Skip to main content
sharethis





เศรษฐกิจ


 


นายกฯ โวจีดีพีโต 4.5%ครม.เมินค่าครองชีพ


ผู้จัดการรายวัน - นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้พูดเรื่องการเลือกตั้งในที่ประชุม แต่พูดถึงเรื่องผลการวัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้เสนอให้ที่ประชุมทราบว่า ในไตรมาสที่ 3 การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ซึ่งนายกฯ เห็นว่า เป็นการเจริญเติบโตที่ดี เมื่อเทียบกับการเริ่มต้นรัฐบาลเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น ตอนที่เฉลี่ยทั้งปีร้อยละ 4.5 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ


 


นายไพบูลย์กล่าวอ้างคำพูดของนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า ไตรมาสสุดท้ายอาจจะเพิ่มขึ้น ทางสภาพัฒน์ ฯ ประมาณการณ์ไว้ เรื่องภาวะทางเศรษฐกิจภาคใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ส่วนเรื่องปัญหาเฉพาะหน้า ค่าครองชีพด้านเศรษฐ-กิจ ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พูดถึง เพราะมีวาระการประชุมประมาณ 20 เรื่อง


 


ส่วนจะมีการประเมินหรือไม่ว่าหลังเลือกตั้ง สภาพเศรษฐ-กิจจะเครียดหนักหรือเบา กว่านี้ นายไพบูลย์กล่าวว่า ภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ที่เราคิดว่าลำบากในขณะนี้ในอดีตลำบากมากกว่านี้ แต่สังคมก็จะปรับตัวเปลี่ยนไป ส่วนที่ดีก็มีเป็นภาวะโดยทั่วไป เช่นราคาข้าวดีขึ้นเป็นต้น


 


เมื่อถามว่า เหมือนว่ารัฐบาลชุดนี้พยามจะไม่แตะต้องอะไรที่ร้อนๆ โดยส่งต่อให้รัฐบาลหน้าเป็นผู้ตัดสินใจ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เราทำมาปีกว่าๆ แล้ว คงไม่ริเริ่มของใหม่ สถานการณ์ที่ต้องดูแลก็ดูแลต่อไป ยังดูแลอยู่ แต่คงจะไม่เริ่มนโยบายใหม่ แม้จะมีข้อเสนอนโยบายใหม่ เราก็จัดทำข้อคิดเห็นเพื่อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ต่อไป


 


เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงาน สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีไตรมาส 3 (ตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ตุลาคม) ของปี 2550 ว่า จีดีพีขยายตัวร้อยละ 4.9 สูงกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 และสูงกว่าไตรมาส 1 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.2 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการลงทุนของภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ภาคการส่งออกขยายตัวในเกณฑ์ดี แม้จะมีสัญญาณชะลอตัว ดังนั้น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2550 จะขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.5 แม้ราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าที่คาดไว้เดิมเล็กน้อย แต่แรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อไม่มากนัก เนื่องจากโครงสร้างการใช้น้ำมันปรับตัวดีขึ้น ทำให้การปรับตัวในช่วงราคาน้ำมันสูงขึ้นทำได้ดี


 


"ภาพรวมเศรษฐกิจปลายปีนี้ยังดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกมากกว่าปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบ ทำให้คาดว่าไตรมาส 4 จีดีพีจะขยายตัวในระดับร้อยละ 4.6-4.7 ส่งผลให้ในปี 2550 คาดว่าเศรษฐกิจจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่าระดับร้อยละ 4.5 และเมื่อแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง โดยมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบเข้ามากระทบ ยังคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2551 จะขยายตัว ร้อยละ 4-5 จากการลงทุนภาครัฐ ที่จะขยายตัวถึงร้อยละ 8 " นายอำพนกล่าวและว่า ขณะนี้สภาพัฒน์จะกำลังศึกษานโยบายของพรรคการเมืองต่างๆอยู่ แม้ยังไม่ทราบว่าพรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล แต่จุดสำคัญที่จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจปี 2551 เติบโตได้ตามที่คาดหมายไว้ รัฐบาลชุดใหม่จะต้องดำเนินการลงทุนโครงการพื้นฐานที่จำเป็น และระบบลอจิสติกส์ของภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ทั้งโครงการขนส่งมวลชน เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง 2 สาย สายสีม่วง 1 สาย และโครงการรถไฟรางคู่ เพราะจะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มทำการลงทุน หลังจากภาคเอกชนหยุดชะงักมากว่า 2 ปี รวมไปถึงการขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนตามโครงการอยู่ดีมีสุข ของรัฐบาลชุดนี้ที่จัดสรรงบประมาณไปยังชุมชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก


 


"ดังนั้นปี 2551 ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ถ้าหากจะเดินหน้าเพื่อให้เกิดความสมดุล โครงการเหล่านี้ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างฐานราก รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวหรือภาคบริการที่เป็นการพึ่งพาเศรษฐกิจ รัฐบาลชุดใหม่ก็จะต้องยึดตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 มิฉะนั้นถ้าไม่ดำเนินการก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันเศรษฐกิจต่อไป"


 


คัดค้านดอนเมืองบินระหว่างประเทศ


เดลินิวส์ - ร.ท.อภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด เปิดเผยถึงกรณีที่บอร์ดบริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือทอท.มีมติให้สายการบินที่ให้บริการทั้งระหว่างประเทศ ในประเทศ และสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) มาเปิดให้บริการที่สนามบินดอนเมืองด้วยความสมัครใจว่า นายยาน อัลเบร์ค ประธานบริหารกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ได้ทำหนังสือถึง รมว.คมนาคม ไม่เห็นด้วยกรณีที่ย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง เพราะจะเป็นการทำลายศูนย์กลางการบินในภูมิภาคและไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน เพราะการบริหารไม่ใช่บริหารสายการบินเพียงสายการบินเดียว แต่เป็นการบริหารทั้งเครือข่ายการบิน ทั้งนี้ในส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่ใช้ 2 สนามบิน เนื่องจากทำให้สายการบินมีค่าใช้จ่ายสูง และที่ผ่านมาการบินไทยได้ลงทุนที่สนามบินสุวรรณภูมิไปแล้วกว่า 16,000-17,000 ล้านบาท จะใช้เวลาคุ้มทุน 5-10 ปี ส่วนนโยบายการเปิดใช้สนามบินดอนเมืองเน้นบริการคนไทยไม่ใช่ต่างประเทศ


 


พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวว่ายังไม่ได้รับรายงานจาก ทอท. แต่กระทรวง  จะพิจารณารายละเอียดในเรื่องนี้ให้รอบด้านก่อนที่จะเสนอให้ ครม.พิจารณาต่อไป โดยจะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้สายการบินใดสายการบินหนึ่ง แต่ธุรกิจการบินต้องมีการแข่งขัน ถ้าไม่พัฒนาสายการบินนั้น ๆ จะลำบากและประเทศจะเจริญได้อย่างไร


 


ส่วนกรณีที่การบินไทยระบุว่าการเปิดใช้ดอนเมืองเป็นเส้นทางบินระหว่างประเทศ ถือเป็นการทำลายประเทศชาตินั้น เป็นสิทธิของบุคคลที่จะมีความเห็นในเรื่องนี้ได้


 


จี้ ร.ฟ.ท.วางแผนวิธีการทำงานเปิดกว้างเอกชนร่วมเดินรถไฟ


ผู้จัดการรายวัน- นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมหัวหน้าผู้บริหารการรถไฟประเทศสมาชิก BIMSTEC (ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ) ครั้งที่ 4 วานนี้ (3 ธ.ค.) ว่า เป็นการสานต่อหลังจากมีการลงนามข้อตกลงในการเชื่อทางเส้นทางรถไฟระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยจะเน้นการพัฒนาเส้นทางขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โดยประเทศสมาชิกต้องวางแผนระยะยาวร่วมกัน ทั้งเรื่องโครงข่าย การบริหารจัดการที่ดิน การแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี และต้องดูภาพรวมด้านลอจินติกส์ของประเทศที่เป็น Inter Mode และศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่ใกล้แหล่งผลิต


 


ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องหาวิธีการทำงาน วิธีคิดใหม่ มีการเปิดกว้างในเรื่องการระดมเงินลงทุน เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งนโยบายที่ได้วางไว้คือ รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และให้เอกชนเข้ามาร่วมในการเดินรถ โดยกรองข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เกิดความร่วมมือด้านการลงทุนที่จะมีความช่วยเหลือจากธนาคารโลก เอดีบี ไจกา เจบิก ด้วย


 


นายสรรเสริญกล่าวว่า ในส่วนเส้นทางเชื่อประเทศเพื่อนบ้านด้านเหนือนั้นจะเป็นบริเวณเชียงของ ซึ่งจะเชื่อมจากเด่นชัย-เชียงราย โดยขณะนี้จีนลากเส้นทางรถไฟลงมาแน่นอนแล้ว ภาคอีสานจะเป็นบริเวณหนองคายและนครพนม ภาคตะวันตก จะเชื่อมบริเวณด่านเจดีย์สามองค์หรือที่ จ.ตาก ซึงจะต้องพิรณารายละเอียดต่อไป สำหรับสมาชิก BIMSTEC ประกอบด้วยบังกลาทศ อินเดีย พม่า เนปาล ศรีลังกา ภูฏาน และไทย


 


กสิกรรุกธุรกิจแนว "ยืดอกพกถุง"


เดลินิวส์ - นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดมิติใหม่ในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ในชื่อ เค-นาว ภายใต้แนวคิดที่ว่าจะนำองค์ความรู้ ซึ่งเป็นการสร้างอุตสาหกรรมใหม่   ให้เกิดขึ้นเข้ามาแทรกในอุตสาหกรรมธนาคาร จากเดิมที่ธุรกิจธนาคารจะเน้นตอบสนองผลิตภัณฑ์ทางการเงินเท่านั้น แต่มิติใหม่นี้จะนำองค์ความรู้มาแทรก ทำให้ธุรกรรมทางการเงินมีความหมายต่อชีวิตลูกค้า ทั้งในแง่ชีวิตส่วนตัวและชีวิตทางธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพราะลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน แต่ต้องการทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จด้วย


 


"จะอ่านว่า เค-นาว หรือจะโนว์ ก็ได้ นับเป็นมิติใหม่ของการสรรค์สร้างสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตลูกค้า ทั้งในแง่ชีวิตส่วนตัวและชีวิตทางธุรกิจ ซึ่งเป็นวิธีมองตลาดที่กว้างกว่าเดิม เพื่อให้การดำเนินธุรกิจธนาคารอยู่รอดต่อไปได้ โดยจะแทรกองค์ความรู้ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมใหม่ เข้าไปในอุตสาหกรรมธนาคาร เบื้องต้นอาจจะประเมินผลไม่ชัด แต่เชื่อว่าไม่เกิน 5 ปี แนวคิดดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจในเครือกสิกรไทยเติบโตไปได้ แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าธนาคารยังจะแข่งขันทางด้านราคาอยู่"


 


นายบัณฑูร กล่าวว่า พร้อมกันนี้ธนาคารได้นำน้ำดื่ม ผ้าเย็น และถุงยางอนามัยยี่ห้อของธนาคารไว้แจกฟรี โดยจะวางทุกสาขา ซึ่งเห็นว่าน้ำดื่มเพื่อความชุ่มใจ ผ้าเย็นเพื่อความชื่นใจและถุงยางอนามัยเพื่อความมั่นใจ เป็นอภินันทนาการจากเครือกสิกรไทย เพื่อการบริการทุกระดับประทับใจ โดยเห็นว่าการแจกถุงยางนั้นเป็นสิ่งที่สังคมไทยส่งเสริมให้คนไทยใช้อยู่แล้ว เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆ และเป็นการอิงกระแสยืดอกพกถุงด้วย ส่วนผ้าเย็นนั้นก็เพราะอากาศเมืองไทยร้อน เวลามีการชุมนุมที่ไหน ถ้ามีผ้าเย็นแจกก็ชื่นใจ ส่วนน้ำก็เป็นสิ่งที่ชีวิตขาดไม่ได้อยู่แล้ว


 


ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ารัฐมนตรีในรัฐบาลสุรยุทธ์ลาออกเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งจะส่งผลให้รัฐมนตรีที่ลาออกทั้ง หมด 5 คนนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ไม่ว่าจะลาออกหรือไม่ เพราะขณะนี้ประชาชนทุกคนให้ความสำคัญไปที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้มากกว่า พร้อมกันนี้คาดว่าสินเชื่อของธนาคารสิ้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ 8% จากเป้าหมายที่วางไว้ 8-13% ซึ่งยอมรับว่าธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารความเสี่ยงมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย


 


 






คุณภาพชีวิต


 


เล็งเก็บค่าผ่านน่านฟ้าแก้โลกร้อน


เว็บไซต์มติชน - เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดงาน "วันสิ่งแวดล้อมไทย" ที่อิมแพค เมืองทองธานี มีนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมกับเป็นแกนนำ ข้าราชการ องค์กรภาคประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกล่าวคำปฏิญาณว่า จะร่วมใจลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง


 


ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการ ทส. กล่าวว่า วันที่ 11 ธันวาคมนี้ จะมีการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศโลก (ไอพีพีซี) ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย มีตัวแทนจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกหารือว่าจะร่วมมือกันลดปัญหาโลกร้อนอย่างไร เรื่องสำคัญที่ต้องหารือคือ จะจัดการอย่างไรในภาคการขนส่งทางเครื่องบินที่พิสูจน์แล้วว่า ก่อให้เกิดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด กรณีนี้ในกลุ่มประเทศยุโรปได้เริ่มวางมาตรการทางภาษีผ่านราคาค่าตั๋วเครื่องบินแล้ว โดยจะนำเงินส่วนเกินสมทบแก้ปัญหาโลกร้อน ต่อไปไทยอาจต้องใช้มาตรการกลไกการพัฒนาที่สะอาดเข้ามาช่วย เช่น สายการบินประเทศใดบินเข้ามาปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในประเทศไทย จะต้องจ่ายค่าปล่อยก๊าซ ส่วนคิดราคาอย่างไร จะต้องไปคำนวณอีกที


 


ดร.เกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สผ.เคยหารือกับการบินไทย ได้ข้อสรุปว่า ไม่พร้อมที่จะทำเรื่องนี้ เพราะยังขาดข้อมูล


 


ออสซี่ร่วม "พิธีสารเกียวโต" แล้ว


โลกวันนี้ - ภายหลังนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลียนำคณะรัฐมนตรีทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งและเริ่มประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง นายรัดด์ได้แถลงว่า เขาได้ลงนามเพื่อให้สัตยาบันในพิธีสารเกียวโตว่าด้วยการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อนแล้ว ซึ่งจะได้เป็นสมาชิก ในพิธีสารเกียวโตอย่างสมบูรณ์ในปลายเดือนมีนาคมปีหน้า และในสัปดาห์หน้านายรัดด์จะประเดิมภารกิจเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำออสเตรเลียด้วยการเข้าร่วมการประชุมสภาพอากาศโลกที่บาหลีด้วย


 


 






วิทยาการ


 


จีนประกาศศักดาเดินหน้าสำรวจโครงการอวกาศลั่นปีหน้าส่งยานสำรวจดาวอังคาร"อิ๋งหั่ว1"


ผู้จัดการรายวัน - เมื่อวันอาทิตย์(2 พ.ย.) ดร.เฉินชังหย่า สมาชิกศูนย์วิจัยวิศวกรรมดาวเทียมเวี่ยงไฮ้ ผู้รับผิดชอบโครงการสำรวจดาวอังคาร ได้เปิดเผยว่า "ยานสำรวจดาวอังคารของจีนดวงแรกนั้น จะถูกส่งขึ้นโดยจรวดของรัสเซียในเดือน ต.คปี 2009 และคาดว่าจะเดินทางไปถึงดาวอังคารในเดือน ก.ย. 2010 และส่งภาพถ่ายจากดางอังคารกลับมายังโลก ซึ่งในขณะนี้ยามดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการทอสอบระบขั้นต้นและวางแผนจะติดตั้งและทำการเชื่อมต่อร่วมกับทางรัสเซียในเดือน พ.ค.ปีหน้า"


 


แม้ว่าดาวอังคารจะเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดก็ตาม แต่ระยะห่างจากโลกถึงดาวอังคารก็ยังจัดว่าไกลมาก โดยจุดที่ใกล้ที่สุดคิดเป็นระยะทาง 56.7 ล้านกิโลเมตรส่วนที่ไกลที่สุดอยู่ห่างถึง 400 ล้านกิโลเมตร ตามแผนงานแล้ว "อิ๋วหั่ว 1" จะต้องเดินทางเป็นระยะเวลาราว 11 เดือน และเดินทางไกลถึง 350 ล้านกิโลเมตร หรือไกลกว่าเส้นทางของ "ฉางเอ๋อ 1" หลายร้อยเท่า


 


หลังจากที่ยานสำรวจดาวอังคารได้เข้าสู่วงโครจรรอบดาวอังคารแล้ว จะทำการสำรวจทางวิทยาศาสตร์รอบดาวอังคารจากระยะ 800-80,000 กิโลเมตรเป็นระยะเวลา 1 ปี


 


นอกจากนั้น ในโครงการสำรวจดาวอังคารนั้น การควบคุมยานสำรวจจากระยะไหล ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายทางเทคดนโลยีของจีน เนื่องจากการส่งคำสั่งจากพื้นโลกไปถึงยานสำรวจดาวอังคารในแต่ละครั้งนั้น สัญญาณคำสั่งจะต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับนานถึงกว่า 40 นาที


 


ทั้งนี้ ในระบบสุริยะ ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 4 นับจากดวงอาทิตย์ ดาวอังคารมีขนาดเล็กกว่าโลกมาก ลักษณะพื้นผิวคล้ายโลกคือ มีภูเขา ภูเขาไฟ ทะเลทราย กุบเขาสูงชันและขั้วน้ำแข็ง เป็นต้น บรรยากาศบนดาวอังคารมีความหนาแน่นน้อยกว่าโลกมาก ส่วนใหญ่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนั้นยังพบเมฆ พายุ ฝุ่น ไอน้ำ และผลึกน้ำแข็ง บริเวณขั้วของดาวอังคาร สิ่งที่ทำให้นักววิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าดาวอังคารน่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่คือ มีลักษณะพื้นผิวที่เหมือนคลองอยู่มากมาย


 


ความน่าสนใจของดาวอังคารนำไปสู่การส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารหลายครั้ง เริ่มด้วยการที่สหรัฐฯ ส่งยานมารีเนอร์ 4 ไปโคจรรอบดาวอังคารในปี พ.ศ.2508  เพื่อส่งข้อมูลและภาพถ่ายเกี่ยวกับดาวอังคาร โดยยานไวกิ้ง 1 และ 2 ได้ลงจอดบนดาวอังคารในปี พ.ศ.2519 เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตแต่ผลที่ได้คือ ไม่มีอะไร ตั้งแต่นั้นมาคนส่วนใหญ่ก็สรุปว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่บนดาวอังคาร จนกระทั่งมีการค้นพบสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นซากสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วบนหินอุกกาบาตที่มาจากดาวอังคาร


 


 






กีฬา


 


มาเลย์บอยคอตตะกร้อซีเกมส์ยกชุด เหตุไทยเปลี่ยนลูกตะกร้อใหม่


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - มาเลเซียได้ตัดสินใจไม่ส่งทีมเซปัคตะกร้อทั้งทีมชายและหญิงมาแข่งขันในกีฬาซีเกม์ครั้งที่ 24 แน่นอนแล้ว โดย คริสโตเฟอร์ รัส ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์นิวส์ สเตรตส์ ไทมส์ ได้เผยว่า คณะกรรมการบริหารสมาคมตะกร้อของมาเลเซีย ได้จัดประชุมเพื่อหารือว่าจะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้หรือไม่ ก่อนได้ข้อสรุปว่า ไม่ส่งทีมเข้าร่วม โดยให้เหตุผลว่า ไม่พร้อมที่จะแข่งขันด้วยลูกตะกร้อแบบใหม่ ที่มีการเพิ่มยางมาห่อหุ้มลูกพลาสติกอีกที ซึ่งหลังจากนักตะกร้อมาเลย์นำมาทดลองเล่นแล้ว รู้สึกเจ็บ ไม่เหมือนตะกร้อลูกเดิม โดยเฉพาะเวลาที่ใช้ศีรษะโหม่ง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลไม่ส่งทีมเข้าร่วม


 


 






ต่างประเทศ


 


สองอดีตนายกฯปากีสถานจับมือเตรียมชนมูชาราฟลงชิงชัยแย่งที่นั่งในสนามเลือกตั้งใหญ่


พิมพ์ไทย - เจ้าหน้าที่พรรคฝ่ายค้านเผย อดีตนายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต และนาวาซ ชารีฟ จะพบปะกันในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อหารือกันว่าจะบอยคอตการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่


 


บุตโตกล่าวว่า พรรคปากีสถาน พีเพิล ปาร์ตี้ จะเข้าร่วมการเลือกตั้ง ในวันที่ 8 มกราคมนี้ ภายใต้การประท้วง ทว่า ชารีฟชี้ว่า การเลือกตั้งจะไร้ความหมายหากไม่มีการพิจารณาสถานะการปกครองก่อนภาวะฉุกเฉิน โดยผู้พิพากษา


 


การประชุมครั้งนี้จะถือเป็นการพบปะหารือกันครั้งแรกของบุคคลสำคัญของการเมืองปากีสถาน 2 คน นับตั้งแต่พวกเขากลับจากลี้ภัยไปต่างแดนนานหลายปี


 


ทั้งนี้ ฮุกได้ระบุว่า วาระสำคัญของการหารือกันครั้งนี้เป็นเรื่องการเลือกตั้ง และสถานการณ์การเมือง โดยพวกเขาจะพยายามวางยุทธศาสตร์ร่วมกันว่าจะบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net