Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ รายงานว่า กรณีนายนรชิต สิงหเสนี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายกิจการพหุภาคี ในฐานะเลขาธิการสโมสรสราญรมย์ ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกสโมสรสราญรมย์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอระดมทุนช่วยเหลือข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ 4 คน อันประกอบด้วย นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย, นายพิษณุ สุวรรณะชฎ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และนายเชิดชู รักตะบุตร อัครราชทูต (ปฏิบัติราชการที่กรมสนธิสัญญาฯ) ที่ประสบปัญหาอันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่


 


โดยข้าราชการทั้ง 4 คนนี้ถูกฟ้องร้องร่วมกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ข้าราชการทหาร และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวม 45 คน ในกรณีที่ทำให้ประเทศไทยสูญเสียอธิปไตยและเขตแดนบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหาร จากกรณีที่ ครม.มีมติวันที่ 17 มิ.ย. 2251 ให้ความเห็นชอบกับคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีประสาทพระวิหาร ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ซึ่งต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่า ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 วรรค 2 และต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติรับคำร้องดังกล่าวนี้แล้ว ซึ่งทางสำนักงานอัยการสูงสุดไม่รับว่าความให้ เพราะไม่ได้เป็นคดีความที่เจ้าหน้าที่ของรัฐถูกฟ้อง แต่เป็นเรื่องที่รัฐเป็นผู้ฟ้องร้องเอง ซึ่งในการจ้างทนายนั้น จำเป็นต้องใช้ทนายที่เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายอาญา และกฎหมายปกครอง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นทางสโมสรสราญรมย์จึงขอระดมทุนช่วยเหลือเพื่อนข้าราชการที่ประสบปัญหา ดังกล่าว


 


ปรากฏว่า ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ทางนายนรชิต สิงหเสนี เลขาธิการสโมสรสราญรมย์ ได้แจ้งความคืบหน้าให้สมาชิกได้รับทราบ โดยทำหนังสือเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2551 ตอนหนึ่งระบุว่า


 


1. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงิน สำหรับช่วยเหลือข้าราชการทั้ง 4 คน ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ และเป็นมงคลและขวัญกำลังใจอันสูงสุดแก่ข้าราชการทั้ง 4 ตลอดจนสมาชิกสโมสรสราญรมย์ทุกคน ซึ่งเรื่องนี้ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและข้าราชการอีก 3 คน ได้กราบบังคมทูลฯ แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ ในระหว่างส่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังราชอาณาจักรสเปน เมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย. 2551 แล้ว


 


2.สมาชิกสโมสรสราญรมย์ อาทิ นายอานันท์ ปันยารชุน, พล.อ.อ.สิทธิ เศวตศิลา, นายประจวบ ไชยสาส์น รวมถึงอดีต รมช.ต่างประเทศ ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ได้ร่วมบริจาคสมทบด้วย


 


3.ยอดเงินการระดมทุน ณ วันที่ 18 ก.ย. 2551 เป็นจำนวน 2,961,200 บาท 390 ยูโร 470 ดอลล่าร์สหรัฐ 1,200 หยวน และ 150,000 เยน


 


4. ทางปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งรองปลัดฯ (จริยวัฒน์) ว่า ส่วนตัวท่านจะไม่ขอรับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพราะเกรงจะเป็นการรบกวนเพื่อนข้าราชการ แต่ถ้าจะช่วยข้าราชการท่านอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหา ก็เป็นเรื่องความสมัครใจ และเป็นการแสดงน้ำใจของเพื่อนข้าราชการด้วยกัน


 


5.นายสุจินดา ยงสุนทร และนายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ อดีตเอกอัครราชทูต ได้กรุณารับที่จะดำเนินการร่วมกับทนายของท่านในการต่อสู้คดีให้ข้าราชการ กระทรวงต่างประเทศทั้ง 4 คน โดยไม่คิดค่าบริการ ค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากในที่สุด ไม่จำเป็นต้องใช้เงินที่ระดมทุนดังกล่าว ทางคณะกรรมการสโมสรจะประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการประการใดกับเงิน บริจาคดังกล่าว ซึ่งน่าจะรวมถึงการคืนให้แก่ผู้บริจาค หากประสงค์จะรับคืน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2551 เมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางไปยื่นฟ้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินคดีทางอาญาและถอดถอนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมทั้งคณะรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรม สนธิสัญญา เจ้ากรมแผนที่ทหาร ข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 45 คน จากกรณีที่มีมติเห็นชอบแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระ วิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งมติดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการรัฐสภา อีกทั้งไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนด้วย


 


 


...............................................


ที่มา: http://thaiinsider.info/space/content/view/11334/59/


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net