Skip to main content
sharethis


 



 



 


จากเหตุการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2550 ที่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกและถางไถพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์ บ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 50 ไร่  และต่อมาวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ชาวบ้านกู้กู ได้รวมตัวกันภายใต้กลุ่ม ชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เดินทางไปยื่นหนังสือถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ผืนนี้


 


และเมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 เวลา 14.30 น.  พ.ต.ต.นิมิตร  พรหมมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว หัวหน้าชุดพร้อมด้วยพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษอีก 3 คน เดินทางมาในพื้นที่บ้านกู้กูเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการบุกรุกป่าชายเลนอนุรักษ์บ้านกู้กู และมารับทราบปัญหาความต้องการของชาวบ้านที่เรียกร้องให้ติดตามการทำงานสถานีตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต และการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบของกรมที่ดิน


 


พ.ต.ต.นิมิตร  พรหมมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 7ว หัวหน้าชุดการตรวจสอบข้อเท็จจริงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบถาม แกนนำชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กูบอกว่า กลุ่มนายทุนได้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนอนุรักษ์ และขอให้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ป่าชายเลน นอกจากนี้ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ทางดีเอสไอได้ตรวจสอบข้อมูลจากสถานีตำรวจภูธร จ.ภูเก็  และหลังจากนี้จะทำหนังสือเพื่อดำเนินการตรวจสอบเรื่องที่ดินไปยังกรมที่ดินต่อไป


 


ทางด้านแกนนำชุมชนนายสมหมาย  เจริญสุข ประธาน ชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เมื่อก่อนพื้นที่ป่าชายเลนบ้านกู้กูอุดมสมบูรณ์มาก พวกเราเข้าไปทำงานในเมือง และเวลาว่างก็ทำประมง พื้นที่ป่าชายเลนช่วยให้พวกเรามีรายได้ และป่าชายเลนที่นายทุนมาบุกรุกกว่า 50 ไร่ ถ้ามีการเพิกถอนเอกสารสิทธิได้ก็จะทำการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติถวายพระราชินีนาถ


 


ส่วนนายอนุชา อาจหาญ รองประธานชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองได้รวมกลุ่มกันเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการเอาผิดกับคนที่บุกรุกป่าชายเลนอนุรักษ์ และขอให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบนั้นเสีย ที่ดีเอสไอมาวันนี้ ก็รู้สึกดีใจที่ได้เคยยื่นเรื่องไว้ตั้งแต่เดือนเมษายน ทางดีเอสไอก็ยังเดินทางมาตรวจสอบ แต่ก็ไม่อยากให้มาเอาข้อมูลไปแล้วก็หายเงียบ อยากให้ดีเอสไอผลักดัน ดำเนินคดีให้ได้จริงๆ 


 


สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนที่เป็นป่าอนุรักษ์ที่กลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกกินพื้นที่กินพื้นที่กว่า 50 ไร่ อยู่ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต  คดีการบุกรุกที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้งพื้นที่ป่าบกและป่าชายเลน เกิดขึ้นหลายกรณีในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net