Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. ซอยรามคำแหง 50 นายพิภพ ธงไชย ที่ปรึกษา ครป. นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. และนายสมควร พรหมทอง รองเลขาธิการ ครป. ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัว โครงการรณรงค์เลือกตั้ง "พาคนไทย เลือกอนาคตที่สดใส อย่าเลือกอดีตที่ขมขื่น"


 


นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวว่าเนื่องจากมีความพยายามของพรรคการเมืองบางพรรครณรงค์และสร้างกระแสในสังคมว่าหากชนะเลือกตั้งจะนิรโทษกรรมให้ผู้ที่กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นอดีต กกบ.ทรท. 111 คนที่โดนตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และยุบเลิก คตส. และกระบวนการไต่สวนตรวจสอบความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายครป.จึงเป็นห่วงว่าหากนักการเมืองเอาผลการเลือกตั้งมาอวดอ้างหรือฟอกผิดให้กับตัวเองได้ จะทำให้ระบบการเมืองล่มสลายการเลือกตั้งจะเป็นการชี้ขาดพฤติกรรมนักการเมืองไปทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่คนโกงและกระทำความผิดทางอาญา ทั้งที่บางคนชนะเลือกตั้งมาจากการทุจริตเลือกตั้งหรือซื้อเสียงก็มีจำนวนมากเช่นกัน นายสุริยะใสกล่าว


 


เลขาธิการ ครป.กล่าวต่อว่า กระแสเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 กำลังบดบังวิกฤติของประเทศอย่างน้อย 10 เรื่องที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายไม่ว่าจะเป็นการอุ้มฆ่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงครามฆ่าตัดตอน การคอร์รัปชั่นทางนโยบาย วิกฤติจริยธรรม ฯลฯ วิกฤติเหล่านี้เกิดขึ้นและดำรงอยู่ต่อเนื่อง แต่แทบจะไม่มีพรรคการเมืองใดใส่ใจให้ความสำคัญในการหาข้อยุติหรือคลี่คลายวิกฤติเหล่านี้อย่างจริงจัง


 


นายสุริยะใสยังกล่าวว่าหาก พปช.จะเดินหน้ายุทธศาสตร์คืนอำนาจให้ทักษิณ ก็ต้องชนะเลือกตั้งให้ได้มากกว่า 240 ที่นั่ง ถึงจะเรียกว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่การได้รับเลือกตั้งชนะเป็นพรรคอันดับหนึ่งไม่ได้หมายความว่าได้เสียงข้างมากจากประชาชน อย่าลืมว่าในสมัยพรรคไทยรักไทยเดิมมีเสียงข้างมาก 376 เสียงพรรคเดียวในสภา ยังไม่สามารถอุ้มคุณทักษิณ พ้นข้อครหาคดีซื้อขายหุ้นชินฯ ได้เลย


 


"ผมขอท้าพรรคพลังประชาชนต้องทำให้ได้ 240 เสียง ถ้าทำได้จริงจะทำอะไรก็เชิญ ผมจะนั่งดูเฉย ๆ"


 


ส่วนการชุมนุมประชาชนหรืออดีตพันธมิตรฯ นั้นเป็นรูปแบบเวทีประชาชนวาระประเทศ เพื่อเป็นสัญญาในหมู่ประชาชนว่าเราจะร่วมกันผลักดันให้สังคมการเมืองเป็นประชา ธิปไตย และต่อต้านการกระทำที่มิชอบของทุกรัฐบาลไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม โดยเฉพาะการพยายามเข้ามาแทรกแซง กระบวนการยุติธรรม คาดว่าสัปดาห์หน้าคงได้คำตอบว่าจะจัดวันไหน เลขาธิการ ครป.กล่าว.


 


ขณะที่วันนี้ (4 ธ.ค. 50) เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แนวหน้ารายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงกรณีศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้งมีคำสั่งคืนสิทธิเลือกตั้งให้นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ว่า เมื่อพิจารณาเอกสารการรับสมัครสมาชิกของพรรคพลังประชาชน ทั้งภาพถ่ายและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ไม่ปรากฏลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง ประกอบกับ กกต.ผู้คัดค้าน มีเพียงเอกสารจากฐานข้อมูลทะเบียนสมาชิกพรรคทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยปราศจากหลักฐานอื่นที่สมเหตุสมผลมาสนับสนุนเพิ่มเติม จึงน่าเชื่อได้ว่า นายสิทธิชัย ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเมืองมากกว่า 1 พรรคนั้น


 


หมายความว่าเอกสารโดยฝ่ายทะเบียนพรรคที่พรรคพลังประชาชนนำมาอ้างกับ กกต.นั้นเป็นเอกสารปลอม ศาลเองก็ชี้ว่าหลักฐานของ พปช.ฟังไม่ขึ้น  ซึ่งกรณีนี้จะจบลงแค่การคืนสิทธิให้นายสิทธิชัย คงไม่ได้ เพราะเข้าข่ายนายทะเบียนพรรคการเมืองปลอมแปลงเอกสาร  เป็นการเอาเปรียบคู่แข่งโดยยืมมือ กกต.และยังหวังเงินจากกองทุนพรรคการเมือง ซึ่งพรรคใดกมีสมาชิกมากก็จะได้เงินสนับสนุนมาก บางพรรคก็จึงอาจปลิอมแปลงสมาชิกพรรคโดยที่ชาวบ้านไม่ได้รับรู้ก็มี


 


กรณีนี้ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเข้าข่ายทำให้ กกต.หลงเชื่อเพื่อเอาเปรียบคู่แข่งหรือพรรคการเมืองอื่น หากเป็นการกระทำของบุคคลก็มีโทษถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี หากกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนรับรู้ก็ถึงขั้นยุบพรรค ตาม พรบ.พรรคการเมือง มาตรา 104 ทันที เรื่องนี้ กกต.จะนิ่งดูดายคงไม้ได้แล้ว


 


"ผมขอเรียกร้องให้ กกต. ต้องดำเนินการตาม พรบ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 24  ทันที เพื่อสอบสวนสืบสวนที่มาที่ไปของเอกสารการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรคการเมืองอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนที่ศาลระบุว่ามีการปลอมแปลงลายมือชื่อผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค   ถ้ามีการปลอมลายมือชื่อผู้สมัคร ย่อมเป็นการให้การเท็จไม่ใช่แค่นายทะเบียนพรรคการเมืองนั้นต้องรับผิดชอบเท่านั้น กรรมการบริหารพรรคก็ต้องรับผิดชอบด้วย เรื่องนี้อาจถึงขั้นยุบพรรคได้     หาก กกต.ไม่ดำเนินการอาจมีความผิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 45 จำคุกหนึ่งถึงสิบปีได้"  นายสุริยะใส กล่าว


 


นอกจากนี้ นายสุริยะใส ยังระบุว่า นายสิทธิชัย ควรจะฟ้องกลับพรรค พปช.  เพราะทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและพรรคเพื่อแผ่นดินเสียหาย


 


ที่มา: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลินิวส์และแนวหน้า

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net