่นอนคณะกรรมการเข้าตรวจสอบแล้ว ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี ทุกอย่างเรียบร้อย แต่ตนก็ยอมรับว่า มีบางตึกได้รับความเสียหายอยู่บางส่วน เนื่องจากมีพวกมิจฉาชีพเข้าไปขโมยของภายในตึก ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้ทางสปน.เข้ามาประเมินความเสียหายด้วยตนเองว่ามีมากน้อยเพียงใด หากจะมีการดำเนินการฟ้องร้องพันธมิตรฯ ก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ส่วนที่ทางคณะกรรมการการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) จะมีการฟ้องร้องแกนนำเรียกค่าเสียหาย 2 หมื่นล้านบาท นั้นนายสุริยะใส กล่าวว่า ทางพันธมิตรได้เตรียมใจไว้แล้ว ว่าจะถูกดำเนินคดี แต่ถ้าต้องถูกตัดสินให้จ่าย 2 หมื่นล้านบาท บอกได้เลยว่าไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพราะแกนนำไม่มีปัญญาจ่ายแน่นอน แต่ทางพันธมิตรขอตั้งคำถามต่อสังคมว่า ถ้าปล่อยให้รัฐบาลที่หมดความชอบธรรมปกครองประเทศต่อไป บ้านเมืองจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้หรือไม่ เรายืนยันว่าการยึดสนามบินไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นการทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเชื่อว่าศาลน่าจะเข้าใจในประเด็นนี้
นอกจากนี้ ขอตั้งคำถามกับผู้ใหญ่ในคณะกรรมการ ทอท. ที่เคยยืนยันกับแกนนำฯว่าจะไม่แจ้งความเอาผิด เพราะเห็นว่าการยึดสนามบินเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง และยังขอบคุณพันธมิตรฯด้วยที่ไม่ทำลายตัวอาคารและพูดคุยกันด้วยเหตุผล แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้นกลับลำแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากมีการเมืองเข้าแทรกแซงถ้าคิดว่าทำถูกแล้วก็เชิญ พันธมิตรยินดีที่จะสู้ในชั้นศาลอย่างเต็มที่
พาณิชย์สบช่องเลื่อนอาเซียนซัมมิต เร่งนำข้อตกลงผ่านกระบวนการม.190
ASTV ผู้จัดการรายวัน - นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การเลื่อนประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (อาเซียน ซัมมิต) ไปเป็นช่วงเดือนมี.ค.2552 จากกำหนดเดิมที่จะประชุม 15-18 ธ.ค.2551 จะทำให้ข้อตกลงการค้าและการลงทุนหลายฉบับทั้งในส่วนของอาเซียนจัดทำด้วยกันเอง และอาเซียนจัดทำกับประเทศคู่เจรจาล่าช้าออกไป 3 เดือน เพราะอาเซียนทั้ง 10 ประเทศต้องรอลงนามพร้อมกัน โดยในส่วนของไทยจะเร่งกลับมาจัดความตกลงให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะการนำข้อตกลงต่างๆ ให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
"มีผลกระทบในทางปฏิบัติบ้าง แต่ไม่รุนแรง เพราะข้อตกลงที่เป็นของอาเซียน ส่วนใหญ่เป็นข้อตกลงเดิมที่ทำกันก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นประชาคมอาเซียน (เออีซี) ซึ่งยังคงเดินหน้าตามที่ตกลงกันไว้ แต่ในส่วนข้อตกลงที่อาเซียนทำกับคู่เจรจา เป็นปัญหาที่ไทยจะต้องเร่งกลับมาจัดทำตามกระบวนการของไทยให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะขั้นตอนของสภาฯ เพราะหากไทยยังไม่สามารถลงนามในอาเซียน ซัมมิต ได้อีก จะกระทบกับไทยเอง ที่ทำให้ผลการบังคับใช้ช้าลง" นางสาวชุติมากล่าว
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งจะต้องมีการเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ (ครม.) จะทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีภายใต้กรอบอาเซียนและประเทศต่างๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากครม.ชุดเดิม ประกอบด้วย เอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เอฟทีเออาเซียน-เกาหลี และเอฟทีเออาเซียน-จีน ในส่วนของการลงทุน จะต้องถูกส่งเรื่องกลับมายังกระทรวงพาณิชย์ และเสนอต่อครม.ชุดใหม่ให้พิจารณา ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนของสภาฯ อนุมัติ ส่วนเอฟทีเอที่ผ่านครม.ไปแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนของสภาฯอย่างเดียวนั้น คือเอฟทีเออาเซียน-เกาหลี ที่เหลือไทยเพียงประเทศเดียวยังไม่ได้ลงนาม
ยิ่งลักษณ์ เปิดตัวยันลุยการเมือง ต้อนรับเข้าเพื่อไทยเอง
แนวหน้า - นายศักดา นพสิทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ส.ส.จากอดีตพรรคพลังประชาชนกว่าร้อยคนเดินทางมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว รวมทั้งแกนนำพรรคเช่นร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และวันนี้นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมาชิกพรรคก็มารอต้อนรับส.ส.พรรคพลังประชาชนและแสดงความยินดีที่ทุกคนมาร่วมงานกันที่นี่ นางยิ่งลักษณ์ยังสอบถามความเห็นเบื้องต้นจากส.ส.ว่า จะให้ทำงานด้านใดที่เหมาะสมเช่นแกนนำพรรคหรือลงสมัครเลือกตั้ง เป็นต้น โดยตอนนี้ยังสรุปไม่ได้เพราะต้องรอการประชุมวิสามัญของพรรคก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางยิ่งลักษณ์ เดินทางไปพรรคเพื่อไทยในวันนี้ เพื่อแสดงตัวยืนยันว่าจะมาทำงานการเมืองในนามสมาชิกพรรคและขอความเห็นสมาชิกพรรคว่าจะให้ทำงานด้านใดบ้างและน่าจะตรวจสอบรายชื่อส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชาชนว่ามีใครบ้างและวันนี้ยังมีส.ส.กลุ่มอีสานใต้ 20 คนมายื่นใบสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้วด้วยและยังกล่าวกับส.ส.ว่า ขอบคุณที่มาร่วมงาน มีอะไรก็ขอให้มาช่วยกัน ต้องการให้ทำอะไรหรือแนะนำสิ่งใดก็พร้อมรับฟัง หากมาร่วมกันที่นี่ก็จะไม่แพ้
ต่างประเทศ |
112อดีตผู้นำโลกจี้บันเยือนพม่า
ไทยโพสต์ - ข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จดหมายซึ่งลงนามโดยอดีตผู้นำโลก 112 คน และเปิดเผยโดยองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน 2 แห่งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม สนับสนุนให้เลขาธิการยูเอ็นปฏิบัติตามแผนการที่เขากำหนดเอาไว้ว่า จะเดินทางไปเยือนพม่าอีกเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ภายในสิ้นเดือนธันวาคม เนื้อความในจดหมายระบุว่า การเดินทางเยือนของบันจะแสดงให้โลกได้รู้ว่ารัฐบาลทหารพม่ามีความจริงจังกับการเปลี่ยนแปลงตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและหน่วยงานในสังกัดเรียกร้องหรือไม่
บรรดาอดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นับแต่เดือนมิถุนายน 2550 เป็นต้นมา พม่าซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของระบอบทหารมานานเกินกว่า 4 ทศวรรษ ได้จับกุมนักโทษการเมืองเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 2,100 คน จากเดิมที่มีราว 1,200 คน นักโทษการเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดของพม่าที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่คือ นางอองซาน ซูจี ผู้นำเรียกร้องประชาธิปไตยเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
จดหมายฉบับนี้ริเริ่มโดยอดีตนายกฯ เยลล์ แม็กเน บอนเดอวิค แห่งนอร์เวย์ และถูกเผยแพร่โดยศูนย์เพื่อสันติภาพและสิทธิมนุษยชนออสโลของบอนเดอวิคและกลุ่มฟรีดอมนาว บรรดาอดีตผู้นำที่ลงนามมีอาทิเช่น อดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช และจิมมี คาร์เตอร์ แห่งสหรัฐ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เช่น โทนี แบลร์, มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ และจอห์น เมเจอร์ และอดีตประธานาธิบดีมิฮาอิล กอร์บาชอฟ แห่งรัสเซีย
ปีนี้บันเคยเดินทางเยือนพม่าเมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อช่วยดูแลให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ต่างชาติสามารถเข้าไปช่วยเหลือเหยื่อพายุไซโคลนนาร์กีสได้ เขายังได้แสดงความจำนงหลังจากนั้นว่าเขาอยากจะกลับไปเยือนพม่าเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการเมือง กระนั้นนักการทูตกล่าวกันว่า บังยังลังเลที่จะกลับไปพม่าอีกครั้ง เว้นเสียแต่เขาจะมั่นใจถึงผลลัพธ์ว่ารัฐบาลทหารพม่าจะยินยอมปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งจนถึงขณะนี้แทบไม่มีสัญญาณว่าพม่าจะปฏิบัติตาม ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพม่ายังได้จับกุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเพิ่มอีกหลายสิบราย
โอเปกเล็งลดการผลิตอีกกลางเดือนนี้
ไทยโพสต์ - รัฐมนตรีน้ำมันกาตาร์เผยกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีกครั้งในการประชุมที่แอลจีเรีย วันที่ 17 ธ.ค.นี้
"ผมยังไม่ทราบว่าจะลดลงเท่าไหร่ เพราะเราต้องหารือกันก่อน" อับดุลเลาะห์ อัล-อัตติยาห์ รัฐมนตรีน้ำมันของกาตาร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมด้านปิโตรเคมิคอลที่ดูไบเมื่อวันพุธ
ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดตลาดวันอังคารที่บาร์เรลละ 47 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2548 และลดมาแล้วกว่า 100 ดอลลาร์ จากระดับนิวไฮที่ 147 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเดือน ก.ค เนื่องจากพิษวิกฤตการณ์การเงินโลกฉุดความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกดิ่งลง
โอเปกไม่ได้ตัดสินใจปรับลดเพดานการผลิตลงอีกเพื่อพยุงราคาน้ำมันในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการที่กรุงไคโรของอิยิปต์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพียงแต่ส่งสัญญาณว่าอาจหารือปรับลดกำลังการผลิตอีกราว 1-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมนัดหน้าที่แอลจีเรีย วันที่ 17 ธ.ค.นี้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)