Skip to main content
sharethis

ที่มา: Siam Intelligence Unit







การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 4)
ระหว่างวุฒิสมาชิกบารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต และวุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน จากพรรครีพับลิกัน เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ที่มหาวิทยาลัยฮอฟตร้า มลรัฐนิวยอร์ก


ต้นฉบับจาก The New York Timesคลิปโต้วาทีจาก The New York Times


แปลและเรียบเรียงโดยกานต์ ยืนยง และอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ : Siam Intelligence Unit
ดูตอนที่ [1][2][3][4][5]


นโยบายด้านสุขภาพ


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เราจะเข้าสู้ประเด็นถัดไปคือการประกันสุขภาพ ด้วยภาวะเศรษฐกิจอย่างที่เห็นอยู่นี้ คุณคิดว่าจะจัดการค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอย่างไร ขอให้วุฒิสมาชิกโอบามาเป็นผู้ตอบก่อน


 


บารัค โอบามา:
เราจะทำทั้งสองด้านพร้อมๆ กัน แผนการของผมมีดังนี้


ช่วงที่ผ่านมาผมเดินทางไปหาเสียงทั่วประเทศ และพบเห็นปัญหานี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งมันทำให้คุณเศร้าใจมาก เมื่อวานนี้ผมอยู่ที่โทเลโด[26] และจับมือกับผู้สนับสนุนของผม มีผู้หญิงสองคนซึ่งอายุประมาณ 50 ปลายๆ เพิ่งโดนปลดจากโรงงาน และทั้งคู่ไม่มีประกันสุขภาพ



ทั้งคู่กังวลกับเรื่องค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอย่างมาก เพราะว่าหากป่วยขึ้นมาเมื่อไร อาจล้มละลายได้ทันที


แผนการของผมคือ ถ้าคุณมีประกันสุขภาพอยู่แล้ว คุณไม่ต้องทำอะไรอีก เช่นว่า ถ้าคุณได้ประกันสุขภาพจากนายจ้าง คุณสามารถใช้ประกันสุขภาพนั้นได้เหมือนเดิม เลือกหมอคนเดิมที่คุณรู้จัก แผนประกันสุขภาพยังเป็นของคุณเหมือนเดิม


 


สิ่งที่เราจะทำต่อไปคือลดค่าใช้จ่ายในระบบประกันสุขภาพ เพื่อว่าค่าใช้จ่ายที่ลดลงนี้จะได้มีผลไปถึงราคาประกันสุขภาพของคุณด้วย เท่าที่เราประมาณการณ์ เราสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของครอบครัวโดยทั่วไปลงได้ 2,500 ดอลลาร์ต่อปี และถ้าคุณไม่มีประกันสุขภาพ เราจะเปิดโอกาสให้คุณซื้อประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ซึ่งมีลักษณะเดียวกับประกันสุขภาพของข้าราชการ แบบเดียวกับที่วุฒิสมาชิกแม็คเคนและผมได้รับ ประกันสุขภาพแบบนี้จะมีคุณภาพสูง มีหมอให้เลือกจำนวนมาก และมีราคาถูก เพราะว่าจะมีคนจำนวนมากอยู่ในโครงการประกันสุขภาพอันนี้ ทำให้มีตัวหารเพิ่มมากขึ้น


 


เราจะพยายามเจรจากับบริษัทประกัน ไม่ให้กดวงเงินประกันของคนที่ป่วยเป็นโรคบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว (pre-existing condition)[27] เราจะเจรจากับบริษัทยาให้ได้ราคายาที่ถูกที่สุดที่เป็นไปได้


 


เราจะลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อขจัดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทางราชการออกไป เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น


 


และเราจะจัดการกับโรคเรื้อรังอย่างเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้ เราจะลงทุนในโครงการสาธารณสุขที่ทำให้คนมีสุขภาพดีขึ้น ป่วยไข้น้อยลง


 


นโยบายเหล่านี้จะต้องลงทุนสูงในช่วงแรก แต่ในระยะยาวแล้ว มันเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยให้ประชากรมีสุขภาพดี และช่วยลดงบประมาณของภาครัฐลงมา เพราะเราไม่สามารถจ่ายค่ารักษาที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปีได้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เอาล่ะ ถึงตาของคุณแล้ว วุฒิสมาชิกแม็คเคน


 



 


จอห์น แม็คเคน:
สถานการณ์นี้เป็นความเจ็บปวดของคนอเมริกัน พวกเขาเห็นค่าประกันสุขภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ประชากรอเมริกัน 47 ล้านคนไม่มีประกันสุขภาพ


 


เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นประเด็นสำคัญ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกนี้สร้างปัญหาให้กับคนชั้นทำงานและคนทั่วประเทศ ผมคิดว่าเราต้องแก้ไขหลายอย่างเลย


 


เราต้องนำประวัติการรักษาพยาบาลไปเป็นระบบออนไลน์ กรมการทหารผ่านศึก[28] ได้ดำเนินการเรื่องนี้แล้ว ผลที่ได้คือค่าใช้จ่ายลดลง เราต้องมีศูนย์สุขภาพชุมชนเพิ่มมากขึ้น ต้องมีคลินิกแบบที่ไม่ต้องนัดก่อนตรวจ ปัญหาโรคอ้วนในหมู่วัยรุ่นนั้นเป็นสถิติที่น่าตกใจ เราต้องมีโครงการฟิตเนส และโครงการอาหารเพื่อสุขภาพในโรงเรียน พ่อแม่ทุกคนควรรับรู้ว่าลูกของเขาได้ทำอะไรหรือกินอะไรบ้างขณะอยู่ที่โรงเรียน


 


เราต้องบอกให้นายจ้างให้รางวัลกับลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการสุขภาพและฟิตเนส


 


แต่ผมต้องการลดภาษี 5,000 ดอลลาร์ให้กับครอบครัวทุกครอบครัว แล้วนำส่วนลดนี้ไปซื้อประกันสุขภาพตามแต่คุณจะต้องการ


 


เพื่อนของผมคนเดิม ช่างประปาโจ จะมีปัญหากับระบบประกันสุขภาพของวุฒิสมาชิกโอบามา ถ้าคุณซื้อธุรกิจที่ว่า เจ้าของเดิมที่ขายให้กับคุณจะไม่ถูกขึ้นภาษี ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่วุฒิสมาชิกโอบามาต้องการ แต่คุณจะต้องมีลูกจ้าง มีครอบครัว และถ้าคุณไม่เข้าร่วมแผนประกันสุขภาพที่นำเสนอ เขาจะปรับคุณ


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมอยากรู้ว่าค่าปรับของวุฒิสมาชิกโอบามาจะเป็นอย่างไร แต่ผมไม่คิดว่าโจอยากจะจ่ายค่าปรับในช่วงเวลาที่อเมริกากำลังมีวิกฤตเศรษฐกิจหรอกนะ


 


วุฒิสมาชิกโอบามาต้องการสร้างหน่วยงานด้านสุขภาพขึ้นมาใหม่ แล้วยึดงานด้านสุขภาพของอเมริกาทั้งหมดมาเสีย ด้วยสิ่งที่เขาเรียกว่า ระบบจ่ายเงินที่เดียว (single payer system)


 


ถ้าคุณชอบระบบแบบนั้น คุณคงจะชอบแคนาดาและอังกฤษ[29] ด้วย ประเด็นคือ…


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
นั่นคือข้อโต้แย้งของคุณงั้นหรือ?


 


บารัค โอบามา:
สิ่งที่ผมพูดไม่ใช่แบบนั้น…


 


จอห์น แม็คเคน:
ไม่ คุณบอกแบบนี้ล่ะ


 


บารัค โอบามา:
ผมแค่บอกว่า…


 


จอห์น แม็คเคน:
อย่างนั้นเหรอ


 


บารัค โอบามา:
ผมแค่อธิบายแผนการของผม และผมยินดีจะคุยกับคุณนะ โจ ถ้าคุณฟังผมอยู่ตอนนี้ ค่าปรับของคุณคือ ศูนย์ คุณจะไม่โดนปรับเพราะว่า…


 


จอห์น แม็คเคน:
ศูนย์งั้นหรือ?


 


บารัค โอบามา:
ศูนย์ ผมพูดไปในการโต้วาทีครั้งก่อนแล้วและผมจะพูดอีกครั้งนะ จอห์น ผมจะยกเว้นธุรกิจขนาดเล็กให้ไม่ต้องใช้ระเบียบอันเดียวกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินพอซื้อประกันสุขภาพให้กับลูกจ้างได้ แต่กลับไม่ยอมซื้อ


 


ผมจะยกเว้นให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนนี้ แต่สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงิน ตอนนี้เรามีทางเลือกให้พวกเขาว่า พวกเขาจะจ่ายเงินซื้อประกันสุขภาพให้ลูกจ้างเอง หรือให้คนอื่นจ่ายให้


 


สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือลูกจ้างจะถูกรวมเข้าไปอยู่ในระบบ Medicaid ซึ่งได้เงินจากภาษีประชาชน หรือไม่อย่างนั้น พวกเขาจะไม่มีประกัน และถ้าเกิดป่วยจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน พวกเขาก็จะโดนขูดรีดจนหมดตัว


 


ครอบครัวโดยเฉลี่ยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มอีกปีละ 900 ดอลลาร์เพราะสาเหตุว่าไม่มีประกันจากนายจ้างนี่ล่ะ


 


ดังนั้นเราจะแก้ปัญหาโดยยกเว้นให้ธุรกิจขนาดเล็ก โจ ถ้าคุณต้องการทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยมอบประกันสุขภาพให้กับลูกจ้าง เราจะให้ส่วนลดคุณ 50% เพื่อที่คุณจะสามารถซื้อมันได้โดยไม่ลำบาก


 


ถ้าคุณไม่มีประกันสุขภาพ หรือต้องการซื้อประกันแบบกลุ่ม คุณจะมีสิทธิ์ซื้อประกันแบบที่ผมเพิ่งอธิบายไปเมื่อกี้


 


สิ่งที่เรายังไม่ได้พูดคือระบบประกันสุขภาพของวุฒิสมาชิกแม็คเคน เขาบอกว่าเขาจะให้ส่วนลดภาษีคุณ 5,000 ดอลลาร์ เพื่อให้คุณนำเงินส่วนนี้ไปซื้อประกันสุขภาพด้วยตัวเอง มันฟังดูดี แต่ปัญหาคือประชากรประมาณ 20 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพของนายจ้าง ปกติแล้วคนหนุ่มสาวที่สุขภาพดีจะซื้อประกันสุขภาพได้ในราคา 5,000 ดอลลาร์ต่อปี


 


แต่ผู้สูงอายุ เอาเฉพาะที่ยังสุขภาพดีก่อน เมื่อเกษียณอายุและไม่มีประกันสุขภาพจากนายจ้างแล้ว คุณจะต้องซื้อประกันสุขภาพเองด้วยเงิน 5,000 ดอลลาร์ นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แผนการของวุฒิสมาชิกแม็คเคนจะลดประโยชน์ในประกันสุขภาพของคนเหล่านี้


 


แต่ปัญหาคือประกันสุขภาพโดยเฉลี่ยของผู้สูงอายุราคา 12,000 ดอลลาร์ต่อปี ดังนั้นถ้าคุณได้เงิน 5,000 ดอลลาร์จากแม็คเคน แต่ประกันราคา 12,000 ดอลลาร์ แปลว่าคุณต้องจ่ายเพิ่มอีกมาก


 


ประเด็นสุดท้ายในนโยบายของวุฒิสมาชิกแม็คเคนคือตอนนี้ สิ่งที่ควบคุมบริษัทประกันอยู่คือกฎหมายของมลรัฐ และตามแผนของแม็คเคน เขาจะยกเลิกกฎหมายเหล่านี้ ผลคือคุณจะเห็นบริษัทประกันคิดค่าใช้จ่ายยิบย่อยเพิ่มมากขึ้น และลดประโยชน์บางส่วนลงจากแผนการประกันที่คุณซื้อ


 


ผมคิดว่านโยบายนี้ผิดพลาด และนโยบายด้านสุขภาพเป็นสิ่งที่เราต่างกันอย่างสิ้นเชิง


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
คุณคิดว่ายังไง?


 


จอห์น แม็คเคน:
สิ่งที่โจต้องการทำคือซื้อกิจการที่เขาเคยทำงานวันละ 10-12 ชั่วโมงทุกวันโดยไม่มีวันหยุดมาเป็นของตัวเอง และคุณเพิ่งบอกว่าคุณต้องการกระจายความร่ำรวยออกไป หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ เอาเงินของโจไป และคุณจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะใช้เงินส่วนนี้อย่างไร


 


โจ ตอนนี้คุณร่ำรวยแล้ว ยินดีด้วย และตอนนี้คุณจะกลายเป็นคนกลุ่มที่ต้องจ่ายค่าปรับ ถ้าหากว่าคุณไม่ซื้อประกันสุขภาพแบบที่วุฒิสมาชิกโอบามากำหนดให้กับลูกจ้างของคุณ ไม่ใช่ประกันสุขภาพแบบที่คุณคิดว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับครอบครัวของคุณ ลูกๆ หรือลูกจ้างของคุณ แต่เป็นแบบที่โอบามากำหนด


นั่นคือปัญหาของรัฐบาล ขนาดใหญ่ ตามแผนของผม ประชากร 95% ในอเมริกาจะได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มเติม ไม่เฉพาะการลดภาษี แต่ยังได้เครดิตสำหรับซื้อประกันสุขภาพอีก 5,000 ดอลลาร์ ประชากรส่วนที่ไม่ได้ประโยชน์ตรงนี้ คือกลุ่มที่มีประกันสุขภาพราคาแพง ซึ่งครอบคลุมการศัลยกรรมความงาม ปลูกถ่ายอวัยวะ อะไรทำนองนี้


 


ข้อดีของนโยบายนี้คือมันสามารถใช้ได้ทั่วอเมริกาทันที ตอนนี้ค่าประกันสุขภาพโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5,800 ดอลลาร์ ผมจะมอบเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์ให้ ซึ่งเงินส่วนนี้จะทำให้ประชาชนซื้อประกันจากที่ไหนก็ได้โดยไม่ลำบาก


 


นโยบายของผมเปิดโอกาสให้พวกเขามีสิทธิ์เลือกอนาคตด้วยตัวเองได้ ไม่ใช่อนาคตที่วุฒิสมาชิกโอบามาและรัฐบาลของเขาเลือกให้


 


นี่เป็นความแตกต่างทางแนวคิดของเรา ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าวุฒิสมาชิกโอบามาต้องการให้รัฐบาลเป็นคนตัดสินใจและดำเนินการเรื่องต่างๆ แต่สำหรับผมแล้ว โจ ผมต้องการให้คุณเป็นคนตัดสินใจเอง


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมต้องการเหลือเงินไว้ในกระเป๋าของคุณ ผมต้องการให้คุณมีสิทธิ์เลือกประกันสุขภาพสำหรับครอบครัวตัวเองได้ เราถูกรัฐบาลตัดสินใจแทนให้มามากพอแล้ว และรัฐบาลมีขนาดใหญ่จนเกินไป มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป ในช่วงแปดปีที่ผ่านมานี้ ขนาดของรัฐบาลโตขึ้นถึง 40%


 


เราไม่สามารถหาเงินมาอุดหนุนรัฐบาลที่ใหญ่ขึ้นในอีกแปดปีข้างหน้าได้แล้ว ถ้าหากว่าวุฒิสมาชิกโอบามาและพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง สถานการณ์จะเลวร้ายเข้าไปอีก คุณน่าจะเห็นผลงานจากที่เดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาช่วงสองปีที่ผ่านมานี้


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ผมให้คุณตอบกลับสั้นๆ


 


บารัค โอบามา:
สั้นๆ คือ พวกคุณได้ฟังนโยบายของผมไปหมดแล้ว ในแผนของผม ถ้าคุณมีประกันสุขภาพของนายจ้าง คุณไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม แต่ของวุฒิสมาชิกแม็คเคน มันมีความเสี่ยงสูงที่คุณจะไม่ได้รับประกันสุขภาพจากนายจ้างอย่างที่เคยได้


 


สิ่งที่จะเกิดกับคุณคือนายจ้างของคุณไม่ซื้อประกันสุขภาพให้คุณอีกต่อไป อย่าเชื่อคำพูดของผม หอการค้าสหรัฐซึ่งไม่ค่อยสนับสนุนพรรคเดโมแครตสักเท่าไรนัก ได้บอกว่านโยบายนี้สามารถส่งผลให้ระบบประกันจากนายจ้างถูกยกเลิกไปได้


 


ถ้าคุณมีประกันสุขภาพอยู่แล้ว สิ่งที่ผมต้องการทำก็แค่ลดค่าใช้จ่ายของคุณลง ซึ่งนั่นรวมถึงคุณด้วยนะ โจ


 


ความเห็นต่อการทำแท้งและการตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
เราจะพักเรื่องนี้และมุ่งสู่คำถามถัดไป คำถามนี้วุฒิสมาชิกแม็คเคนจะเป็นผู้ตอบก่อน วุฒิสมาชิกแม็คเคน คุณเชื่อว่าควรกลับคำตัดสินคดีโรกับเวด ส่วนวุฒิสมาชิกโอบามาคิดว่าไม่ควร


 



หนังสือพิมพ์ The New York Times พาดข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของประธานาธิบดี ลินดอน จอห์นสัน ในวันเดียวกับที่มีการตัดสินคดี โรกับเวด, ที่มา - วิกิพีเดีย


 


ผมขอให้คุณทั้งสองคนเสนอชื่อผู้พิพากษาในศาลฎีกา ที่มีความเห็นตรงข้ามกับคุณมาทำหน้าที่ตัดสินคดีนี้ เชิญวุฒิสมาชิกแม็คเคนก่อน


 


จอห์น แม็คเคน:
ที่ผ่านมา ผมไม่เคยคิดว่าผมจะต้องโดนบังคับให้เสนอชื่อผู้พิพากษาเพื่อตัดสินคดี ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่สมควร


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
แปลว่าคุณไม่ต้องการให้กลับคำตัดสินงั้นหรือ?


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมคิดว่านั่นเป็นคำตัดสินที่ไม่ถูกต้อง ผมเคยคิดว่ามีคำตัดสินหลายอันที่ไม่ถูกต้อง อำนาจในการตัดสินใจควรเป็นของรัฐบาลกลาง ผมเป็นผู้นิยมการปกครองในรูปสหรัฐ (federalist) และผมเชื่อว่าเราควรคัดเลือกผู้พิพากษาศาลฎีกาโดยวัดจากผลงาน มากกว่าให้ความเห็นอย่างนี้ ผมจะเล่าว่าเมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนที่วุฒิสภาสหรัฐกำลังมีปัญหา พรรครีพับลิกันต้องการคะแนนโหวตเสียงข้างมากเพื่อรับรองผู้พิพากษาใหม่ พรรคเดโมแครตกลับเล่นเกมการเมืองแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยไม่โหวตรับรอง ตอนนั้นเรามีตัวแทนจากรีพับลิกัน 7 คน และเดโมแครต 7 คน เราเปิดโอกาสให้คุณได้โหวต แต่คุณกลับไม่ยอมโหวตด้วยเหตุผลว่า คุณกลัวผู้พิพากษาหัวอนุรักษ์นิยมได้เป็นใหญ่ ตอนนั้นผมโหวตให้ผู้พิพากษาเบรเยอร์ และผู้พิพากษากินสเบิร์ก แต่ไม่ใช่เพราะผมเห็นด้วยกับแนวทางของพวกเขา ผมโหวตเพราะผมคิดว่าพวกเขามีความสามารถต่างหาก หลังจากนั้นปัญหาการเลือกตั้งก็ถูกแก้ไขไปได้ และเราก็มีกระบวนการเสนอชื่อประธานาธิบดีตามปกติ


 


วุฒิสมาชิกโอบามาโหวตค้านผู้พิพากษาทั้งสองท่าน เพราะมีแนวทางด้านการเมืองไม่ตรงกัน นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการทำในการแต่งตั้งผู้พิพากษา การเลือกตั้งผ่านพ้นไปได้ ผู้พิพากษาควรแต่งตั้งโดยดูจากผลงาน และนั่นคือสิ่งที่ผมทำ


 


ผมจะค้นหาคนที่เก่งที่สุดในโลกมาทำหน้าที่เหล่านี้ คนที่มีประวัติว่ามั่นคงต่อรัฐธรรมนูญมากที่สุดในอเมริกา ไม่ใช่คนที่ออกกฎหมายตามใจตัวเอง


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ถ้าเกิดว่ามันต้องมีใครสักคนจริงๆ มาทำหน้าที่นี้ล่ะ ถ้าเกิดว่าคนที่เข้าข่ายมีประวัติสนับสนุนการทำแท้ง คุณจะยังเลือกเขาไหม?


 


จอห์น แม็คเคน:
ผมจะเลือกคนจากผลงาน โดยส่วนตัวผมไม่คิดว่าคนที่สนับสนุนคำตัดสินของคดีโร-เวด
[30] นั้นควรคู่ต่องานนี้ แต่ผมก็จะยังโหวตคนโดยดูจากผลงานเช่นเดิม


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
โอเค


 


บารัค โอบามา:
ผมเห็นด้วยกับแม็คเคนว่าเราไม่ควรนำความเห็นส่วนตัวมาตัดสินใจ และการเลือกผู้พิพากษานั้นควรดูจากความสามารถว่า พวกเขาจะตัดสินคดีให้กับคนอเมริกันอย่างยุติธรรมขนาดไหน


 


สิ่งนี้จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอย่างยิ่งยวดของประธานาธิบดีคนถัดไป มีโอกาสสูงมากที่เราคนใดคนหนึ่งจะได้เป็นประธานาธิบดี และถ้าเราตัดสินใจเลือกผู้พิพากษาใหม่อีกครั้ง ผลของคดีโร-เวดอาจเปลี่ยนแปลงได้


 


ผมจะไม่แสดงความเห็นเช่นเดียวกัน แต่ผมเชื่อว่าผลการตัดสินคดีนี้ออกมาถูกต้องแล้ว ผมคิดว่าปัญหาการทำแท้งเป็นเรื่องที่พูดยาก และเป็นประเด็นด้านศีลธรรม ซึ่งมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเท่าๆ กัน


แต่สุดท้ายแล้ว ผมคิดว่าผู้หญิงคนนั้น (หมายถึงเหยื่อในคดี — ผู้แปล) ได้ปรึกษากับคนในครอบครัว แพทย์ ผู้สอนศาสนามาเป็นอย่างดีแล้ว จึงตัดสินใจเช่นนั้น และผมคิดว่ารัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิ์ด้านความเป็นส่วนตัว ในประเด็นที่ไม่ควรต้องลงประชามติ ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่ามาตราในการแก้ไขครั้งแรก ที่พูดถึงการลงประชามติ และมากกว่าสิทธิ์อื่นๆ ที่เราต้องตัดสินกันโดยป๊อปปูลาร์โหวต


 


บารัค โอบามา:
นี่จึงเป็นประเด็นที่สำคัญ ผมจะเลือกผู้พิพากษาโดยดูจากผลงานเก่าที่โดดเด่น คนที่มีความสามารถ และหวังว่าพวกเขาจะมีสามัญสำนึกตรงกับสิ่งที่คนทั่วไปจริงๆ ต้องเจอและเผชิญหน้า


 


ผมจะยกตัวอย่างอันหนึ่งสั้นๆ ผมกับวุฒิสมาชิกแม็คเคนมีความเห็นไม่ตรงกัน ในเรื่องที่ศาลฎีกาตัดสินให้ผู้หญิงที่ชื่อลิลลี่ เล็ดเบทเทอร์ แพ้คดีที่เธอได้รับค่าจ้างไม่เท่าเทียมกับผู้ชาย


 


ลิลลี่ได้รับค่าจ้างน้อยกว่าผู้ชายที่ทำงานอย่างเดียวกันมาหลายปี และเมื่อเธอนำเรื่องเข้าสู่ชั้นศาล ผู้พิพากษาบอกเธอว่า คุณรอนานเกินไปกว่าจะมาฟ้องร้องคดี ซึ่งจริงๆ แล้วเธอไม่รู้มาก่อนเป็นเวลานานว่าเรื่องนี้สามารถฟ้องได้


 


เราได้ลองพยายามแก้ปัญหานี้ผ่านทางวุฒิสภา ผมสนับสนุนให้เราเขียนระเบียบที่ชัดเจนขึ้นสำหรับศาล จอห์น แม็คเคนคัดค้านเรื่องนี้


ผมคิดว่าผู้พิพากษาควรเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ในขณะที่ถูกกดค่าจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ถ้าไม่มีใครอื่นสามารถช่วยเหลือเธอได้ ศาลควรต้องเป็นที่พึ่งสุดท้าย และผมอยากได้ผู้พิพากษาแบบนั้น


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
หมดเวลา


 


จอห์น แม็คเคน:
เราเห็นกันชัดเจนว่ากฎหมายนี้ยกเลิกเรื่องอายุความออกไป แปลว่าคุณสามารถย้อนไปทำคดีของ 20-30 ปีก่อนได้ นี่เป็นความฝันของพวกทนายไต่สวนเลย


 


ผมจะเล่าถึงทัศนคติที่สำคัญในเรื่องนี้ เราต้องเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของอเมริกา ซึ่งตรงนี้พวกเรากลุ่มที่ต่อต้านการทำแท้ง[31] เข้าใจกันเป็นอย่างดี เราต้องแสดงความกล้าหาญและความเห็นใจอย่างยิ่งยวดให้ผู้หญิงกำลังประสบอุปสรรคเหล่านี้เห็น


 


วุฒิสมาชิกโอบามา ตอนที่เป็นสมาชิกในวุฒิสภาประจำมลรัฐอิลินอยส์ เขาเป็นคณะกรรมาธิการด้านศาลยุติธรรม ได้โหวตค้านกฎหมายที่บังคับให้รักษาดูแลเด็กที่รอดจากการทำแท้งที่ผิดพลาด เขาโหวตค้านกฎหมายนี้


 


พอเรื่องเข้าสู่การโหวตภายในวุฒิสภาของสหรัฐ[32] เขางดออกเสียง เช่นเดียวกับที่เขาเคยทำมา 130 ครั้งในกฎหมายฉบับอื่นๆ ตลอดการเป็นวุฒิสมาชิก


 


ก่อนที่เขาจะเป็นกรรมการด้านศาลยุติธรรมไม่นานนัก มีกฎหมายฉบับหนึ่งของรัฐอิลินอยส์เกี่ยวกับการห้ามทำแท้งของแม่ที่มีครรภ์ระยะท้ายๆ[33] เขาโหวตค้านกฎหมายนี้ และเมื่อเรื่องถึงวุฒิสภาสหรัฐ เขางดออกเสียงอีกเช่นกัน


 


ผมไม่เข้าใจว่าคนเราจะสามารถงดออกเสียงในเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงอยู่ข้างเดียวกับกลุ่มที่สนับสนุนการทำแท้งแบบหัวรุนแรงในอเมริกา นี่ผมดูจากผลงานที่ผ่านมาของเขานะ ผลงานเก่าน่ะ


และตอนนี้เขาบอกว่าเราต้องทำอะไรบางอย่างกับคดีโร-เวด สิ่งที่วุฒิสมาชิกโอบามาเคยโหวตนั้นขัดแย้งกับความรู้สึกของคนอเมริกันโดยรวมอย่างชัดเจน


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
คุณจะตอบโต้อะไรไหม?


 


บารัค โอบามา:
ให้ผมตอบเรื่องนี้ละกัน ถ้ามันฟังดูเหลือเชื่อที่ผมโหวตค้านการรักษาชีวิตทารก ก็เป็นเพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ความจริงยังไงล่ะ


 


ความจริงมีอยู่ว่า รัฐสภาอิลินอยส์ผลักดันกฎหมายเรื่องนี้ ซึ่งระบุว่าคุณต้องรักษาชีวิตของเด็กแรกเกิดที่รอดจากการทำแท้ง ซึ่งประเด็นนี้มีอิทธิพลต่อแนวคิดในการตัดสินคดีโร-เวด แต่จริงๆ แล้ว รัฐอิลินอยส์มีข้อบังคับในเรื่องนี้อยู่แล้วว่า ต้องรักษาชีวิตเด็กแรกเกิด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงโหวตค้านกฎหมายนี้ ไม่ใช่เฉพาะผมคนเดียว รวมถึงคนที่ต่อต้านการทำแท้งทั้งจากเดโมแครตและรีพับลิกันด้วย


 


คนที่โหวตค้านกฎหมายนี้ยังมีสมาคมแพทย์อิลินอยส์ ซึ่งมีอุดมการณ์ว่าต้องรักษาพยาบาลโดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีข้อบังคับเรื่องนี้อยู่เช่นกัน


ผมเคารพความเห็นของผู้สนับสนุนการทำแท้งระยะปลาย แต่ผมสนับสนุนการห้ามทำแท้งระยะปลายอย่างเต็มที่ ตราบเท่าที่มีข้อยกเว้นเรื่องสุขภาพของมารดา และกฎหมายนี้ไม่ได้มีข้อยกเว้นที่ว่า


 


ผมได้พยายามเสนอประเด็นนี้เข้ามาโดยตลอด เพราะมันเป็นสิ่งที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ และเมื่อเรื่องนี้ถูกปฏิเสธจากคณะกรรมการร่างกฎหมาย ผมจึงงดออกเสียง เพราะว่าผมต้องการแสดงตัวว่าคัดค้านการทำแท้งระยะปลาย ตราบเท่าที่เรามีข้อยกเว้นนั้น


 


ประเด็นสุดท้ายเกี่ยวกับการทำแท้งที่ผมอยากจะพูดคือ ทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านมีความเห็นต่างกันมาก มันยากที่จะหาจุดยุติ


 


แต่แน่นอนว่ามันมีบางประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกัน เช่นว่า "เราควรจะปกป้องการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ โดยการให้การศึกษาที่เหมาะสมแก่วัยรุ่น สอนพวกเขาว่าเซ็กส์เป็นเรื่องจริงจัง และไม่ควรทำเป็นเรื่องเล่นหรือทำเอาสนุก เสนอตัวเลือกอื่นๆ ในการทำแท้ง และให้ความช่วยเหลือบรรดาแม่ๆ ถ้าเกิดว่าพวกเธอเลือกจะเก็บเด็กไว้"


 


เรานำเสนอสิ่งนี้ในพรรคเดโมแครตเป็นครั้งแรกในปีนี้ และผมคิดว่าเราสามารถหาจุดยุติที่เห็นตรงกันได้ เพราะไม่มีใครสนับสนุนการทำแท้งหรอกถ้ามีทางเลือกอื่น ผมคิดว่ามันเป็นทางออกที่น่าเศร้าเกินไป


 


บารัค โอบามา:
เราควรช่วยกันทำให้ปัญหาพวกนี้ลดลง


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
ผมขอให้วุฒิสมาชิกแม็คเคนตอบเรื่องนี้อย่างสั้นๆ…


 


จอห์น แม็คเคน:
เป็นอีกครั้งที่…


 


บ็อบ ชีฟเฟอร์:
และจากนั้นเราจะ…


 


จอห์น แม็คเคน:
เป็นอีกครั้งที่เราเห็นลูกเล่นทางสำนวนของวุฒิสมาชิกโอบามา เขายกเรื่องสุขภาพของมารดามาพูด เรื่องนี้ฝ่ายสนับสนุนการทำแท้งในสหรัฐพูดกันมานานแล้ว แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีความหมายอะไรเลย



ซินดี แม็คเคน ภริยาของวุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน, ที่มา - วิกิพีเดีย


 


ฝ่ายสนับสนุนการทำแท้งหัวรุนแรงในอเมริกายกประเด็นเรื่องสุขภาพขึ้นมาเสมอ แต่คุณลองดูครอบครัวของผมสิ ซินดี้[34] กับผมรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยงดู เรารู้ว่าคุณค่าของการรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงเป็นอย่างไร และเราจะทำทุกอย่างที่ช่วยสนับสนุนการรับเลี้ยงดูบุตรบุญธรรมในประเทศนี้


 


แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราจะหยุดการปกป้องสิทธิ์ของทารกในครรภ์ แน่นอนว่าเราทุกคนต้องช่วยกันในเรื่องนี้ เราต้องช่วยหญิงสาววัยรุ่นที่กำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยความเห็นใจ และเราต้องช่วยหาพ่อแม่บุญธรรมให้พวกเธอ เราต้องกล้าที่จะพร้อมรับทารกที่กำลังจะเกิดสู่โลกใบนี้ และดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี


 


 


จบตอนที่ 4
(ยังมีต่อ)
ดูต่อ ตอนจบ


 


 


...............................................


เชิงอรรถ


26.                 Toledo เมืองในมลรัฐโอไฮโอ


27.                 เป็นเรื่องปกติของวงการประกันว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว จะเสียเบี้ยประกันสูงกว่าคนปกติที่มีสุขภาพแข็งแรง


28.                 ต้นฉบับใช้คำว่า V.A. หมายถึง Department of Veterans Affairs (หรือกรมการทหารผ่านศึก) ดูhttp://www.va.gov


29.                 ประเทศแคนาดาและสหราชอาณาจักร มีระบบประกันสุขภาพครบวงจรของรัฐ ซึ่งต่างจากระบบประกันสุขภาพเอกชนของสหรัฐอเมริกา ประเด็นนี้ถูกนำมาพูดถึงในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Sicko ของผู้กำกับไมเคิล มัวร์


30.                 Roe v. Wade เป็นคดีด้านการทำแท้งที่ตัดสินโดยศาลฎีกาของสหรัฐ คณะผู้พิพากษา ตัดสินคดีว่ากฎหมายที่ต่อต้านการทำแท้งในอเมริกานั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ ดูเพิ่มที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Roe_v._Wade


31.                 ต้นฉบับใช้คำว่า pro-life หมายถึงกลุ่มที่เชิดชูความมีชีวิต เช่น ต่อต้านการทำแท้ง สิทธิ์ในการเลือกมีชีวิต ในที่นี้ขอแปลแบบเข้าใจง่ายว่า กลุ่มต่อต้านการทำแท้ง ในสหรัฐอเมริกากลุ่มอนุรักษ์นิยมมักจะเป็นกลุ่มต่อต้านการทำแท้ง


32.                 บารัค โอบามา เคยดำรงตำแหน่งทั้งสมาชิกวุฒิสภาภายในมลรัฐอิลินอยส์ และสมาชิกวุฒิสภาใหญ่ของสหรัฐ โดยเป็นตัวแทนจากรัฐอิลินอยส์


33.                 Partial-Birth Abortion Ban Act ดู http://en.wikipedia.org/wiki/Partial-Birth_Abortion_Ban_Act


34.                 Cindy McCain ภรรยาของจอห์น แม็คเคน เธอมีบุตรสามคนกับแม็คเคนแต่เคยมีปัญหาตั้งครรภ์แล้วแท้งหลายครั้ง ทั้งสองคนรับเด็กหญิงชาวบังคลาเทศมาเป็นบุตรบุญธรรม


 


 


 


 


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 1), 25/10/2551


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 2), 26/10/2551


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 3), 27/10/2551


การโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกาครั้งที่สาม (ตอนที่ 4), 28/10/2551


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net