การเมือง

แม้วเร่งนองเลือดจลาจล ศาลสั่งล็อกเงินโอ๊ค-เอม

ผู้จัดการรายวัน - นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯประกาศชุมนุมใหญ่หน้าสภา วันที่ 24 พ.ย.ซึ่งเป็นวันประชุมร่วมรัฐสภาว่า ต้องไปถามประธานรัฐสภาว่าจะมีการเตรียมรับมืออย่างไร ความจริงกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลก็ดีแล้ว อย่ามาสร้างให้เกิดความสับสน และอย่าทำให้คนไทยฆ่ากันเลย เพราะเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค. ก็รู้แล้วว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร น่าจะรอฟังที่ทำเนียบฯ จะดีกว่า อย่ามาให้เหนื่อยเลย

 

เมื่อถามว่าจะมีการระดมประชาชนมาเพื่อป้องกันการประชุมสภาหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะเมื่อพันธมิตรประกาศชุมนุม กลุ่มประชาชนผู้สนับสนุนเขาก็รับทราบอยู่แล้ว ก็พร้อมที่จะทำหน้าที่ทันที ดังนั้นเมื่อรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกลุ่มพันธมิตรก็ไม่ควรมาชุมนุม เพราะก่อนหน้านี้ได้มีการร่วมกันหาทางออก ไม่ว่าจะเป็นเวทีสานเสวนา ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ แล้วจะมาก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้อย่างไร ซึ่งพรรคพลังประชาชนเห็นว่า แนวทางที่จะสร้างความสมานฉันท์ได้ในขณะนี้คือ แนวทางตาม พ.ร.บ.สร้างความปรองดองแห่งชาติ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้เกิดความปรองดองได้อย่างไร ในเมื่อ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีกลุ่มการเมืองได้ประโยชน์ นายประชา กล่าวว่า ที่ผ่านมามีบางกลุ่ม บางพวกได้ประโยชน์อยู่แล้ว จึงทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ไม่มีความเป็นนิติรัฐเกิดขึ้น จึงทำให้เกิดปัญหา เมื่อหาทางออกเพื่อให้กฎหมายได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

 

"ขอให้จับตาดูวันที่ 25 พ.ย. และ25 ธ.ค.จะเห็นได้ว่า 1 บวก 1 เป็น 2 หญิงหนึ่งชายหนึ่ง ซึ่งจะมีหญิง หรือชายมาหรือไม่ ขอให้รอการโฟนอิน วันที่ 13 ธ.ค. แต่ก็ต้องติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร โดยในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ จะมีคนเดินทางมาจากสนามบินฮ่องกง สู่สนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 9.45 น. ด้วยเครื่องของการบินไทย เหตุการณ์วันนี้ มีทางออกให้ 2 ทาง คือ ถ้าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็จะต้องเกิดการนองเลือด เกิดปัญหาการจลาจลทั้งในเมือง และปริมณฑล เพราะเราโดนคดีการเมือง ทางออกที่เหมาะสมคือ ทุกคนต้องถอยกลับไปยืน และให้ประเทศชนะ เพราะหลักนิติรัฐ ไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้"

 

นายประชา กล่าวอีกว่า คนไทยทุกคนไม่มีใครสามารถถอนสัญชาติความเป็นคนไทยได้ นับถือศาสนาพุทธ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ทำไมจะกลับเมืองไทยไม่ได้ ดินแดนนี้เป็นของคนไทยที่ทุกคนมีสิทธิ วันที่ 25 ธ.ค. เป็นวันดี เป็นวันขึ้นปีใหม่ของฝรั่ง ซึ่งเหมือนกับวันขึ้นปีใหม่ของไทยจึงอยากให้จับตาดูให้ดี พันธมิตรฯ ยังขู่มาปิดล้อมสภาได้ ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาประเทศไทย วันที่ 25 ธ.ค.ไม่ได้ สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีที่ให้ยืนหรือเปล่า ยืนยันว่าการกลับมาของพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นการยั่วยุ

         

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงเมืองไทย จะต้องถูกดำเนินคดีทันที จะเป็นการสร้างเงื่อนไขให้มีมวลชนมากดดันหรือไม่ นายประชา กล่าวว่า เมื่อผู้ที่ถูกคำพิพากษาต้องถูกจำคุก เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาจับกุม ควบคุมตัวทันที ขนาดอยู่ต่างประเทศยังนอนเต้นท์ มาประเทศไทยทำไมจะนอนคุกไม่ได้ แต่การถูกจับกุมจะห้ามไม่ให้คนที่สนับสนุนมา คงไม่ได้ ดังนั้นก่อนที่จะเกิดเหตุ ควรหาทางป้องกันเอาไว้ก่อน

 

ผู้สื่อข่าวยังรายงานจากศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ ว่า วานนี้ (20 พ.ย.) ศาลฯ โดย น.ส.อมรา สัจจาสัย ตุลาการศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวนคดีดำหมายเลขที่ 1328/2551 มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ให้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)SCB ระงับการส่งเงินในบัญชีเงินฝากของนายพานทองแท้ และ นส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) มีคำสั่งวันที่ 11 มิ.ย.50 ให้อายัดเงินในบัญชีฝากธนาคารที่ครอบครัว บุตร บริวาร ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)SHIN ให้แก่กองทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ กับกรมสรรพากร ผู้ถูกฟ้อง จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

 

ทั้งนี้ ศาลปกครอง พิจารณาคำฟ้องและเอกสารที่ได้จากการไต่สวนคู่ความและบทบัญญัติกฎหมายแล้ว ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า คำสั่งอายัดของ คตส. ลงวันที่ 11 มิ.ย.50 อาศัยอำนาจตามประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 30 ก.ย.49 ส่วนคำสั่งอายัดของผู้ถูกฟ้อง อาศัยอำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 จึงเห็นได้ว่า หน่วยงานทางปกครองทั้งสองแห่ง อาศัยอำนาจตามกฎหมายคนละฉบับออกคำสั่งอายัดในทรัพย์สินรายการเดียวกัน

 

โดยปรากฏภายหลังที่ คตส. มีคำสั่งอายัดแล้ว เมื่ออัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นจำเลย ว่าร่ำรวยผิดปกติ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ขอให้ทรัพย์สินที่ คตส. สั่งอายัดไว้ พร้อมทั้งดอกเบี้ยของทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาฯ โดยยังไม่มีการเพิกถอนคำสั่งคตส.

ขณะที่ผู้ฟ้องยังรักษาเงินในบัญชีเงินฝากของบุคคลทั้งสอง ประมาณ 30,000 ล้านบาทไว้ก่อนโดยให้ผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย ซึ่งจากการไต่สวนยังพบว่าผู้รับมอบอำนาจของผู้ถูกฟ้อง ให้ถ้อยคำต่อศาลว่า นายพานทองแท้ และ นส.พินทองทา ผู้ค้างภาษี ได้อุทธรณ์การประเมินภาษีต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการฯมีอำนาจวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงจำนวนภาษีและเบี้ยปรับได้

 

จึงเห็นว่าหากผู้ฟ้องจะส่งเงินในบัญชีเงินฝากให้กับผู้ถูกฟ้อง หรือระงับการส่งเงินให้ผู้ถูกฟ้อง ย่อมอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี เนื่องจากทั้ง คตส.และผู้ถูกฟ้องต่างออกคำสั่งอายัดทรัพย์รายการเดียวกันโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย ผู้ฟ้องจึงอยู่ในฐานะยากลำบากต่อการปฏิบัติทางใดทางหนึ่ง ประกอบกับขณะนี้คดีที่เกี่ยวพันกับการบังคับทรัพย์สินดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองและศาลฎีกาฯ

 

ดังนั้นหากให้ผู้ฟ้อง ส่งเงินในบัญชีเงินฝากนายพานทองแท้ และ นส.พินทองทา ที่ถูก คตส. อายัดไว้ให้กับผู้ถูกฟ้อง แล้วถ้าภายหลังผู้ฟ้องต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ อาจเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ฟ้อง ซึ่งยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลังเนื่องจากเป็นเงินจำนวนสูงมาก อีกทั้งหากศาลปกครองมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าจะมีผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐ กรณีจึงมีเหตุอันสมควรที่ศาลจะกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอผู้ฟ้องคดี

 

ศาลจึงมีคำสั่งให้ธนาคารไทยพาณิชย์ระงับการส่งเงินในบัญชีเงินฝากของนายพานทองแท้ และ นส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูก คตส. มีคำสั่งวันที่ 11 มิ.ย.50 อายัด ให้กับกรมสรรพากร จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

 

เศรษฐกิจ

ไทยเบฟฯยกธงเบรกเข้าตลาดหุ้น   ที่ปรึกษาอ้างภาวะไม่เหมาะ-ม็อบนับหมื่นบุกตลท.

คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เครือข่ายต้านน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ 384 องค์กร และคณะสงฆ์ ได้รวมตัวกว่า 1 หมื่นคน ชุมนุมหน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อคัดค้านการรับหลักทรัพย์บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเบียร์ช้าง เข้าจดทะเบียน หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณาไฟลิ่งและคาดว่าจะมีผลในวันที่  21 พฤศจิกายนนี้

 

อย่างไรก็ตาม นายวิเชฐได้ขึ้นเวทีกล่าวภายหลังการหารือกับแกนนำผู้ชุมนุมรอบสุดท้าย (16.40 น.)  ว่า ตลาดหลักทรัพย์ได้รับอีเมลจากที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ว่า เอกสารไฟลิ่งของบริษัทยังไม่สมบูรณ์ และสรุปได้ว่า ในวันครบกำหนดไฟลิ่ง 30 วัน (21 พ.ย.) การกระจายหุ้นจะยังไม่เกิดขึ้นแน่นอน และถ้าการกระจายหุ้นไม่เกิดขึ้น ก็จะไม่มีการรับหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเช่นกัน ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการเข้าตลาดหุ้น

 

ทั้งนี้ บรรยากาศผู้ชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคักและโห่ร้องรวมทั้งปรบมือแสดงความยินดี ภายหลังนายวิเชฐขึ้นกล่าวผลสรุปบทเวที จากนั้นทางแกนนำได้ถามถึงเจตนารมณ์ต่อไปของผู้ชุมนุม ซึ่งแสดงออกในทิศทางเดียวกันว่า ในอนาคตหากบริษัทไทยเบฟเวอเรจดำเนินการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อีก เหล่าผู้ชุมนุมก็จะมาปักหลักชุมนุมเพื่อคัดค้านเช่นเดิม

 

แหล่งข่าวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า ขณะนี้ทางฝ่ายบริหารยังไม่มีท่าทีที่จะปรับเปลี่ยนมติในการจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แต่อย่างใด เพราะบริษัทค่อนข้างที่จะมีคำตอบที่ชัดเจนทั้งในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ที่ผ่านร่างแล้ว รวมถึงการบริหารงานที่โปร่งใส

 

ปตท.ตั้งงบ 2 หมื่นล้านพยุงราคาหุ้นทั้งกลุ่ม

กรุงเทพธุรกิจ - นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.ได้ตั้งกองทุนดูแลบริษัทในเครือวงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อหุ้นบริษัทในเครือคืนผ่านกองทุนด้านพลังงานที่มีอยู่ 2 กองทุน คือ กองทุนพลังงานปิโตรเคมี ซึ่งมี บลจ. ฟินันซ่าดูแล และกองทุนพลังงาน ที่ บลจ.ทหารไทยดูแล

 

โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ปตท.ได้ทยอยซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 3,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องระมัดระวังการใช้เงิน เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท และต้องระมัดระวังสัดส่วนการถือหุ้น เช่น บริษัทไออาร์พีซี ซื้อหุ้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 37 % แต่จะไม่ให้เกิน 40 % เพราะเมื่อรวมกับธนาคารออมสินแล้วจะทำให้บริษัทไออาร์พีซี มีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ

 

ทั้งนี้การซื้อหุ้นคืนดังกล่าวเพื่อเป็นการดูแลราคาหุ้นของบริษัทในเครือ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจปีหน้าทุกฝ่ายมองว่าจะรุนแรงและมีปัญหามากขึ้น ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปี 2553 อย่างไรก็ตาม ปตท.ยังมีภาระในการชำระคืนหนี้แต่ละปีประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

 

สุรินทร์หนุนอาเซียนผนึก ปล่อยกู้ ทุนสำรอง2.5%

กรุงเทพธุรกิจ - นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กล่าวในการประชุมนานาชาติ เรื่อง "อนาคตการรวมตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย" จัดโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (เจบิค) วานนี้ (20 พ.ย.) โดยเสนอให้ชาติเอเชียที่มีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศรวมกัน 500,000 ล้านดอลลาร์ กันเงินสำรอง 2.25 % หรือ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ให้ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) หรือ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) บริหาร ด้วยการนำไปปล่อยกู้ให้แก่บริษัทเอกชน ที่ต้องการทำโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่นโครงการเชื่อมต่อระหว่างลาว เขมร กัมพูชา และเวียดนาม รวมทั้งเส้นทางเชื่อมระหว่างคุนหมิงถึงสิงคโปร์ พร้อมชี้ว่า ข้อเสนอนี้ จะช่วยให้อาเซียนรวมตัวกันได้มากขึ้นและพัฒนาไปได้ไกลขึ้น รวมทั้งช่วยลดช่องว่างระหว่างกัน

สิ่งที่อาเซียนสามารถทำได้ในฐานะประเทศในกลุ่มเดียวกัน และภูมิภาคเดียวกัน คือ หันมามองทุนสำรองที่มี และคิดนอกกรอบในการใช้เงินดังกล่าวอย่างสร้างสรรค์มากขึ้น รวมทั้งรับมือกับวิกฤติในฐานะประชาคมแห่งเอเชียตะวันออก โดยมีกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เป็นเสาหลักอยู่ด้วย

เลขาธิการอาเซียน ยังระบุว่า ข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงเกิดวิกฤติล่าสุด คือการเกิดสัญชาตญาณการรวมกลุ่มอย่างสร้างสรรค์เชิงบวกในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยประเทศต่างๆ มีการรวมตัวกัน เพื่อรับมือและต่อสู้กับวิกฤติเป็นกลุ่ม ไม่ใช่ในลักษณะตัวใครตัวมันเหมือนวิกฤติเมื่อ 10 ปีก่อน และมีประสบการณ์กับมั่นใจมากขึ้น เตรียมพร้อมรับมือสู้วิกฤติ

 

เขายังยกตัวอย่างถึงสิ่งที่อาเซียนทำในการรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ เช่น การขยายความริเริ่มเชียงใหม่ (ซีเอ็มไอ) เพื่อช่วยสมาชิกเมื่อเกิดปัญหาการเงิน รวมทั้งหารือผู้นำอาเซียนนอกรอบ การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป(อาเซม)ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ก็บ่งชี้ถึงการประสานความร่วมมือของอาเซียน เพื่อหารือถึงเรื่องการรับมือกับวิกฤติโลกครั้งนี้ รวมทั้งการประชุมอาเซียนบวก3 ที่หารือในหัวข้อเดียวกัน

 

ต่างประเทศ

เฟดชี้ ศก.สหรัฐเสี่ยงเกิดเงินฝืดกดดาวโจนส์ดิ่ง

กรุงเทพธุรกิจ - นายโดนัลด์ คอห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มหดตัวลงเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปี และเฟดควรดำเนินการอย่างแข็งกร้าวในการสกัดกั้นความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด

 

"เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะอ่อนแอมาก และกำลังตกต่ำลงในขณะนี้ ซึ่งผมคาดว่า มีแนวโน้มสูงที่เศรษฐกิจจะมีอัตราการเติบโตติดลบเป็นเวลาราว 2-3 ไตรมาส และอัตราเงินเฟ้อจะร่วงลง แต่จะไม่ร่วงลงจนถึงระดับภาวะเงินฝืด" นายคอห์น กล่าว

 

นายคอห์นกล่าวว่า ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินฝืดยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ความเสี่ยงนี้ ก็เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และผู้กำหนดนโยบาย ควรเฝ้าระวังเพื่อสร้างความมั่นใจว่า ปรากฏการณ์นี้จะไม่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

 

รัฐบาลสหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ดิ่งลงระดับ 1 % ในเดือนตุลาคม ถือเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เริ่มจัดทำตัวเลขนี้ในปี 2490 เป็นต้นมา และตัวเลขล่าสุดนี้กระตุ้นความกังวลเรื่องภาวะเงินฝืด

 

นอกจากนี้ เฟด ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของสหรัฐประจำปีนี้และปีหน้า และพร้อมที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงต่อไป ในขณะที่มีความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่าเศรษฐกิจอาจเผชิญกับวงจรภาวะเงินฝืด

 

โจรสลัดเรียกค่าไถ่เรือซาอุฯ25ล้านดอลล์

กรุงเทพธุรกิจ - ไนโรบี - นายโมฮาเหมด ซาอิด หนึ่งในโจรสลัดโซมาเลีย เผยกับเอเอฟพีวานนี้ (20 พ.ย.) ว่าได้เรียกค่าไถ่เรือบรรทุกน้ำมันซิริอุสสตาร์ของซาอุดีอาระเบียเป็นเงิน 25 ล้านดอลลาร์พร้อมขีดเส้นตาย 10 วัน

 

"เราไม่อยากเจรจาให้ยืดเยื้อ ซาอุฯ มีเวลา 10 วันในการปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นเราจะดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดผลเสีย" นายซาอิด กล่าว

 

เรือซิริอุสสตาร์ ถูกจี้ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณนอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา ขณะบรรทุกน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล พร้อมลูกเรืออีก 25 คน การจี้ดังกล่าวเป็นการจี้เรือลำใหญ่ที่สุดและเป็นการลงมือในจุดที่ไกลจากชายฝั่งโซมาเลียมากที่สุดของโจรสลัด

 

ด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่าจากการประเมินจำนวนค่าไถ่ที่โจรสลัดโซมาเลียได้จากการจี้เรือตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน มีมูลค่าสูงถึง 25-30 ล้านดอลลาร์

"ตั้งแต่เดือนม.ค.-ต.ค. มีเรือสินค้า 65 ลำและลูกเรือ 200 คนถูกจี้บริเวณนอกชายฝั่งโซมาลี" นายบัน กล่าว

 

ศูนย์รายงานโจรสลัดแห่งสำนักงานเดินเรือระหว่างประเทศในมาเลเซีย ระบุว่า เงินดังกล่าวยังไม่รวมถึงค่าไถ่เรือขนส่งสินค้าอีก 17 ลำและลูกเรือกว่า 300 คน ซึ่งทั้งหมดยังถูกควบคุมโดยโจรสลัด