Skip to main content
sharethis


 


พล.ต.จำลอง ขุนสงค์ เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.ภาค4) เปิดเผยว่า ในปี 2551 จะประกาศเป็นปีแห่งการเข้าถึงมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการร่วมใจประสานเพื่อความมั่นคง โดยจะนำข้าราชการทุกส่วนลงไปอยู่อาศัยกับชาวบ้านโดยมีทหารเป็นตัวนำ ตำบลละ 1 สัปดาห์ โดยจะให้ชาวบ้านนำเสนอปัญหาและหาทางออกร่วมกัน ตามที่ชาวบ้านต้องการ นอกจากนี้จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การฝึกอบรมเยาวชน การพัฒนามัสยิด เป็นต้น


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ได้เริ่มทดลองดำเนินการไปบ้างแล้วในพื้นที่ที่กระทรวงมหาดไทยจัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับตำบลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังไม่เต็มที่มากนัก เนื่องจากในช่วงนี้ทางทหารมุ่งเน้นยุทธการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายก่อน หลังจากนั้นจึงจะดำเนินโครงการดังกล่าวได้อย่างเต็มที่


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยอีกว่า โครงการนี้มีเป้าหมายจะทำทุกตำบลทั้ง 150 ตำบลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สลับกันไปครั้งละหนึ่งตำบล จากนั้นทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สานต่อในพื้นที่ตำบลดังกล่าว โดยให้ส่วนราชการทุกหน่วยลงไปพบชาวบ้านในพื้นที่เป็นระยะอย่างต่อเนื่องต่อไป


 


"ปัญหาขณะนี้คือประชาชนขาดที่พึ่ง แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐเองก็ไม่กล้าเข้าไปในพื้นที่ชุมชน จึงทำให้ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ ทำให้กลุ่มคนที่ไม่หวังดีสามารถชี้นำชาวบ้านในทางที่ได้ถูกต้องได้ ชาวบ้านจะเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่กล้า จึงเป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่ต้องลงไปหาชาวบ้าน"พล.ต.จำลอง กล่าว


 


พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในการนำข้าราชการทุกส่วนราชการลงพื้นที่เข้าถึงชาวบ้านนั้น จะนำกำลังเข้าไปด้วยจำนวนมาก เพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้กับประชาชนด้วย


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยว่า ขณะได้เสนอแผนงานและโครงการให้กับกองทัพบกไปแล้ว แต่เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาผู้ที่จะมาเป็นผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ จึงไม่ได้รับการพิจารณา แต่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาเร็วๆนี้ และจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในต้นปีงบประมาณ 2551


 


พล.ต.จำลอง เปิดเผยด้วยว่า สำหรับการดำเนินยุทธการต่างๆ เพื่อตรวจค้นพื้นที่และควบคุมบุคคลเป้าหมายนั้นจะมีทุกวัน ซึ่งส่งผลให้เหตุการณ์รุนแรงลดลงอย่างเห็นได้ชัดในบางพื้นที่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net