การเมือง

 

โปรดเกล้าฯ แล้ว 3 รมช.ใหม่ "ธีรวุฒิ-ณัฐ" ม้ามืด! หมอวัลลภคัมแบ็ก

ไทยรัฐ - โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง 3 รัฐมนตรีใหม่แล้ว'ณัฐ'เป็น รมช.การท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.ท.ธีรวุฒิ อดีต ผบช.ภ.9เป็น รมช.มหาดไทย หมอวัลลภ กลับบ้านเก่าเป็น รมช.สาธารณสุข นายกฯ จะพาเข้าเฝ้าฯ 8 พ.ค.นี้ โฆษกรัฐบาลระบุเป็นการปรับ ครม.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มคนลงไปในกระทรวงที่มีภารกิจมาก เพื่อให้รัฐบาลมีผลงานที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เลขาธิการนายกฯชื่นชมรัฐมนตรีใหม่เสียสละและอดทน "หมอวัลลภ" ดีใจเหมือนได้กลับบ้านเกิดรับปากจะสร้างขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตของคนสาธารณสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ดีขึ้น ไม่หวั่นเสียงต้านเพราะยังไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องแบ่งงานจึงยังพูดอะไรไม่ได้ "ณัฐ" พร้อมผลัดดันการกีฬาของไทยให้ก้าวหน้า "กุเทพ" ชี้เป็นการปรับ ครม.เพื่อล้างแค้นไทยรักไทย เพราะเอาคนที่เคยมีปัญหากับรัฐบาลเก่ากลับมา "หมอประเวศ" ชี้เมืองไทยกำลังจะหลุดเข้าไปสู่มิคสัญญีกลียุค เพราะเกิดความแตกแยกกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน แนะนายกฯเชิญทุกฝ่ายมาร่วมหารือเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

 

โอกาส "สุรยุทธ์" วูบ โพลชี้ชาวบ้านเอือมเต่า ยอดคนไม่รู้ประชามติสูง

บ้านเมือง - เมื่อวันที่ 29 เม.ย. นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบค นวัตกรรมทางสังคม มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลสำรวจเรื่อง "ความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทางการเมืองในปัจจุบัน : กรณีศึกษาประชาชนอายุ 18-60 ปีในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวน 2,700 ตัวอย่าง โดยสำรวจระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน 55.4% เห็นว่า ควรให้โอกาสรัฐบาลชุดนี้ทำงานแก้ปัญหาของประเทศต่อไปจนครบวาระตามที่ประกาศไว้ขณะที่ 20.7% ระบุว่าไม่ควรให้โอกาส โดยให้เหตุผลต่างๆ อาทิ ไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม ไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ ทำงานล่าช้า และไม่ชอบรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่เป็นประชาธิปไตย อยากได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือน ธ.ค. 49 พบว่าสัดส่วนผู้ที่ระบุว่า ควรให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไปจนครบวาระมีแนวโน้มลดลงจากเดิมที่มีอยู่ถึง 75.7%

 

หนุนธรรมนูญ 40 ยุติปัญหาโหวตคว่ำร่างปี 50 เสนอตัดทิ้ง ม.299 ปิดจุดด่าง

หนังสือพิมพ์สยามรัฐ - "สนธิ" เผยไม่หนักใจพรรคการเมืองรุมต้านร่าง รธน. "ประพันธ์" ผวาประชาชนโหวตไม่รับ เหตุไม่ชอบ คมช.ทำรัฐประหาร วอนผู้ที่ไม่เห็นด้วยเสนอแนวทาง ด้านอาจารย์จุฬาฯเสนอปัดฝุ่น รธน.ปี40 ยุติปัญหาก่อนโดนคว่ำร่างฯ แนะตัด ม.299 ทิ้ง เหตุเป็นจุดด่างเปิดช่องนิรโทษกรรม คมช.พ้นบ่วงกรรม ส่วน ปชป.เตือนรัฐบาลระวังมือที่สามป่วน ขณะที่ ทรท.ลั่นไม่รับหากไม่แก้ไข 6 ประเด็น ครป.หนุนข้อเสนอ "หมอประเวศ" ประชุมพรรคการเมืองถกผ่าทางตัน โพลล์เผย ปชช.ให้โอกาสรัฐบาลทำงานครบวาระ พร้อมชี้"บิ๊กแอ้ด"แบบอย่างนายกฯซื่อสัตย์

 

ครป.เตือนคนเขียนรัฐธรรมนูญกลัวแม้วเมินแก้ไข-ระบบราชการ

เดลินิวส์ - นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวในระหว่างการสัมมนา "รวมพลังเครือข่ายภาคประชาชนกะเทาะเปลือกร่างรัฐธรรมนูญ" ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ตั้งอยู่บนความหวาดระแวงระบอบทักษิณและความผิดหวังกับการปฏิรูปการเมืองครั้งที่ 1 ซึ่งจะต้องมองไปถึงระบบราชการ ความอ่อนด้วยของระบบการศึกษามาประกอบการพิจารณาด้วย ไม่ใช่เน้นป้องกันระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียวเหมือนในขณะนี้ รัฐธรรมนูญยังขาดทิศทางที่ชัดเจน ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มคนที่มีความหลากหลาย

 

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เข้มคุมคลังบริหารงบแผ่นดิน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - คลังเผยร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่คุมเข้มการบริหารนโยบายการเงินการคลัง ระบุชัด ทุกมาตราล้วนให้ความสำคัญกับการบริหารงบประมาณแผ่นดิน รวมถึงการออกกฎหมายกำกับการหารายได้ รายจ่ายและการก่อหนี้ผูกพัน ซึ่งอาจกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ขณะที่ การใช้งบกลางของรัฐบาลต้องแสดงเหตุผลทุกรายจ่าย และกำหนดหน่วยงานที่ไม่ต้องนำส่งรายได้เข้ารัฐต้องแสดงรายรับและรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีด้วย

 

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กำลังศึกษาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ…ฉบับรับฟังความคิดเห็น ในหมวด 8 ที่ว่าด้วยการเงิน การคลังและงบประมาณว่าจะกระทบต่อการบริหารและการจัดการงบประมาณของประเทศในด้านไหนและอย่างไรบ้าง เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีรัฐธรรมนูญฉบับใดที่กำหนดเรื่อง การเงิน การคลังและงบประมาณ เพียงแต่ระบุว่า งบประมาณต้องทำเป็นกฎหมายเท่านั้น ทั้งนี้ ในร่างรัฐธรรมนูญ หมวด 8 ว่าการด้วยเรื่อง การเงิน การคลัง และงบประมาณ มีทั้งหมด 5 มาตรา เริ่มตั้งแต่มาตรา 162 จนถึงมาตรา 166 และในแต่ละมาตรา ล้วนแต่มีความสำคัญกับการบริหารและการจัดการงบประมาณแผ่นดินทั้งสิ้น

 

รายงานข่าวกล่าวว่า ในมาตรา 163 ระบุชัดเจนว่า ในการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ นอกจากจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณ ทั้งเรื่องของรายรับ การกำหนดวัตถุประสงค์ กิจกรรมแผนงาน และโครงการในแต่ละรายจ่ายงบประมาณแล้ว ยังต้องแสดงฐานะทางการคลังของประเทศเกี่ยวกับภาพรวมจากการใช้จ่าย และการจัดหารายได้ การขาดรายได้ จากการยกเว้นภาษีในรูปแบบต่างๆ รวมถึง การตั้งงบประมาณผูกพันข้ามปี การก่อหนี้รัฐบาล และฐานะการเงินของรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ยังระบุว่า ถ้ารายจ่ายใดที่ไม่สามารถจัดสรรเป็นรายจ่ายในรายการใดได้ ให้จัดสรรไว้ในรายการรายจ่ายงบกลาง โดยต้องแสดงเหตุผลและความจำเป็นในการกำหนดงบประมาณรายจ่ายงบกลางนั้นด้วย

 

มัดแม้วบงการฝรั่งเอ็นจีโอจำแลงโจมตี คมช. "กอร์ปศักดิ์" จี้รัฐบาลตอบโต้

ไทยโพสต์  - "กอร์ปศักดิ์" แฉ "ทักษิณ" อยู่เบื้องหลังบงการล็อบบี้ยิสต์ฝรั่งในคราบเอ็นจีโอ  ออกบทความโจมตีไทย  จี้รัฐบาล-คมช.เร่งตอบโต้ก่อนที่จะเพลี่ยงพล้ำมากกว่านี้ "สนธิ" มั่นใจพฤษภาไม่ทมิฬ พร้อมใช้กฎหมายควบคุมสถานการณ์  ตอกย้ำท่อน้ำเลี้ยงปลุกบริวารอำนาจเก่า ไม่เช่นนั้นจะอยู่กันได้อย่างไร แม่ทัพ 1 ชี้ "หมอประเวศ" ไม่ควรพูดใกล้กลียุค ยันทหารไม่คิดใช้ความรุนแรง  อดีต ส.ส.เชียงรายอ้างไม่เจอเจ๊เล็กนานแล้ว ปัดค่าหัว 3 ล้าน "สุดารัตน์" สั่งก๊วน กทม.งดจัดงานอวยพรวันเกิด หวั่น คมช.เขม่น

 

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่นเป็นลำดับ  นายกอร์ปศักดิ์  สภาวสุ  กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์  ก็เปิดแถลงเมื่อวันที่  29 เมษายนนี้ ว่าขณะนี้ในต่างประเทศมีขบวนการเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาลไทย และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.บริษัท อีเดอร์แมน ซึ่งเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจ้างเมื่อเดือนมกราคม 2550 ให้ทำงานและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะคนธรรมดาที่ต้องการกลับประเทศไทย โดยใช้สำนักงานที่กรุงวอชิงตัน  ดี.ซี. และฮ่องกง เป็นสำนักงานหลัก  2.นายเคน เอเดอร์แมน กรรมการบริหารของบริษัท อีเดอร์แมน และยังเป็นเอ็นจีโอขององค์กร ยูเอสเอ อินโนเวชั่น นอกจากนี้ นายเอเดอร์แมนยังทำงานให้แก่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วย และ 3.องค์กรยูเอสเอ อินโนเวชั่น

 

นายกอร์ปศักดิ์ตั้งข้อสังเกตว่า ทั้ง 3 ส่วนมีความเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน โดยเมื่อวันที่ 27 เม.ย.50 นายเคนได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ โจมตีรัฐบาลไทย โดยเนื้อหาแม้จะเป็นการพูดถึงเรื่องสิทธิเหนือสิทธิบัตรยารักษาโรคเอดส์ ที่รัฐบาลไทยมีปัญหากับบริษัท แอ๊บบอต ผู้ผลิตยารักษาโรคเอดส์ แต่ที่น่าสนใจคือนายเคนได้ใช้คำพูดหลายอย่างทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า สิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรไปเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เพราะนายเคนทำงาน 2 หน้าที่ ทั้งเป็นลูกจ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ และทำงานให้แก่องค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาชน คือ เอ็นจีโอ

 

"เมื่ออ่านจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ นายเคนเขียนไว้ว่าเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.2006 Thailand  democratically  government ซึ่งเป็นการย้ำว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกปฏิวัติ และที่น่าสนใจคือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร มีการใช้คำว่า was depost ซึ่งถือเป็นคำเดียวที่บริษัทล็อบบี้ยิสต์ใช้ในการแถลงต่อสภาสหรัฐ ผมไม่มั่นใจว่าสิ่งที่นายเคนกำลังทำ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาคมโลก หรือในฐานะลูกจ้างของคนชื่อทักษิณ แล้วมาโจมตีรัฐบาลไทย เหตุผลที่น่าสงสัยคือ บทความนี้ไม่ได้พูดเฉพาะสิทธิบัตรยาเท่านั้น แต่ก้าวไปถึงเรื่องตั้งแต่เรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศมาตรการการกันสำรอง  30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาทระยะสั้น เรื่องการใช้เงินงบประมาณของ คมช.และคนอีกกลุ่มหนึ่งคือ องค์กรยูเอสเออินโนเวชั่น ออกมาเล่นงานกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลไทย แต่ไปพูดเหมือนกับที่นายเคนพูด แม้กระทั่งเรื่องภาคใต้ ก็เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าน่ารังเกียจที่สุด" นายกอร์ปศักดิ์กล่าว

 

นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ที่ตนนำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพราะอยากฝากไปว่า รัฐบาล คมช. และกระทรวงการต่างประเทศ  ต้องตอบโต้ทันที บทความดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสิทธิบัตรยาแต่อย่างใด สรุปแล้วเป็นเพียงกระบวนการจ้องทำลายประเทศไทย รัฐบาล และ คมช. ดังนั้นขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเร็วที่สุด เพราะวันนี้ได้มีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเข้ามาโจมตีรัฐบาล และจะมีการเสนอต่อรัฐบาลสหรัฐ ขึ้นชื่อประเทศไทยให้ติดอยู่ในรายชื่อประเทศที่ล่วงล้ำในเรื่องสิทธิบัตร

 

"ไม่เข้าใจว่าบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร ถึงขั้นมีการลงโฆษณาบทความในหนังสือพิมพ์เอเชี่ยนวอสตรีท เจอร์นัล ซึ่งไม่ได้ลงเฉพาะเรื่องของสิทธิบัตรยา แต่พูดถึงเรื่องอื่น เช่น บอกว่าประเทศไทยเป็นเหมือนกับรัฐบาลพม่า และบอกว่ารัฐบาลไทยขณะนี้รัฐบาลโดยฝ่ายทหารของไทยเพิ่มงบประมาณเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการทหารถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการใช้เงินในเรื่องดังกล่าวถึง 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ"

 

เศรษฐกิจ

 

เตือนพาณิชย์ทบทวน กม.ค้าปลีก ชี้อาจถูกตีกลับ/ ลั่นทำศก.ชะงัก

หนังสือพิมพ์สยามรัฐ - นักวิชาการระบุประชาชนได้ประโยชน์จากห้างต่างชาติที่บริโภคสินค้าราคาถูกเอ็นจีโอมอง กม.ค้าปลีกยังไม่ดี หากไม่แก้ไขเนื้อหาให้ชัดเจนโดยเฉพาะอำนาจ กจค.อาจถูกตีกลับอีก ส่วนเอกชนย้ำพาณิชย์ไม่ควรออก กม.นี้ เพราะทำให้เศรษฐกิจชะงัก

 

รุมค้านห้ามแรงงานโทรฯ มือถือ

เดลินิวส์ - เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2550 ที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย องค์กรของแรงงานข้ามชาติและองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานร่วมกับแรงงานข้ามชาติองค์กรทำงานด้านแรงงาน นำโดย น.ส.สุภัทรา นาคะผิว คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (ครสท.) น.ส.ปราณม สมวงศ์ เครือข่ายปฏิบัติการเพื่อแรงงานข้ามชาติร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง "แรงงานข้ามชาติ" กรณีมีประกาศของ จ.ระนอง และภูเก็ตกำหนด "มาตรการจัดระเบียบคนต่างด้าวบางจำพวกเรื่องการจัดระบบในการควบคุมแรงงานต่างด้าว" โดยห้ามแรงงานข้ามชาติใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ห้ามแรงงานข้ามชาติออกนอกที่พักอาศัยหลังเวลา 20.00 น. ห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เป็นต้น

 

 

ความมั่นคง

 

ม็อบฮือ! ปิดถนน จี้รัฐล่าบึ้มมัสยิด รุมประณามโจร เผาอีก อบต. - รร.

หนังสือพิมพ์สยามรัฐ - มท.1 มั่นใจ รมช.มหาดไทยคนใหม่ ช่วยงานในภาคใต้ได้เป็นอย่างดี ส่วนอาการ"พ.ต.อ."ผู้กล้า หลังผ่าตัด 12 ชั่วโมงราบรื่น ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ชาวบ้านรุมประณามถล่มซ้ำกรือเซะ หญิงมุสลิมปลุกม็อบ 300 กดดันจนท.เร่งจับกุมคนร้ายยิงมัสยิดที่ปัตตานีก่อนจะสลายตัวหลังเจรจาเหลว ส่วนคนร้ายอีกกลุ่มอาศัยจังหวะตำรวจเคลียร์ม็อบ ลอบเผาอบต.เมาะมาวี-โรงเรียนวอด ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ลอบเผาโรงเรียน-บ้านจนท.อนามัย

 

คุณภาพชีวิต - สิทธิมนุษยชน

 

ดัน "ภาพยนตร์" เป็นสื่อมวลชน บรรจุในกฎหมายรัฐธรรมนูญ

ข่าวสด - หลังเข้าร่วมเสวนา "รัฐธรรมนูญใหม่กับภาพยนตร์ไทย" ที่ห้องสัญญาธรรมศักดิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์แล้ว ผู้กำกับฯ หนุ่ม "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ในฐานะนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยก็เผยว่า "เราต้องการต่อสู้ในเรื่องของกฎหมายสูงสุดของประเทศคือรัฐธรรมนูญ การที่เรามาจัดเสวนากันก็คิดว่ามันตรงจุดที่สุดคือว่าด้วยเรื่องกฎหมายของประเทศ เพราะกฎหมายตรงนี้ยังไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่าภาพยนตร์เป็นสื่อมวลชน แล้วการที่เราต่อสู้ก็เพื่อประชาชนทุกคน ไม่ใช่แค่คนในวงการภาพยนตร์ เพราะประชาชนมีสิทธิที่จะรับข่าวสารที่ถูกต้อง เหมือนกับที่ประชาชนรู้สึกพอใจกับทีวีและหนังสือพิมพ์ที่สามารถเสนอข่าวสารที่ถูกต้องให้เค้าได้ จริงๆ แล้วคนในวงการคุยเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เราเพิ่งมารู้ว่าประชาชนไม่รู้หรอกว่าภาพยนตร์เป็นสื่อมวลชนหรือไม่เป็น และไม่รู้ว่าด้วยความที่สถานภาพของภาพยนตร์เป็นแบบนี้มันมีผลกระทบยังไง ผมเชื่อว่าประชาชนต้องการเสรีภาพในการรับสาร"

 

อย่างสถานภาพที่ภาพยนตร์เป็นอยู่ในทุกวันนี้มีผลกระทบต่อคนทำหนังอย่างไรบ้าง ปรัชญากล่าวว่า "มันมีการระมัดระวังและเกรงกลัวเต็มไปหมดกับทางฝั่งภาครัฐ ในเมื่อรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุชัดเจน ทำให้ภาพยนตร์ไม่มีความเป็นเสรีภาพในการเป็นสื่อสารมวลชน ในเรื่องข้อกำหนดต่างๆ ในการเซ็นเซอร์ หลายคนเห็นว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นระบบที่เมืองนอกเค้าใช้กัน แต่ที่ผมพูดไม่ได้ว่าผมไม่ยอมรับระบบการเซ็นเซอร์ในบ้านเรา ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจอะไรเลยเพียงแต่เราอยากเปลี่ยนให้มันเหมาะสมกับความเป็นเสรีภาพในการสื่อสาร"

 

จี้ใส่คุ้มครองผู้บริโภคใน รธน.

สยามรัฐ - นายอนันต์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และในฐานะที่ปรึกษามูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวปาฐกพิเศษในหัวข้อ "อานันต์ให้มุมมองคุ้มครองผู้บริโภค" ในงานฉลาดซื้อฉลาดขาย ฉลาดใช้ ฉลาดกิน เนื่องในวันคุ้มครองผู้บริโภคประจำปี 2550 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ว่า ชีวิตอยู่กับการบริโภคและอุปโภค ซึ่งต้องมีความสอดคล้องกับกฎหมาย โดยในบางประเทศได้มีการกำหนดการคุ้มครองผู้บริโภคไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชน

 

ทั้งนี้ เราต้องปูพื้นฐานให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสังคมนิติรัฐและกฎหมายความเป็นกลางของศาลยุติธรรมและความเป็นอิสระของสื่อ และการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน ซึ่งตนคิดว่าเป็นพื้นฐานที่จำเป็นซึ่งที่ผ่านมาการคุ้มครองผู้บริโภคมีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 แล้วแต่น่าเสียดายที่ไม่มีความสมบูรณ์เพราะไม่มีการอกกฎหมายลูกมารองรับตามหลักการ แต่ก็น่ายินดีที่ได้ยินว่ามีการพูดกันในสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งก็หวังว่าก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะหมดวาระไปสนช.จะมีการพิจารณากฎหมายออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

 

"ผมเสียดายที่หน่วยงานที่คุ้มครองผู้บริโภค อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐแทนที่จะเป็นองค์กรอิสระซึ่งถ้ารัฐบาลชุดนี้ดำเนินการเป็นผลสำเร็จก็ถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลชุดนี้เพราะจะทำให้ประชาชนสามารถที่จะกำหนดคุณภาพชีวิตของตนเอง"นายอานันต์กล่าว

 

ชาวบ้านเกาะช้างประท้วงทุนใหญ่ สร้างท่าเรือพันล้านทำลายปะการัง

กรุงเทพธุรกิจ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา มีชาวบ้านบางเบ้าจำนวนกว่า 100 คน ได้ร่วมชุมนุมประท้วงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือของบริษัทดังกล่าว โดยมีนายโกวิท ตันติวงศ์ อนุกรรมการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายทวี สุรฤทธิกุล สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พร้อมด้วย นายจักรกฤษณ์ สลักเพชร นายก อบต.เกาะช้างใต้ และตัวแทนหัวหน้ากิ่ง อ.เกาะช้าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราด ร่วมรับฟังข้อร้องเรียน

 

นอกจากนี้ได้ลงตรวจสอบพื้นที่สร้างสะพานบุกรุกทะเล ซึ่งการสร้างสะพานของบริษัทดังกล่าว อยู่ในระหว่างการขุดเตรียมพื้นที่ เพื่อลงเสาเข็มสร้างสะพาน โดยจะมีการก่อสร้างเป็นสะพานคอนกรีตพื้นไม้ กว้าง 2 เมตร ยาว 316 เมตร ยื่นลงไปในทะเล มีร่องรอยการขุดแนวปะการังและแนวหินด้วยรถแบ็คโฮ มากองไว้บริเวณชายหาด เพื่อที่จะเตรียมลงเสาเข็มสร้างสะพาน จนทำให้แนวปะการังในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง

 

ทั้งนี้ การคัดค้านการก่อสร้างสะพานดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่า ทางราชการโดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 6 สาขาตราด ได้อนุมัติให้บริษัทดังกล่าวสร้างสะพานอย่างมีเงื่อนงำ จึงร่วมกันคัดค้านเพื่อให้ทางราชการทบทวนแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการด่วน

 

สำหรับการก่อสร้างสะพานในครั้งนี้ เพื่อเตรียมรองรับโครงการศูนย์ธุรกิจการค้าครบวงจรมูลค่านับพันล้านบาทของบริษัท อัลติเมท พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป จำกัด ในโครงการบ้านไทวิสา หลังจากที่นายทุนกลุ่มนี้ได้เข้ากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลในหมู่บ้านบางเบ้า

 

ในจำนวนนี้มีชาวบ้าน 1 ราย ซึ่งมีบ้านพร้อมที่ดินเพียงเล็กน้อยคั่นอยู่ตรงกลางของโครงการ และไม่ยอมขายให้กับบริษัทดังกล่าว แม้บริษัทจะให้ราคาถึง 17 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่า เมื่อขายที่ดินแปลงนี้ให้กับบริษัทแห่งนี้แล้ว ก็จะทำให้ทางบริษัทสามารถยึดครองหมู่บ้านบางเบ้าได้สำเร็จ เนื่องจากโครงการต้องการสร้างเป็นศูนย์การค้า ธุรกิจครบวงจร

 

สำหรับการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ ครั้งแรกทำประชาคมแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ยินยอม ทำให้การก่อสร้างชะงักไป ดังนั้นในการทำประชาคมครั้งที่ 2 ในเบื้องต้นทางบริษัท ได้บริจาคเงินให้วัดบางเบ้าจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อขอสร้างสะพานจากประชาคมหมู่บ้าน โดยชาวบ้านยินยอมให้สร้างได้ในความยาว 150 เมตร และต้องไม่ทำลายสภาพแวดล้อมทางทะเล แต่หลังจากการทำประชาคมแล้ว บริษัทกลับจะสร้างความยาว 316 เมตร โดยนำหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศมายืนยันว่าสถานที่ก่อสร้างเดิมเคยเป็นสะพานเก่าความยาว 316 เมตร แต่ชำรุดไปนานแล้ว และใช้รถแบ็คโฮขุดทำลายแนวปะการังในทะเล เพื่อเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้างสะพาน เป็นเหตุให้ชาวบ้านไม่ยินยอม เพราะเกรงว่าจะทำให้แนวปะการังเสียหายทั้งหมด และยังสร้างความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลอีกด้วย จนทำให้ชุมชนเกิดความเดือดร้อน

 

ต่างประเทศ

 

อัล-ไกดาวางแผนบึ้มซาอุฯ ซ้ำ 11 ก.ย.

กรุงเทพธุรกิจ - นายมานซูร์ อัล-เทอร์กิ โฆษกรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เผยว่า กลุ่มติดอาวุธบางส่วนจากทั้งหมด 172 คนที่ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ (27 เม.ย.) และมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายอัล-ไกดา วางแผนก่อเหตุซ้ำรอยวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ในสหรัฐ ด้วยการส่งนักบินพลีชีพ โจมตีฐานทัพและโรงกลั่นน้ำมัน อันเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจซาอุดีอาระเบีย บ้านเกิดของนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้นำกลุ่มอัล-ไกดา

 

ฃลนายอัล-เทอร์กิ ระบุว่า กลุ่มติดอาวุธได้รับการฝึกเป็นนักบินในประเทศใกล้เคียงที่ได้ชื่อว่าเป็น "ประเทศเจ้าปัญหา" ซึ่งเขาไม่สามารถเจาะจงได้ว่าเป็นชาติใด เพราะมีประเทศเจ้าปัญหาอยู่หลายชาติ โดยอาจเป็นอิรัก โซมาเลีย ปากีสถาน หรือชาติอื่น

 

"กลุ่มติดอาวุธต้องการใช้เครื่องบินเป็นเครื่องมือโจมตี เช่นเดียวกับระเบิดรถยนต์พลีชีพ เป้าหมายรวมถึงฐานทัพซาอุดีอาระเบียซึ่งคนร้ายไม่มีวิธีอื่นในการเข้าถึงได้ นอกจากระเบิดเครื่องบิน" นายอัล-เทอร์กิ กล่าว พร้อมเสริมว่า คนร้ายกลุ่มล่าสุดที่จับกุมได้ดำเนินการตามเป้าหมายอัล-ไกดา คือการเข้าครอบครองสังคมซาอุดีอาระเบีย

 

การจับกุมคนร้ายจากเครือข่ายก่อการร้าย 7 แห่งครั้งนี้ ถือเป็นการกวาดล้างก่อการร้ายใหญ่สุดครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียเปิดฉากกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ หลังจากคนร้ายเริ่มโจมตีชาวต่างชาติและอุตสาหกรรมน้ำมันของประเทศในปี 2546 เพื่อโค่นล้มระบอบกษัตริย์ เพราะโกรธแค้นที่ซาอุดีอาระเบียเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ

 

นักวิเคราะห์มองว่าสาวกอัล-ไกดา วางแผนเคลื่อนไหวต่อเนื่องในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นสถานที่ประสูติของพระศาสดาโมฮัมหมัด