แถลงการณ์สมาพันธ์ประชาธิปไตย

ขอประณามโจรอำมหิตที่ยิงผู้โดยสารรถตู้แปดศพที่จ.ยะลา

และขอให้รัฐเอาจริงกับการปราบโจรสามจังหวัดภาคใต้มากกว่าที่จะปราบประชาชนทั่วประเทศ

ตามที่ได้มีกลุ่มโจรใส่ชุดพรางยิงรถตู้โดยสารเบตง-หาดใหญ่จนมีผู้เสียชีวิตแปดคนที่ถนนอุเบง หมู่4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมานั้น

สมาพันธ์ประชาธิปไตยและมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยขอประณามกลุ่มโจรใจอำมหิตดังกล่าวอย่างรุนแรง และขอแสดงความเสียใจมายังครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างสุดซึ้ง

หกเดือนภายหลังจากการยึดอำนาจรัฐประหารของกลุ่มสนธิ บุญยรัตกลิน แทนที่ปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้จะบรรเทาความรุนแรงลง ตรงข้ามกลับทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกที ทั้งๆที่รัฐพยายามโฆษณาป่าวร้องว่า เมื่อจัดตั้ง ศอบต. พตท. กลับมาใหม่ หรือให้นายกรัฐมนตรีกล่าวคำขอโทษ หรือกระทั่งไป "กราบกลุ่มโจร" ดังกล่าว สถานการณ์ต้องดีขึ้นแน่นอน แต่การณ์หาเป็นเช่นนั้นไม่

เหตุผลที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นรัฐยังไม่สามารถสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ได้ ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับฝ่ายรัฐ ดังนั้นรัฐต้องเร่งรีบสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ว่า รัฐไม่ได้เป็นศัตรูกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนกลับมาเป็นฝ่ายรัฐ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้โอกาสในการพลิกสถานการณ์เริ่มเกิดความเป็นไปได้มากขึ้น

แต่ดูในทางปฏิบัติแล้ว คงเป็นไปได้ยาก เพราะไม่เพียงที่สามจังหวัดภาคใต้เท่านั้น แต่ประชาชนทั่วประเทศกำลังถูกคุกคามข่มขู่โดยรัฐ โดยประธานคมช.ซึ่งเป็นผู้อำนวยการกอ.รมน.และเป็นผู้บัญชาการทหารบกด้วย ได้ส่งทหารไปกำกับควบคุมประชาชนทั้งในชนบทและกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากคนจนทั้งหลาย ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารทุกคนถูกเหมารวมว่าเป็น "คลื่นใต้น้ำ เป็นทาสรับใช้อำนาจเก่า รับเงินอำนาจเก่า มีท่อน้ำเลี้ยงจากอำนาจเก่า"และทำให้จำนวนทหารที่จะลงพื้นที่ "สามจังหวัดภาคใต้" น้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น

แม้แต่นายกรัฐมนตรีเองก็ยังกล่าวโทษพลเอกสนธิ บุณยรัตกลินว่า ให้ความเอาใจใส่ในปัญหาสามจังหวัดภาคใต้น้อยเกินไป

ทางเลือกที่น่าจะเป็นประโยชน์ในขณะนี้คือ คณะรัฐประหารและรัฐบาลของคณะรัฐประหารคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนทันที ใช้รัฐธรรมนูญ2540ไปพลางจัดให้มีการเลือกตั้งแล้วให้รัฐบาลประชาชนมาแก้ไขปัญหาสามจังหวัดภาคใต้ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงย่อมได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่าและมีความผูกพันกับประชาชนมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการ "ปฏิวัติรัฐประหารโดยรถถัง"อย่างแน่นอน

 สมาพันธ์ประชาธิปไตย 16 มีนาคม 2550