Skip to main content
sharethis

ม. 67 ประเคนอำนาจ 11 ยอดมนุษย์ยามวิกฤติ "ประสงค์" ปักธง ยัน ไม่มีใคร "แส่" สร้างวิกฤต หาเรื่องใส่ตัว แต่ต้องป้องกันปฏิวัติรัฐประหาร อ้อมแอ้ม "นายกฯคนนอก" แล้วแต่ที่ประชุม 11 ยอดมนุษย์เช่นกัน

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง (กมธ.) รัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการม.67 ที่ให้ผู้นำองค์กรต่างๆในรัฐธรรมนูญประชุมหารือเพื่อแก้วิกฤตจะสามารถป้องกันการปฏิวัติรัฐประหารได้หรือไม่ ว่า ต้องถามก่อนว่าพวกเราชอบการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ ซึ่งตนไม่ชอบ และถ้าประชาชนไม่ชอบ เราจะหาทางออกไม่ให้เกิดการใช้กำลังกันได้อย่างไร ในยามวิกฤตที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่ผ่านมาถ้ามันไม่มีทางออก มันก็เกิดเรื่อง ดังนั้นในยามวิกฤต หรือฉุกเฉิน ถ้าเปิดช่องไว้บ้างมันน่าจะแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องปฏิวัติรัฐประหาร

แต่อย่างไรก็ตาม ในหมวดที่ว่าด้วยคณะรัฐมนตรีนั้นในรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่านายกฯ ต้องมาจากส.ส.และม.67 เป็นมาตราที่หาทางออกในยามวิกฤตไม่ได้มีอะไรมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ประชุมนี้สามารถออกมติให้นายกรัฐมนตรีลาออกได้หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเป็นการบังคับกันและขัดกฎหมาย แต่จะเป็นอย่างไรนั้นเมื่อถึงเหตุการณ์นั้นแล้วจะรู้เอง ถ้ายังไม่เกิดเหตุการณ์คงพูดอะไรไม่ได้

เมื่อถามว่า ถ้าที่ประชุมมีมติให้นายกฯลาออกแล้วต้องเลือกใหม่ก็ต้องมาจากส.ส.ตามรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้เพราะเป็นรายละเอียดต้องขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ และคณะองค์ประกอบของบุคคลที่ระบุไว้ว่าจะพิจารณาหาหนทางกันอย่างไร

"หลักการสำคัญในหมวดคณะรัฐมนตรีกำหนดไว้เลยว่านายกรัฐมนตรีต้องมาจากส.ส.ชัดเจนส่วนเรื่องทางออกมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการหาทางป้องกันปัญหาไว้ล่วงหน้าจะดีกว่า" น.ต.ประสงค์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า การระบุเช่นนี้จะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าจะเป็นการเปิดช่องให้ได้นายกฯคนนอก น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ถ้ามันไม่มีวิกฤตใครไปทำอย่างนั้นก็ต้องรับผิดชอบซึ่งทำไม่ได้หรอก

เมื่อถามว่า สถานการณ์ระดับไหนที่จะถือว่าเข้าสู่วิกฤตที่ต้องใช้มาตรานี้ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ต้องเป็นเหตุการณ์ที่ถึงขั้นที่ว่าหาทางออกไม่ได้ในทางการเมืองแล้วจะนำไปสู่เหตุการณ์อะไรก็แล้วแต่ ส่วนจะให้ทหารเข้ามาด้วยนั้นก็ถือเป็นทางออกอันหนึ่งแต่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะเห็นอย่างไร

"เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อถึงเวลาแล้วประชาชนจะทราบว่าไม่มีทางออกจริงๆ คงไม่มีใครอยากจะไปหาเรื่อง สร้างเรื่องว่านี่มันวิกฤตแล้วถ้าทำอย่างนั้นประชาชนเขาก็ไม่รับ ต้องมีเหตุการณ์วิกฤตฉุกเฉินจริงๆจนหาทางออกไม่ได้ ก็ใช้ม.67 รองรับ คงไม่มีใครแส่ไปหาเรื่องโดยไม่จำเป็น"ประธานกมธ.ยกร่างฯกล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถึงแม้จะบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญก็ต้องมีการทำประชาพิจารณ์อยู่ดีไม่ใช่ว่าบังคับขืนใจอะไร เราก็รับฟังเสียงประชาชน แต่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่านี่เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่จะให้มีทางออกยามวิกฤตโดยไม่ต้องใช้กำลังอะไรกันอีก

เมื่อถามว่า ขอบเขตในการตัดสินใจของคณะบุคคลเหล่านี้มีหรือไม่หรือว่ามีอำนาจครอบจักรวาลจนล้นฟ้า น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า เราพูดในหลักการเท่านั้นเอง การพิจารณาขึ้นอยู่กับคณะองค์ประกอบว่าจะพิจารณากันเรื่องนี้ แต่ในรัฐธรรมนูญจะไม่มีระเบียบย่อยแบบนั้น

น.ต.ประสงค์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงความพยายามของคมช.ที่จะออกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมม็อบต้าน โดยกล่าวสั้นๆว่า "ผมคงไม่อยากพูดให้ความเห็นเรื่องนี้ เดี๋ยวจะหาว่าผมไปก้าวก่ายเขา"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบุคคลที่ ม.67 ให้อำนาจในการเรียกประชุมเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศชาตินั้นมีทั้งสิ้น 11 คนประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา ผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญอีก 4 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net