Skip to main content
sharethis





แถลงการณ์ แนวร่วมเกษตรกรแห่งชาติเพื่อการปฏิรูปสังคมใหม่


เรื่อง   ขอประณามการกระทำต่อเหตุการณ์ตุลาทมิฬ


 


       เช้าตรู่ของวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 06.17 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 550 นาย ได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และปะทะกันจนก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน เกียรติภูมิของประเทศ และ ความเชื่อมั่นต่อนานาอารยะประเทศ รวมทั้งสร้างความแตกแยก ร้าวลึกในสังคมอย่างกว้างขวาง


 


      เราในนามกลุ่มประชาชนคนยากคนจนที่แสดงจุดยืนในการยึดมั่นต่อวิถีทางประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยกับเป้าหมาย วิธีการของกลุ่มพันธมิตร และรัฐบาลมาตั้งแต่ต้น กล่าวเฉพาะ กลุ่มพันธมิตรการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งได้สร้างสับสนให้กับคนยากคนจน และมีทัศนะที่ดูถูกดูแคลนคนยากคนจนที่ต่ำต้อยอยู่ท้องไร่ท้องนามาอย่างเปิดเผย และต่อเนื่อง และรัฐบาลเองก็ไร้ความจริงใจต่อปัญหาคนยากคนจนมาโดยตลอด จึงขอเสนอทางออกดังต่อไปนี้


 


       1.  ให้รัฐบาล และกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ร่วมกัน เจรจา หาข้อยุติข้อขัดแย้ง โดยเร่งด่วน


 


       2. ต้องจัดให้มีการปฏิรูปสังคมใหม่ในทุกมิติ โดยให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด


 


       3. ให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถ้าจะเคลื่อนไหวต่อไปต้องเคารพหลักอหิงสะธรรม และสงบเปิดเผย ปราศจากอาวุธเคร่งครัด


 


      4.. เพื่อให้หลักนิติรัฐ และนิติธรรมดำรงไว้อย่างศักดิ์สิทธิ์ ให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งทางแพ่ง และทางอาญาให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณะ


 


     5. ให้ทั้ง 2 ฝ่ายขอโทษประชาชนที่ไม่ส่วนรู้เห็นต่อกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นผ่านสื่อทุกแขนงโดยเร็วที่สุด


 


ด้วยความศรัทธา และเชื่อมั่น


 


แนวร่วมเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อการปฏิรูปสังคมใหม่


 


 


 


 






สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


เสนอ


ข้อเสนอแนะการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ (ฉบับที่ 3)


 


ตามที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง อันนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และต่อผู้บาดเจ็บทุกคน และมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้


 


1.       เยียวยา และชดเชยต่อผู้เสียหายโดยเร่งด่วน


 


2.       แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระ มีหน้าที่สืบสวน สอบสวน เพื่อทำความจริงให้ประจักษ์รวมทั้งหา
ผู้รับผิดชอบ โดยรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะนำผลแห่งการสอบสวนนั้นไปพิจารณาอย่างตรงไปตรงมา


 


 


3.       ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2545 เรื่องการใช้หลักกฎหมายกรณีผู้ชุมนุมละเมิดสิทธิของผู้อื่น โดยให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบใช้วิธีการเจรจาก่อน โดยเสนอแนะให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยให้ดำเนินการในระดับถ้อยทีถ้อยอาศัย และต้องมองว่าทุกคนเป็นผู้ร่วมชาติ


 


4.       รัฐบาลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่ถือปฏิบัติในนานาอารยประเทศ และหลีกเลี่ยงการดำเนินการซึ่งเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อความรุนแรง


 


 


5.        ลดเงื่อนไขความขัดแย้งและสร้างบรรยากาศความไว้วางใจ


 


6.       กวดขันมิให้มีการใช้สื่อที่ปลุกเร้าความโกรธ และความเกลียดชัง


 


 


7.       สนับสนุนการสร้างความสมานฉันท์ และการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกว้างขวางกว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพียงเท่านั้น ทั้งนี้ สภาที่ปรึกษาฯ ยินดีจะเข้าร่วมในกระบวนการที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมกันกำหนดกรอบ และวิสัยทัศน์ของการปฏิรูปดังกล่าวต่อไป


 


 


วันพุธที่ 8 ตุลาคม 2551


 


 


 






แถลงการณ์ฉบับที่ 6


เรื่อง ขอประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล


และขอเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก


 


จากสถานการณ์ความรุนแรงขั้นวิกฤตที่เกิดขึ้นที่รัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เป็นต้นมา ความรุนแรงได้แผ่ขยายไปทั่วกรุงเทพมหานคร และยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย แต่กลับเป็นวิกฤติที่จะนำประเทศเข้าสู่ภาวะกลียุค ลุกลามขยายวงไปทุกส่วนของสังคม  


 


การที่สถานการณ์ตกอยู่ในภาวะตึงเครียดดังที่เป็นอยู่ เป็นผลจากการสะสมเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดความรุนแรงของรัฐบาลมาตลอด ดังจะเห็นได้จากการตั้งข้อหากบฏต่อแกนนำซึ่งเป็นข้อหาที่เกินกว่าเหตุ การจับแกนนำในขณะที่กำลังเจรจาหาข้อยุติโดยสันติวิธี การใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อยั่วยุอย่างต่อเนื่องโดยไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณใดๆ ซึ่งนำไปสู่ความแตกแยกเรื่อยมา


 


การปฏิบัติการของตำรวจในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ภายใต้การชี้นำของรัฐบาลหุ่นเชิดนี้ได้นำไปสู่ความรุนแรงอย่างจงใจ นำมาซึ่งความบาดเจ็บสูญเสียถึงชีวิต การใช้อาวุธร้ายแรงของตำรวจต่อประชาชนมือเปล่าเป็นความเลวร้ายไร้เกียรติยศศักดิ์ศรีและไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองอีกต่อไป  การกระทำของรัฐบาลในครั้งนี้อาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ซึ่งรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   


 


กลุ่มมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์รักชาติขอประณามการใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาของรัฐบาล และเห็นว่ารัฐบาลต้องลาออกไป เพื่อการคลี่คลายของสถานการณ์ และความสงบสุขของชาติบ้านเมือง


 


 


กลุ่มมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์รักชาติ


8 ตุลาคม 2551


 


 






จดหมายเปิดผนึก


เรื่อง ขอคัดค้านการใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างเงื่อนไขการรัฐประหาร


 


 


            สืบเนื่องจากการดำเนินการสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่หน้าอาคารรัฐสภาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อให้เกิดการขาดเจ็บเป็นจำนวนมากทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อให้เกิดการขยายตัวของความขัดแจ้ง ความโกรธแค้น จนนำไปสู่สถานการณ์ที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้


 


            กลุ่มนักวิชาการและนักกิจกรรมด้านสันติวิธีมีความเห็นว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจขยายตัวจนเกิดความสูญเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้และอาจถูกนำมาใช้เป็นเงื่อนไขของการนำมาสู่การทำลายระบอบประชาธิปไตย เราจึงขอเรียกร้องดังนี้


 


๑.     พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคู่ขัดแย้งทางการเมืองฝ่ายต่างๆ จะต้องยุติการสร้างเงื่อนไขที่ก่อให้เกิดการใช้ความรุนแรงเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของตนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตประชาชน


 


๒.     รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทำหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมการชุมนุมนั้นจะต้องระมัดระวังไม่ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม คำนึงถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นและหามาตรการที่เหมาะสมในการควบคุมการชุมนุม


 


 


๓.     ประชาชนชาวไทยจะต้องร่วมคัดค้านการใช้ความรุนแรงของทั้งสองฝ่ายและเรียกร้อง ให้ทุกฝ่ายหาทางออกจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยวิธีการเจรจาและนำมาสู่การปฏิรูปการเมืองโดยสันติซึ่งเป็นความปราถนาร่วมของคนในสังคมขณะนี้


 


อนึ่ง วันนี้ (๗ ตุลาคม ๒๕๕๑) นักวิชาการและนักกิจกรรมด้านสันติวิธีผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงได้นัดชุมนุมกันเพื่อจุดเทียนและสวดภาวนาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลา ๑๙.๐๐ น. เป็นต้นไปเพื่อแสดงออกต่อสังคมให้เคารพรัฐธรรมนูญแก้ไขปัญหาตามกรอบกฏหมายและคำนึงถึงหลักสินติวิธีในการแก้ไขความขัดแย้ง


 


           ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net