Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 4 เม.ย.50 เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 50 กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก ออกจดหมายเปิดผนึกเรื่อง "เวทีรับฟังความเห็นของกระทรวงพลังงานในวงล้อมท็อปบู๊ตทหารคือตัวชี้วัดการประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุน" เนื้อความว่า ทราบดี พอๆกับที่นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานรู้ดีอยู่แก่ใจว่า การจัดเวทีรับฟังความเห็นต่อการวางแผนพีดีพี 2007 หรือแผนสร้างโรงไฟฟ้าฉบับใหม่ ในวันที่ 3 เมษายน 2550 นี้ โดยดื้อดึงที่จะใช้ค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าที่สูงเกินจริงและใช้ทางเลือกเชื้อเพลิงที่ประชาชนไม่ยอมรับ ก็เพื่อเร่งให้แผนดังกล่าวเข้าสู่การอนุมัติโดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานชาติ เพื่อให้ทันต่อการประมูลโรงไฟฟ้าเอกชนหรือไอพีพี ตามที่นายปิยสวัสดิ์ได้รับปากไว้กับผู้ลงทุนว่าจะเปิดประมูลภายในเดือนเมษายน


 


จึงเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสื่อสารหรือแสดงการมีส่วนร่วมใดๆในเวทีรับฟังความเห็นดังกล่าวและเลือกการสื่อสารโดยตรงต่อผู้ลงทุน ผู้เป็นปัจจัยเบื้องหลังที่สำคัญที่จะเข้ามาใช้ประโยชน์ หรืออาจถูกใช้ประโยชน์จากการกำหนดนโยบายพลังงานครั้งนี้ ดังนี้


 


ประการแรก เพียงแค่เริ่มต้นจัดเวทีรับฟังความเห็น กระทรวงพลังงานก็ให้ข่าวทางสื่อมวลชนแล้วว่าต้องจัดใน "เขตพื้นที่ทหาร" และจะมีการเตรียมกำลังทหารมาเพื่อ "สกัดม๊อบต่อต้าน การ "รับฟังความคิดเห็น" ในท่ามกลางวงล้อมของท็อปบู๊ตภายในรั้วทหารแบบนี้ สะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีถึงอารยะและวัฒนธรรมประชาธิปไตยของประเทศนี้ว่าป่าเถื่อนล้าหลังเพียงใด  ขอให้ผู้จะมาลงทุนตระหนักไว้ให้ว่ากำลังจะมาลงทุนในบรรยากาศที่ปราศจากความมั่นคงทางการเมืองขนาดไหน ในเมื่อรัฐบาลไม่สามารถดำเนินนโยบาย หรือปฏิสัมพันธ์กับประชาชนของตนเองตามกลไกปกติของการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยได้  และประวัติศาสตร์ก็พิสูจน์มาแล้วหลายยุคสมัย ว่ายิ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกกดขี่หรือลิดรอนมากเท่าใด เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลก็จะยิ่งถูกท้าทายมากขึ้นเท่านั้น แล้วผลสะเทือนที่ตามมาก็จะตกแก่ผู้ลงทุนด้วย


 


ประการที่สอง การอาศัยใบบุญทหารมาจัดการกับการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อนโยบายพลังงานก็เพื่อรับมือกับพวกชาวประจวบฯ ที่เคยยกขบวนมาร่วมเวทีรับฟังความเห็นเมื่อครั้งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เพื่อแสดงการคัดค้านต่อการวางแผนดังกล่าว  แต่ด้วยความขี้ขลาดแทนที่จะกล้าโต้แย้งข้อมูลความเห็นอย่างตรงไปตรงมาให้สมกับฐานะของผู้รับผิดชอบนโยบายด้านพลังงาน กระทรวงฯกลับเป็นฝ่ายล้มเลิกเวทีไปเอง แล้วโยนความผิดให้กับข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเราส่งตัวแทน 700 กว่าคนเดินทาง 300 กิโลเมตรมาร่วมเวที


 


ขอให้ผู้จะมาลงทุนรู้ว่ากำลังจะลงทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่ไม่มีความกล้าหาญที่จะสานเสวนากับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผย  ยิ่งใช้อำนาจ ใช้กำลังทหารมาจัดการ ยิ่งสะท้อนความขี้ขลาดของผู้ปกครอง  ไม่ต่างกันกับที่แผนพีดีพีคราวนี้ก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะกล้าระบุพื้นที่ก่อสร้างไว้ เพราะกลัวประชาชนจะต่อต้าน  และขี้ขลาดถึงขนาดโยนความรับผิดชอบให้เอกชน ผู้ประมูลต้องเสนอแผนจัดการกับปัญหาการคัดค้านของประชาชนมาด้วย  แทนที่จะวางนโยบายแบบที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตั้งแต่แรก เพื่อจะได้ไม่ต้องให้เอกชนกับชาวบ้านมาทะเลาะกันเองในภายหลัง 


 


ประการที่สาม  เวทีรับฟังความเห็นครั้งนี้ อาจผ่านพ้นไปได้แต่ขอให้เข้าใจไว้ว่า ทหารไม่ได้จะอยู่ในอำนาจตลอดไป ไม่ได้มีอำนาจตลอดเวลา และไม่ได้มีอำนาจที่จะจัดการกับประชาชนได้ในทุกพื้นที่  ขอให้ศึกษาข้อมูลด้วยว่าประชาชนที่นี่เคยยืนหยัดต่อสู้จนผู้ร่วมทุนและสถาบันการเงินต่างชาติต้องถอนตัว เอกชนเจ้าของโครงการต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน และรัฐบาลต้องยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้ามาแล้ว และเชื่อว่าการยืนหยัดเช่นนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับพื้นที่ของเราเพียงแห่งเดียวด้วย เพราะบทเรียนและประสบการณ์ต่างๆได้รับการขยายผล และสืบสานไปยังชุมชนต่างๆของประเทศนี้แล้ว 


 


ทั้งนี้ หนทางเดียวที่จะนำไปสู่การลงทุนที่เกิดดอกผลและยั่งยืน คือการดำเนินการภายใต้นโยบายที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และภายใต้บรรยากาศของวัฒนธรรมประชาธิปไตย ไม่ใช่ด้วยการอาศัยกำลังอำนาจที่ยิ่งขาดความชอบธรรมมากเท่าใด ก็ยิ่งจะหมดไปเร็วขึ้นเท่านั้น


 


เมื่อถึงวันนั้นจะไม่มีใครช่วยหาความเป็นธรรมให้กับการลงทุนที่สูญไปแล้วได้ แม้แต่นักวิชาการด้านพลังงานและเศรษฐศาสตร์ก็ได้ออกมาเตือนเป็นเสียงเดียวกันก่อนหน้านี้แล้วว่า ควรระงับการวางแผนพีดีพีและการประมูลไอพีพีครั้งนี้ไว้ก่อน และสร้างกระบวนการใหม่ที่โปร่งใส รอบคอบและชอบธรรมกว่านี้ เพราะตอนนี้ประเทศชาติยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างโรงไฟฟ้าใหม่เลย ฉะนั้น เหตุผลที่จะมารองรับความชอบธรรมให้กับการลงทุนจึงไม่มีเลย


 


สัญญาต่างๆพร้อมจะถูกยกเลิกด้วยเหตุสุดวิสัย เช่นจลาจล ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะก่อความเสียหายแก่ความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศนี้


 


ส่วนผู้ลงทุนหากคิดหาประโยชน์อย่างมักง่าย โดยเข้ามาร่วมสังฆกรรมกับการผลักดันโครงการอย่างไม่โปร่งใสและไม่มีความชอบธรรมเช่นนี้ ก็ขอให้รู้ไว้จะต้องเผชิญกับการต่อต้านคัดค้านอย่างรุนแรง ไม่ต่างกับที่รัฐบาลจะต้องเจอ 


 


จดหมายนี้สำเนาถึงสถานทูตอเมริกัน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, จีน, ฝรั่งเศส สถาบันการเงิน US Exim Bank, JBIC รวมทั้งธนาคารต่างๆด้วย


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net