Skip to main content
sharethis

การเมือง


ชาติไทยยังไม่คิดถอนตัวรบ. อ้างยังไม่ผิด5เงื่อนไข


มติชนออนไลน์ - พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ว่า พรรคชาติไทยไม่ได้พูดถึงการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลในวันที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาพูดในลักษณะกำลังพิจารณาอยู่นั้น ก็เป็นเพราะมีประเด็นเรื่องเงื่อนไข 5 ข้อของการเข้าร่วมรัฐบาล คำพูดดังกล่าวก็คือเป็นการพิจารณาดูว่าจะมีประเด็นใดผิดเงื่อนไข 5 ข้อดังกล่าวหรือไม่เท่านั้น ซึ่งก็ปรากฏว่ายังไม่มี โดยขณะนี้พรรคชาติไทยก็ยังคงทำงานในฐานะพรรคร่วมต่อไป ไม่ได้คิดถอนตัว

ส่วนเรื่องที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฝากความหวังในการเคลื่อนไหวไว้กับการถอนตัวของพรรคชาติไทยนั้น พล.ต.สนั่นกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีเหตุที่จะต้องพูดคุยกันถึงขนาดนั้น และการที่สมาชิกพรรคพลังประชาชน (พปช.) ออกมารับลูกประกาศขับไล่พรรคชาติไทยนั้น มองเพียงว่า ส.ส.ใหม่อาจจะยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองที่ว่าต้องอดทน แต่ก็เป็นสิทธิที่จะออกมา เรื่องนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไร


 


 


"จารุวรรณ" ยืนยันสร้างบ้านแค่ 4 ล้าน ชี้ถูกปั่นราคาถึง 50 ล้าน คลาดเคลื่อนเกินความเป็นจริง


มติชนออนไลน์ - คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาเรื่องมูลค่าบ้านพักที่กำลังก่อสร้างย่าน จ.นนทบุรี ว่ามีมูลค่าสูงถึง 50 ล้านบาท โดยปฏิเสธว่าเป็นความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก เนื่องจากว่า ตัวบ้านนั้นมีมูลค่าก่อสร้าง 4 ล้านบาทเศษเท่านั้น ซึ่งมีหลักฐานชัดเจน และเป็นบ้านที่ก่อสร้างถูกเว้นเป็นระยะ เนื่องจากเมื่อมีเงินจึงจะมาสร้างต่อ ส่วนที่ดินนั้น เป็นที่ของสามีที่ซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แต่เท่าที่ทราบ ก่อนหน้านี้มีการพยายามติดต่อผู้รับเหมาให้ให้ข่าวว่าบ้านหลังนี้มีมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท แต่ไม่สำเร็จ


 


อย่างไรก็ตาม คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวต่ออีกด้วยว่า ระยะหลังมีผู้กล่าวพาดพิงถึงตนเอง ในลักษณะกล่าวหาในทางเสื่อมเสียและดูหมิ่นหลายครั้ง ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาตั้งทนายความเพื่อดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายและเอาผิดต่อไป


 


 


61ส.ว.ขู่นายกฯเบี้ยวซักฟอกเชิญสื่อ-ปชช.นั่งฟังแทน


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ให้สัมภาษณ์การอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ว่า หลังการประชุมครม.วันอังคารที่ 17 มิ.ย. หากรัฐบาลยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะรับฟังการอภิปรายหรือไม่ ทางกลุ่ม 61 ส.ว.จะออกแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เพื่อจี้ให้รัฐบาลแสดงท่าทีที่ชัดเจน เพราะส.ว.มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 โดยที่รัฐบาลไม่มีสิทธิปฏิเสธ ถ้ารัฐบาลไม่มาชี้แจงข้อเท็จจริง ทางส.ว.ก็จะชิญประชาชนและสื่อมวลชนมารับฟังการอภิปรายแทน แล้วความเสียหายจะเกิดกับรัฐบาลเอง เพราะจะเป็นการอภิปรายข้างเดียว จนอาจมองได้ว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล


 



นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนที่จะขอเปิดอภิปรายทั่วไป 2 สภา ว่า รัฐบาลคงมีข้อจำกัดในเรื่องเวลาในสมัยประชุมสภาวิสามัญที่มีอยู่จำกัดมีแค่ ซึ่งจะต้องพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย เรื่องรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ซึ่งก็คงจะใช้เทคนิคเลื่อนออกไปเรื่อยๆจนสิ้นสมัยประชุมนี้ แต่ความจริงรัฐบาลน่าจะใช้สิทธิ์เปิดสภาเพื่อจะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องต่างๆ เพราะหลายประเด็นรัฐบาลยังไม่เคยตอบโต้ ทั้งนี้รัฐบาลเพิ่งบริหารงานประเทศมา ยังถือว่าไม่ล้มเหลว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลและทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆจะได้รับฟังการถ่ายทอด เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะผ่อนคลายได้


 



สำหรับญัตติ 61 ส.ว.ขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลนั้น นายยุทธนา กล่าวว่า กลุ่ม ส.ว.ดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็น ส.ว.สรรหา และเลือกเชิญ ส.ว.เลือกตั้งไม่กี่คน แต่พวกตนไม่ได้รับเชิญ ความจริงหากเชิญก็จะร่วมลงชื่อด้วยเพราะต้องการอภิปรายเสนอแนะรัฐบาลหลายอย่าง ดังนั้นคงไม่ได้ร่วมอภิปรายด้วย เพราะทราบว่าทางกลุ่ม ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อในญัตติได้กำหนดจำนวนบุคคลที่พูดไว้แล้วว่า 15-20 คนเท่านั้น



 


เมื่อถามว่าภาพความขัดแย้งระหว่าง ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.สรรหา จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร นายยุทธนา ชี้แจงว่า เป็นเพราะเรามีที่มาต่างกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีจะได้ตรวจสอบถ่วงดุลทั้งฝ่ายบริหาร และพวกเดียวกันเอง


 


 


ศาลไม่ชัวร์วงจรปิดบันทึกภาพ คนส่งถุงขนมใส่เงิน2ล้านบาท


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายรักเกียรติ วัฒนพงศ์ เลขานุการศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กล่าวถึงกรณีที่องค์คณะไต่สวนข้อเท็จจริงเงินถุงขนม 2 ล้านบาทจะประสานขอเทปวงจรปิดจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า ในวันที่ 10 มิ.ย.ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุการนำถุงขนมใส่เงิน 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่ศาล ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าในวันที่ 10 มิ.ย.กล้องวงจรปิดจะเปิดทำงานหรือไม่ เนื่องจากปกติศาลจะเปิดกล้องวงจรปิดเฉพาะเวลาศาลเปิดบัลลังก์ไต่สวนคดี ไม่ได้เปิดกล้องให้ทำงานไว้ 24 ชม.



 


"ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีกล้องวงจรปิดสำหรับรักษาความปลอดภัยอย่างดีอยู่หลายตำแหน่ง แต่ในวันที่ 10 มิ.ย.ไม่ได้มีกำหนดนัดเปิดบัลลังก์พิจารณาคดี ดังนั้นจึงอาจไม่มีการเปิดกล้องวงจรเพื่อบันทึกความเคลื่อนไหวบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ถ้าเกิดไม่ได้เปิดกล้องบันทึกภาพในวันเกิดเหตุจริง ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะมีเจ้าหน้าที่ศาลหลายคนที่เป็นพยานและทั้งหมดก็ถูกเรียกไปไต่สวนแล้วเมื่อวันที่ 13 มิ.ย." นายรักเกียรติ กล่าวและว่า หากองค์คณะผู้ไต่สวนเรียกขอหลักฐานดังกล่าวมาเจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการส่งให้เพราะเป็นคำสั่งองค์คณะซึ่งมีระดับรองประธานศาลฎีกาเป็นประธานสั่งการได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ซึ่งขอให้รอดูผลในชั้นการไต่สวนขององค์คณะว่าเทปจะมีการบันทึกหรือไม่บันทึก



 


ทั้งนี้นายรักเกียรติ กล่าวด้วยว่า ตนเองคงไม่ต้องเข้าให้ข้อมูลต่อองค์คณะไต่สวน แม้เป็นเลขานุการซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของศาล เพราะในวันที่ 10 มิ.ย.ตนเดินทางไปประชุมที่รัฐสภา จึงไม่ใช่ผู้พิพากษาที่เข้าไปตรวจสอบถุงเงิน 2 ล้านบาท



 


ด้านนายธนา เบญจาทิกุล หนึ่งในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองยังเป็นทนายความให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้ทำคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก และในวันที่ 10 มิ.ย.ก็ไม่ได้ไปที่ศาลฎีกาฯ และไม่ใช่ทนายที่นำถุงขนมเงิน 2 ล้านบาทให้เจ้าหน้าที่แต่กลับมีคนกลั่นแกล้งออกข่าวโยงมาถึง



 


"ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณมีอยู่หลายทีม ซึ่งส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าคนที่ไปทำเรื่องนี้เป็นใครแต่เชื่อว่าคนเป็นทนายความไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอกเพราะถึงอย่างไรก็ต้องมีพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่ศาลยืนยันชี้ตัวได้ ผมอยากให้ใช้สามัญสำนึกปกติคิดดูว่าถ้าคนจะวิ่งเต้นติดสินบนศาลจะทำกันโจ่งแจ้งอย่างนี้หรือ ถ้ามีทนายไปทำแบบนั้นไม่โง่ก็ปัญญาอ่อน" นายธนา กล่าว


 


 



เหลิมพลิ้ว!ไม่ห้ามเคเบิลยิงสดASTV


โพสต์ทูเดย์ - ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ระบุ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และสมาชิกวุฒิสภา เข้าใจผิด กรณีห้ามเคเบิ้ลทีวีถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตร เพราะตนเอง ไม่มีอำนาจสั่งปิด ASTV หรือ เคเบิ้ลทีวี ได้ แต่หากมีการถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตร ในช่วงที่มีการปราศรัยปลุกระดม หรือ กล่าวพาดพิงว่าร้ายผู้อื่น โดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 113 และ 116 กรณีขู่ใช้กำลังลบล้างอำนาจรัฐ การยุยงประชาชนให้ละเมิดกฎหมาย ผู้รับผิดชอบถ่ายทอดสดของเคเบิ้ลทีวีจะต้องใช้วิจารณญาณ ระงับสัญญาณการถ่ายทอดสด


 


รมว.มหาดไทย ยังท้าให้ แกนนำพันธมิตร คุยเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดของเคเบิ้ลทีวี เรื่องของการชุมนุมออกอากาศผ่านทาง ASTV เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงเรื่องดังกล่าวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และกรณีที่ นายกสมาคมเคเบิ้ลทีวี จะเข้าพบ ในวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.นั้น ตนจะรอให้เข้าพบ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้รับทราบ


 


 


สตช.จ้องรื้อคดีฟันแกนนำม็อบ ฟ้องมท.1สั่งตัดสัญญาณASTV


เว็บไซต์คมชัดลึก - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ วันนี้ (14มิ.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 21 แล้ว มีประชาชนร่วมชุมนุมค่อนข้างหนาตากว่าทุกวันที่ผ่านมา และทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับบรรยากาศทั่วไปนั้น มีการตั้งเต๊นท์บริเวณเกาะกลางถนนจนแน่นขนัด ซึ่งเป็นทั้งเต๊นท์ขายของ เต๊นท์ที่พัก และเต๊นท์แจกอาหารของกองทัพธรรม นอกจากนี้ยังมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามาจำหน่ายจำนวนมากทั้งที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม อาทิ เสื่อยื่อที่ระลึก ผ้าโพกหัว หรืออุปกรณ์การเคาะ อย่างไรก็ตาม มีคนนำสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมมาขายด้วยเช่นกัน เช่น รองเท้าเก่า แว่นตา รวมถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ



 


เมื่อเวลา 18.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายสุริยะใส กล่าวว่า จากการที่พันธมิตรฯใช้มาตรการตอบโต้คำสั่งที่มิชอบของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ที่ให้ระงับการถ่ายทอดสัญญาณของเอเอสทีวี และร.ต.อ.เฉลิมจะพยายามแก้ตัวแต่คำสั่งก็ได้มีผลเป็นรูปธรรมไปแล้ว และมีผลกระทบกับเคเบิลท้องถิ่นและประชาชนที่เป็นสมาชิก โดยขณะนี้มีประชาชนไปแจ้งความแล้วตามสถานีตำรวจหลายแห่ง และพันธมิตรฯกำลังปรึกษาว่าจะสามารถรวมคดีดังกล่าวเป็นคดีเดียวกันได้หรือไม่ แม้ว่าขณะนี้บางจังหวัดได้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้วและสามารถรับชมได้ตามปกติ แต่ก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว



 


นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลระบุว่าผู้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมายอาญา ม.113 และ 116 โดยมีพฤติกรรมล้มล้างรัฐบาลเป็นการกระทำซึ่งถือเป็นกบฏ ตนขอเรียนว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นกบฏตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด เขาใช้กฎหมายเพียงแค่มุ่งริดรอนสิทธิของประชาชนเท่านั้น และหากรัฐบาลหรือคนที่อยู่ในรัฐบาลเห็นว่าการปราศรัยบิดเบือนก็สามารถใช้สิทธิฟ้องร้องคนที่ปราศรัยได้โดยตรง เพราะเราได้ตกลงกันแล้วใครปราศรัยอะไรก็ต้องรับผิดชอบการปราศรัยนั้นด้วย เราไม่หวั่นไหวกับข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ทุกวันนี้เขาใช้สารพัดวิธีเพื่อสลายการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการออกข่าวว่าจะใช้กำลังตำรวจสลาย หรือล่าสุดใช้วิธีการตัดสัญญาณเอเอสทีวี และตนทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเตรียมรื้อคดีเก่าๆ ของแกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นมาพิจารณาใหม่ รวมไปถึงกรณีต่างๆ ที่ถูกยกฟ้องไปแล้วด้วย เขาจะทำเหมือนรื้อคดีของทั้ง นปก.และพันธมิตรฯขึ้นมา เพื่อให้ดูเหมือนว่าทำอย่างเท่าเทียม แต่ นปก.ฝั่งที่อยู่กับรัฐบาลก็จะไม่ถูกรื้อคดีขึ้นมาแต่อย่างใด



 


ขณะที่พล.ต.จำลอง กล่าวถึง กรณีที่ ส.ว.จะยื้นถอดถอน รมต.ว่า พันธมิตรฯไม่ได้เรียกร้องให้ทำอย่างนั้น แต่ก็เป็นสิทธิของท่านเอง ส่วนกรณีที่พันธมิตรฯของแต่ละจังหวัดเคลื่อนไหวตอบโต้การระงับสัญญาณเอเอสทีวีโดยการปิดล้อมจวนผู้ว่าฯ เรื่องนี้เป็นความคิดของพันธมิตรฯแต่ละจังหวัดเองว่าจะตอบโต้อย่างไร แต่ไปๆมาๆ ก็ทำมาในทำนองเดียวกัน เขาไปริเริ่มกันเองไม่ได้มีคำแนะนำออกจากส่วนกลางแต่อย่างใด



 


ด้านนายพิภพ กล่าวว่า ตอนนี้คนในรัฐบาลมีอยู่สามฝ่ายคือ 1.สายเหยี่ยวที่พยายามใช้อำนาจจัดการประชาชน นำโดยนายสมัคร สุนทรเวช และร.ต.อ.เฉลิม โดยมีความพยายามจะจัดการกับผู้ชุมนุม รวมไปถึงข้อหากบฏ ซึ่งเผด็จการในอดีตก็เคยใช้วิธีนี้มาแล้ว รวมไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่มีอำนาจในการสั่งถอดสัญญาณเอเอสทีวี ดังนั้นการกระทำของร.ต.อ.เฉลิมจึงเป็นการทำเกินหน้าที่ 2.กลุ่มสายกลางที่ปล่อยใหัพันธมิตรฯดำเนินการไปเรื่อยๆ และ 3.กลุ่มที่ไม่เคลื่อนไหว ทำมาหากินไปเรื่อยๆ ทำโปรเจคใหญ่ๆ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ และเตรียมไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป



 


นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้ นายจรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กำลังถูกใช้อำนาจโดยการบีบให้ออกจากตำแหน่งคณบดี เนื่องจากได้ขึ้นเวทีปราศรัยพันธมิตรฯ ซึ่งเราขอให้กำลังใจนายจรัส โดยเราได้รับการติดต่อว่ายังมีนิสิตและคณาจารย์อีกหลายคนที่สนับสนุนให้นายจรัสทำหน้าที่ต่อไป แต่พันธมิตรฯคงจะไม่เดินทางไปจุฬาฯแต่อย่างใด เพราะได้รับการประสานมาว่าคงจะไม่สะดวก หากพันธมิตรฯจะไป และการให้กำลังขอเป็นทางจดหมายหรือเอสเอ็มเอสจะดีกว่า


 


 


พันธมิตรชี้ รบ.เตรียมรื้อคดีเก่าเช็คบิลผู้ชุมนุม


มติชนออนไลน์ - เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 มิถุนายนที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนิน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พันธมิตรจะมีมาตราการตอบโต้คำสั่งของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีสั่งระงับการเผยแพร่สัญญาณของ เอเอสทีวี ซึ่งร.ต.อ.แฉลิมจะออกมาเปลี่ยนแปลงคำพูดว่าไม่ได้สั่งระงับสัญญาณแล้วก็ตามแต่คำสั่งดังกล่าวมีผลไปแล้ว ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านี้แนะนำให้หลายจังหวัดทั้งจังหวัดตรัง ข่อนแก่น ลพบุรี ที่ถูกตัดสัญญาณให้ไปแจ้งความ และในวันอังคารที่ 17 มิถุนายนนี้ จะไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ใน 2 คำร้อง คือ 1. ฟ้องโต้แย้งคำสั่งทางปกครองของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ระงับสัญญาณเอเอสทีวี พร้อมขอหลักประกันความคุ้มครองจากศาลว่าจะไม่คุกคามและระงับสัญญาณอีก 2. ฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด10 จังหวัด ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย โดยมีผู้เสียหาย คือ 1. บริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เจ้าของเอเอสทีวี 2. สมาคมเคเบิลแห่งประเทศไทย และ 3.ประชาชนผู้เสียหาย


 


นายสุริยะใส กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรไม่หวั่นไหวแม้รัฐบาล แม้ว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะพยายามแก้เกี้ยวเหตุตัดสัญญาณว่า การพูดบนเวทีของพวกตนเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 113 และ116 โดยกล่าวหาว่าพันธมิตรปลุกระดมท้าทายอำนาจรัฐและเป็นกบฏ โดยยืนยันว่าสิ่งที่พวกตนทำเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นกบฏ มองว่าสิ่งที่ร.อ.ต.เฉลิม กล่าวหาเป็นวิธีของคนที่ใช้กฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งพันธมิตรไม่หวั่นเกรงแม้จะถูกดำเนินการด้านกฎหมายเพราะพูดแค่ความจริง แต่ใครกล่าวโจมตีใครก็ให้ไปฟ้องกับผู้ที่ปราศรัยเองได้


 


นายสุริยะใส กล่าว ยอมรับว่าที่ผ่านมามีการพูดจาก้าวร้าว แต่ระยะหลังมีการเตือนกันและให้ลดความก้าวร้าวลงแล้ว ซึ่งความจริงการก้าวร้าว คือ การพูดตรงๆ แต่เส้นแบ่งระหว่างความก้าวร้าวกับการพูดตรงๆมันบางทำให้สังคมบางส่วนรับอะไรที่ตรงๆไม่ได้ อย่างไรก็ตามอยากให้สังคมมองในรายละเอียดให้มองที่สาระสำคัญการมาชุมนุม


 


นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าทางตำรวจเตรียมรื้อคดีเก่าของแกนนำพันธมิตรซึ่งศาลยกฟ้องและอัยการสั่งไม่ฟ้องขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกันก็รื้อคดีของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) ที่ยังเคลื่อนไหว ซึ่งไม่ใช่กลุ่มแนวร่วมโดยตรง แต่ต้องหยิบยกขึ้นมาเพื่อต้องการให้สั่งคมมองว่าไม่ได้เลือกปฏบัติ ขณะเดียวกันอำนาจทางการเมืองขณะนี้ยังคถุกคามไปถึงมหาวิทยาลัยโดยใช้อำนาจบีบบังคับอาจารย์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับ นายจรัส สุวรรณมาลา คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวรร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งอาจารย์นักศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย


 


ส่วนกรณีที่จะมีการเคลื่อนไหวไปบ้านพักร.ต.อ.เฉลิม วานนี้(13 มิ.ย.)  โดยนายสุริยะใส กล่าวว่า เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มจังหวัดพัทลุงไม่ใช่มติของแกนนพ เป็นเพียงแค่อารมณ์ของผู้ถูกกลั่นแกล้ง จึงไม่มีการเคลื่อนไหวไป ส่วนวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.จะเคลื่อนไปที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างแน่นอน 


 


 


คนสงขลาหนุนเคเบิลถ่ายASTV มั่นใจ "กลุ่มพันธมิตรฯ" ปกป้อง


เว็บไซต์คมชัดลึก - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว. มหาดไทย สั่งผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจสั่งการให้ผู้ประกอบการเคเบิ้ลทีวี ระงับเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียวของ สถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี โดยใช้กฎหมายอาญามาตรา 85 ทำให้ผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นในหลายพื้นที่ถูกกดดันให้ปิดการส่งสัญญาณทันที ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจอย่างหนัก ล่าสุดวันนี้ (14มิย.) แหล่งข่าวผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับคำสั่งให้ยุติการเชื่อมสัญญานอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้เชื่อว่าการสั่งระงับถ่ายทอดสัญญาณช่องใดช่องหนึ่งเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีเหตุผลพอ เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นซึ่งมีกว่า 400 แห่งอาจเรียกประชุมหารือเพื่อสรุปเป็นมติอีกครั้งในเร็วๆนี้



 


"เบื้องต้นได้รับแจ้งจากสมาคมผู้ประกอบการเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ที่จะนัดหารือในประเด็นดังกล่าวเป็นวาระเร่งด่วนเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน โดยในช่วงนี้จำเป็นต้องดำเนินการเชื่อมสัญญานต่อจนกว่าจะมีมติที่ชัดเจน เนื่องจากต้องยอมรับว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดตั้งเคเบิลเพราะต้องการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธฒิตรฯ โดยเฉพาะในภาคใต้จัดเป็นพื้นที่ที่มีความตื่นตัวทางการเมืองสูงจึงเป็นห่วงว่าหากตัดการเชื่อมสัญญาญจะเกิดผลกระทบตามมาได้" แหล่งข่าว กล่าว



 


ด้านนายเอกชัย อิสระทะ แกนนำพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า สงขลาถือเป็นศูนย์กลางพันธมิตรภาคใต้ เนื่องจากได้จัดเวทีคู่ขนานเวทีใหญ่พันธมิตรกรุงเทพฯมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนจำนวนมากกว่า 300-500 คนที่มารวมตัวรับฟังข้อมูลข่าวสารเป็นประจำทุกคืน ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนในพื้นที่ได้ให้การตอบรับพันธมิตรฯเป็นอย่างดี และที่สำคัญประชาชนจำนวนมากที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯผ่านช่องทางเคเบิลท้องถิ่นทำให้เคเบิลมีสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 50% แถมมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่



 


"พันธมิตรสงขลายืนยันยังยึดมาตรการดื้อแพ่งจัดกิจกรรมถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯต่อไป เนื่องจากไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในการสั่งปิดการเชื่อมสัญญานผ่านเคเบิลท้องถิ่นเพราะเหมือนรัฐบาลต้องการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงไม่ให้ประชาชนรับ หลังจากที่แกนนำพันธมิตรฯได้ปรับแผนการเคลื่อนไหวโดยหันมาให้ความรู้ประชาชนแทนทำให้สามารถปลุกพลังบริสุทธิ์จากทั่วประเทศให้เข้าร่วมการต่อสู้มาได้อย่างยาวนานนับเดือนจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลกลัวจึงต้องใช้อำนาจรัฐมากดดัน" นายเอกชัย กล่าว



 


แกนนำพันธมิตรสงขลาเพื่อประชาธิปไตย กล่าวอีกว่า สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคำสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นในส่วนผู้ประกอบการเคเบิลในจ.สงขลาประมาณ 4 รายที่ให้บริการในพื้นที่เขตเมืองสงขลา, หาดใหญ่ และสะเดา อาจต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน แม้เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดยังไม่มีคำสั่งที่ชัดเจนออกมาก ทั้งนี้ต้องรอดูท่าทีของผู้ประกอบการและหน่วยงานที่รัฐผิดชอบอีกครั้งแต่ยืนยันว่าหากไม่ได้รับความเป็นธรรมพันธมิตรฯพร้อมที่จะเข้าร่วมปกป้องเคเบิลทีวีท้องถิ่นเต็มที่


 


 


นพดลปิดปากกองทัพ ขอเดี่ยวเขาพระวิหาร


โพสต์ทูเดย์ — พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวว่า นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ (กต.) ได้โทรศัพท์มาขอร้องไม่ให้ทหารให้ข่าวหรือสัมภาษณ์กรณีเขาพระวิหารอีก เพราะ กต.กำลังเจรจา เมื่อเป็นความต้องการของนายนพดล ทหารก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของ กต. รับผิดชอบ


 


"ผมได้กำชับไม่ให้ทหารของกองทัพพูดเรื่องนี้ เพราะเดี๋ยวจะวุ่นวาย แต่หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาทาง กต.จะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เขาคงจัดการเรื่องนี้ได้ไม่น่าจะเกิดปัญหา ไว้ให้เกิดปัญหาเสียก่อนแล้วถึงจะเป็นหน้าที่ฝ่ายทหาร" ผบ.สส. กล่าว


 


ด้านนายนพดล ยอมรับว่า ได้ขอให้ปลัด กต. โทรศัพท์ไปหา พล.อ. บุญสร้าง เพื่อกำชับลูกน้องอย่าให้สัมภาษณ์เรื่องความลับทางราชการ หรืออย่าไปแอบอยู่ข้างหลังโดยอ้างเป็นแหล่งข่าว เพราะ กต.กำลังทำการใหญ่ ฉะนั้นอย่าทำให้เสียขบวน บางครั้งหินก้อนเล็กทำให้รถไฟตกรางได้


 


"ใครไม่มีหน้าที่พูดอย่าพูด ผมมีหน้าที่พูดขอพูดคนเดียว เพราะจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าท่านใดกล้าให้สัมภาษณ์ก็ขอให้ใช้ชื่อจริงจะได้ให้ รมว.กลาโหมได้ตักเตือน" นายนพดล กล่าว


 


 


ความมั่นคง


ตร.ทหาร200ปิดหมู่บ้านจับ5ต้องสงสัยป่วนใต้


เว็บไซต์สยามรัฐ - เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่14 มิ.ย. 51 พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ท.วรจิตร ศาสตร์ศิลป์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา ที่ 12 (ผบ.ฉก.12) นำกำลังตำรวจ ทหาร กว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่หมู่บ้านต้องสงสัยตามเป้าหมาย หลังมัสยิดบ้านกำปงบาโง และบ้านใกล้เคียง หมู่ที่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน จำนวน 30 หลังคาเรือน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นวันรุ่น จำนวน 5 คน เป็นคนในพื้นที่ อ.บันนังสตา 1 คน นอกนั้นเป็นคนในพื้นที่ ต.เกะรอ ต.กายูบอเกาะ ต.อาซ่อง 3 คน และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 1 คน ได้ของกลางเป็นโน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง เครื่องซีพียูคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงยึดนำมาสอบสวนเพื่อขยายผลและทำประวัติ พร้อมตรวจหาสารเสพติด ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับไป



 


สำหรับในการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นการตรวจค้นกดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ภายหลังที่ได้ก่อคดีใช้อาวุธสงครามถล่มยิงและเผา ร.ต.ต.สมคิด ทับทิมศรี รองสารวัตรปราบปราม สภ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตเหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา บนถนนสายท่าธง-รามัน หมู่ที่ 2 บ้านแยะ ต.อาซ่อง อ.รามัน นอกจากนี้ในวันที่ 15 มิ.ย.51 ก็จะเป็นวันเลือกตั้งนายกและ ส.อบจ.ยะลา และมีกระแสข่าวว่ากลุ่มก่อความไม่สงบเตรียมที่จะก่อเหตุในวันดังกล่าวด้วย ดังนั้น จนท.ทหาร ตร.จึงต้องออกกวาดล้างเพื่อป้องกันเหตุร้ายต่อไป


 


 


คุณภาพชีวิต


ยอดคูปองคนจนจ่อ13ล้านคน
โพสต์ทูเดย์ —แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์การให้คูปองคนจน โดยเบื้องต้นมีการอ้างอิงข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสถิติแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ โดยพบว่ามีผู้ใช้แรงงานที่อยู่ใน ข่ายที่ได้รับผลกระทบจากภาวะ ค่าครองชีพและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นถึง 12-13 ล้านคน จากจำนวนผู้อยู่ในวัยแรงงานทั้งหมด 34 ล้านคน


 


แหล่งข่าวเปิดเผยว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี มีรายได้แบบวันต่อวัน ได้ค่าแรงขั้นต่ำหรือเฉลี่ยวันละไม่เกิน 200 บาท และเดือนละประมาณ 6,000-8,000 บาท ซึ่งไม่สามารถดำรงชีพได้อย่างเพียงพอ จึงอยู่ในข่ายที่จะได้รับคูปองคนจน


 


ก่อนหน้านี้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า อาจจะโอนเงินผ่านรูปแบบบัตรเติมเงิน หรือบัตรสมาร์ตการ์ด เดือนละ 300-400 บาท


 


"ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับรูปแบบของการแจกคูปองว่าจะเป็นอย่างไร และจะต้องใช้วงเงินเท่าไหร่ เพราะหากต้องใช้งบประมาณสูงเกินไป ฐานะการคลังก็อาจมีปัญหา" แหล่งข่าวระบุ


ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนใช้บัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัตรสมาร์ตการ์ด จำนวน 17 ล้านคน โดยส่วนหนึ่งเป็นคนต่างจังหวัด แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นคนในกรุงเทพฯ


 


อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในเดือน ก.ย. 2551 นี้ จะมีการจัดหาบัตรสมาร์ตการ์ดให้แก่ประชาชนได้ถึง 64 ล้านใบ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ


 


นายสือ กล่าวว่า หากรัฐบาลโอนเงินให้ประชาชนโดยใช้รูปแบบของบัตรเติมเงินนั้น ก็คงต้องพิจารณาเรื่องการจัดซื้อบัตรเติมเงินต่อไป ขณะที่กระทรวงมหาดไทยน่าจะมีข้อมูลของประชาชนที่มีปัญหาเรื่องความจำเป็นขั้นพื้นฐาน หรือ จปฐ.


 


ด้านความเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกคณะรัฐมนตรีเงา กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเงาเห็นด้วยกับการ ใช้คูปองแก้จน แต่รัฐบาลควรทำ ให้เป็นระบบ ไม่ใช่หวังผลแบบโครงการประชานิยม แต่จะต้องขึ้นทะเบียนคนจนและกำหนดหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม


 


 


ห่วงวัยรุ่นหลงวัฒนธรรม "ช็อปไว ใช้แหลก แดกด่วน"


โพสต์ทูเดย์ - นายอรุณฉัตร คุรุวาณิชย์ ประธานสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สังคมของเด็กและเยาวชนไทย ยังคงถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่ไม่ดีมากกว่าพื้นที่ดี จากการสำรวจของสถาบันรามจิตติ พบว่าเยาวชนในปัจจุบันยังคงเผชิญกับวิกฤติชีวิตอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง ครอบครัวห่างเหิน เด็กกว่าครึ่งไม่เคยไปเที่ยวกับพ่อแม่ ไร้กิจกรรมร่วมร้อยละ 45 ไม่เคยตักบาตรร้อยละ 70 ไม่เคยฟังธรรม หันใช้ชีวิตสมัยใหม่ตามห้างสรรพสินค้า "วนในวัฒนธรรมช็อปไว ใช้แหลก แดกด่วน รักเซ็กส์ ยอมรับการมีคู่นอนมากกว่า 1 คน ไม่ชอบใส่ถุงยางกับ "ครั้งแรก" มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก ทั้งยังคลั่งหวย รวยลัด วัดดวง พนันบอล ทำให้ยอดฆ่าตัวตายของวัยรุ่นพุ่งไม่ยอมหยุด และยังผู้ฆ่าตัวตายยังมีอายุต่ำลงทุกขณะ


 


ดังนั้น กลุ่มเยาวชนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร จัดสนทนาระดมความคิดเห็นของเยาวชน "พื้นที่สร้างสรรค์ของคนวัยมันส์" ในวันพรุ่งนี้ เวลา 16.00 น. ที่ AIS Future World ชั้น 4 Siam Paragon โดยตั้งความหวัง จะได้ข้อสรุปที่เด่นชัดถึง ความต้องการของเยาวชน ต่อพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อนำเสนอ ไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้หันมาจัดทำ และให้ความสำคัญกับอนาคตของชาติมากกว่าเดิม แทนที่จะมัวแต่ทะเลาะ แย่งชิงผลประโยชน์กัน จนลืมไปว่า อนาคต ความสำคัญของเยาวชนไทยนั้น ก็ถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นกัน


 


 


"กสท" กวาดล้างเว็บลามก


แนวหน้า - นายมารุต บูรณะเศรษฐกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมเว็บมาสเตอร์ผู้เผยแพร่ภาพลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่งว่า ทางหนึ่งที่กสท.จะช่วยให้การสอดส่องดูแลได้ผล คือร่วมมือกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ขอความร่วมมือประชาชนเมื่อพบเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือมีแนวโน้มในเชิงลามกอนาจารให้ช่วยกันแจ้งข้อมูลที่ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีของกระทรวงไอซีที ซึ่งจะมีการประสานกับ กสท. หรือผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งที่เกี่ยวข้องให้ทำการบล็อกเว็บไซต์ต่อไป


 


 


เศรษฐกิจ


"หม่อมอุ๋ย" ให้ ก.พาณิชย์สอบตก


โพสต์ทูเดย์ - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการอภิปรายศรษฐศาสตร์ว่า ด้วยการประเมินผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า ผลงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงการบริหารงาน 4 เดือนที่ผ่านมา เห็นว่ากระทรวงที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ กระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน ที่สามารถเดินหน้าโครงการในการพัฒนาระบบขนส่ง และโครงการในการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อเร่งเบิกจ่ายงบประมาณกระตุ้นการหวุนเวียนของเศรษฐกิจได้ รวมทั้งกระทรวงการคลังที่สามารถดำเนินนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีไม่กระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศมากนัก แต่เห็นว่า เริ่มมีความสับสนในเรื่องของการออกนโยบาย ในการแจกคูปองให้กับคนจน และการใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์


 


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงเศรษฐกิจเพียงกระทรวงเดียวที่เห็นชัดว่าสอบตกในการดำเนินนโยบาย คือ กระทรวงพาณิชย์โดยเฉพาะการกำหนดนโยบายข้าวด้วยการเปิดรับจำนำและการจัดทำข้าวถุงธงฟ้า


 


 


ต่างประเทศ


"แม็คเคน-โอบาม่า" ชูนโยบายศก.แต่ยังไม่สรุปเรื่องโต้วาที


เว็บไซต์คมชัดลึก - วุฒิสมาชิกบารัค โอบาม่า ว่าที่ตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปฏิเสธข้อเสนอของวุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ที่เสนอให้มีการโต้วาทีร่วมกัน 10 ครั้งต่อหน้าคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นรูปแบบที่แม็คเคนถนัด



 


ด้านโอบาม่าได้เสนอให้มีการโต้วาทีร่วมกัน 5 ครั้งจากนี้ไปจนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ในจำนวนนี้ มีเพียงครั้งเดียวที่เป็นการโต้วามีต่อหน้าคนกลุ่มเล็ก เพราะโอบาม่านิยมการโต้วาทีต่อหน้าคนจำนวนมาก ซึ่งฝ่ายแม็คเคนแสดงความผิดหวังอย่างมาก ต่อข้อเสนอนี้ของโอบาม่า



 


ขณะเดียวกัน ผู้สมัครทั้งคู่ต่างชูแผนเศรษฐกิจ เพื่อดึงคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่า โอบาม่าจะสามารถรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจได้ดีกว่าแม็คเคน ซึ่งถูกมองว่า มีนโยบายคล้ายกับรัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชจากพรรคเดียวกัน



 


แม็คเคนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า จะคงแผนการลดภาษีของประธานาธิบดีบุชต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่หมดอายุในปี 2553 และจะขยายการให้ความช่วยเหลือผู้ไม่มีงานทำ ส่วนโอบาม่าเสนอให้มีการลดภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง แต่จะเก็บภาษีในอัตราเดิมก่อนที่บุชจะตัดลด สำหรับกลุ่มคนร่ำรวยที่สุดในสหรัฐ



 


นักวิเคราะห์มองว่า นโยบายภาษีของแม็คเคนจะเป็นประโยชน์ต่อผู้มีรายได้สูงมาก ขณะที่นโยบายของโอบาม่าจะเพิ่มภาษีกับกลุ่มคนร่ำรวยที่สุด และเป็นประโยชน์สำหรับกลุ่มคนรายได้น้อย-ปานกลางมากกว่าแม็คเคน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net