เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์พฤษภา" 35ออกแถลงการณ์เรื่อง "ยุติความรุนแรง หยุดสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร" เนื้อหาระบุถึงกนณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดชุมนุมในวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยวัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อคือการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และการเรียกร้องให้มีการจัดการกับกลุ่มคนที่กลุ่มพันธมิตรฯเห็นว่า "แสดงทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์" ซึ่งการชุมนุมในวันดังกล่าวได้เกิดความรุนแรงขึ้น
แถลงการณ์ระบุไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อันเกิดจากคณะรัฐประหาร สามารถทำได้ แต่ปัญหาของเรื่องนี้อยู่การเลือกแก้รัฐธรรมนูญประเด็นไหน และแก้ไขอย่างไร อีกทั้งไม่เห็นด้วยที่จะใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างที่พันธมิตรใช้ในปัจจุบัน
สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์พฤษภา" 35 แสดงความคิดเห็นในแถลงการณ์ว่า การชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ เปิดเผย เป็นสิทธิขึ้นพื้นฐานทางการเมืองที่สามารถทำได้ ไม่ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร ส่วนเจ้าหน้ารัฐไม่เพียงแต่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเท่านั้น แต่จะต้องสกัดกั้นไม่ให้เกิดความรุนแรงทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายยึดมั่นในสันติวิธี และหลีกเลี่ยงที่จะสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะนั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการรัฐประหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แถลงการณ์เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์พฤษภา" 35 ยุติความรุนแรง หยุดสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร ตามที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดชุมนุมในวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 โดยวัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อคือการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และการเรียกร้องให้มีการจัดการกับกลุ่มคนที่กลุ่มพันธมิตรฯเห็นว่า "แสดงทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์" ซึ่งการชุมนุมในวันดังกล่าวได้เกิดความรุนแรงขึ้นดังที่ทราบโดยทั่วไปตามสื่อมวลชน ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้ง 2 ประเด็นด้วยเหตุผลว่า เราเห็นว่าไม่มีเหตุอันใดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 อันเกิดจากคณะรัฐประหารไม่ได้ อีกทั้งก่อนลงประชามติ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 กลุ่มพันธมิตรฯเองก็เห็นว่าให้รับไปก่อนแล้วมาแก้ตอนหลัง ดังจะเห็นได้จากแถลงการณ์ของสมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปการเมือง (สปป.) ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนพันธมิตร เช่น นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2550 ว่า "สปป.จึงมีมติให้รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ไปก่อน แต่ให้มีเงื่อนไขผูกพัน โดยขณะเดียวกันสปป.จะรณรงค์ผลักดันให้มีการแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 เป็นการเร่งด่วน เช่น มาตรา 111 ที่มาของ ส.ว. มาตรา 93 ระบบเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 229 242 246 และ 252 ที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระ มาตรา 309 การนิรโทษกรรม คมช.เหล่านี้เป็นต้น" ( "สปป.แถลงรับ รธน.50 สมเกียรติชี้กันระบอบทักษิณฟื้นคืนชีพ"ประชาไท 16 กรกฎาคม 2550 ) ดังนั้นปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญประเด็นไหน และแก้ไขอย่างไรต่างหาก เราไม่เห็นด้วยที่จะใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างที่พันธมิตรใช้ในปัจจุบัน เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาประเด็นสถาบันกษัตริย์ถูกใช้เป็นเงื่อนไขในการรัฐประหารแทบทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐประหาร 19 กันยา 2549 แต่อย่างไรก็ตามเรา -เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์พฤษภา"35- ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยที่เรามีความเห็นต่อเหตุการณ์ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ดังต่อไปนี้ 1.การชุมนุมทางการเมืองโดยสงบ เปิดเผย นั้นเป็นสิทธิขึ้นพื้นฐานทางการเมืองที่สามารถทำได้ ไม่ว่าอุดมการณ์ทางการเมืองเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร 2. เจ้าหน้ารัฐไม่เพียงแต่จะต้องไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเท่านั้น แต่จะต้องสกัดกั้นไม่ให้เกิดความรุนแรงทุกรูปแบบ 3. เราขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายยึดมั่นในสันติวิธี และหลีกเลี่ยงที่จะสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะนั่นจะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการรัฐประหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยความสมานฉันท์ เครือข่ายพิทักษ์เจตนารมณ์พฤษภา" 35 27 พฤษภาคม 2551 |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)