Skip to main content
sharethis

คปต.ปลุกม็อบต้าน "รัฐอุ้มไอทีวี" ยันเข้าข่ายผิดก.ม.หวั่นเกิดค่าโง่


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ : นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ให้สัมภาษณ์รายการสืบเสาะเจาะข่าว ทางเอฟเอ็ม 92.25 ถึงกรณีที่รัฐบาลแก้ปัญหาไอทีวี ว่า การที่รัฐบาลเอาเงินของประชาชนไปช่วยเหลือพนักงานไอทีวี โดยที่ไม่มีกฎหมายรองรับ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และที่บอกว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการยืมเงินจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ไปใช้ก่อน พอได้กำไรแล้วจะนำมาคืนนั้น อยากถามว่า สปน.ใช้อำนาจอะไรไปดำเนินการ หาก คปต.จะขอยืมเงินจาก สปน.ไปใช้ในการตรวจสอบทุจริตบ้าง จะได้หรือไม่ เพราะ คปต.ถือว่าทำประโยชน์ให้ชาติมากกว่าไอทีวีด้วยซ้ำ


 



นอกจากนี้ นายวีระ ยังได้ถามกลับไปยังพนักงานไอทีวีว่า ทำไมไม่ไปเรียกร้องหรือไล่เบี้ยเอากับผู้บริหาร แทนการมาเรียกร้องจากรัฐบาล ทำไมพนักงานไอทีวีจึงไม่พูดความจริงกับประชาชนว่าผู้บริหารมีการแก้ไขสัญญาจนที่เป็นมาของหนี้แสนล้านบาท กลับบิดเบือนด่าว่ารัฐบาลรับปากแล้วไม่ทำตามคำพูด ตรงนี้เป็นเพราะผู้บริหารหลอกพนักงานหรือพนักงานเต็มใจให้หลอกก็ไม่ทราบ ทำให้มีการออกมาเคลื่อนไหว



 


 


พันธมิตรฯ โห่ "มัลลิกา" หลังไม่ยอมแฉไอทีวี


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ : น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล อดีตผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ไอทีวี แถลงข่าวถึงเหตุผลการลาออกจากไอทีวีว่า หลายรัฐบาลเข้ามาหาประโยชน์จากสถานี จนทำให้ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อเสรีตามเจตจำนงของวีรชนในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ดังนั้นขอเรียกร้องสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และกรมประชาสัมพันธ์ กำหนดอนาคตไอทีวีโดยไม่มีวาระซ่อนเร้นให้เป็นทีวีเสรีแท้จริง myh"ouhสาเหตุการลาออกไม่ใช่เพราะจัดรายการโดยพลการโดยผู้บริหารไม่ได้อนุญาต แต่ต้องการเห็นทีวีที่ทำอยู่ไปในทิศทางที่ถูกต้อง พร้อมปฏิเสธไม่มีการเจรจาไปทำงานกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และไม่ได้จัดตั้งบริษัทผลิตรายการร่วมกับนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์ปฏิรูปการเมืองเพื่อประชาธิปไตย (ครป.)


 



ด้านกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มาฟังการแถลงข่าวได้โห่แสดงความไม่พอใจ พร้อมต่อว่า น.ส.มัลลิกา แถลงข่าวเพื่อสร้างภาพ แต่กลับไม่มีการเปิดเผยว่าไอทีวีทำผิดสัญญาอย่างไรจึงต้องถูกยึดสัมปทาน และเรียกร้องให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่พนักงานเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล จนต้องนำเงินภาษีไปอุ้มไอทีวี แต่ น.ส.มัลลิกา หลีกเลี่ยงไม่ชี้แจง และเดินออกจากห้องแถลงข่าว



 


 


พีทีวีฟ้อง "ธีรภัทร์-ปราโมช" มิชอบ


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ : นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานบริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มีนาคม จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ ตาม ป.อาญา มาตรา 157 เนื่องจากกรมประชาสัมพันธ์แจ้งความดำเนินคดีต่อเอเอสทีวี ฐานออกอากาศโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่กลับนำรายการยามเฝ้าแผ่นดินของเอเอสทีวี มาออกอากาศทางช่อง 11 ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายชัดเจน นอกจากนี้ยังมีสถานีโทรทัศน์กว่า 60 สถานีที่ออกอากาศผ่านดาวเทียมโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน จึงเป็นการเลือกปฏิบัติชัดเจนกับพีทีวีที่ไม่ได้รับการเชื่อมสัญญาณออกอากาศ


 



ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานสถานีโทรทัศน์พีทีวี กล่าวว่า ขณะนี้มีการกระทำที่ส่อให้เห็นถึงสองมาตรฐานชัดเจน  เพราะนายปราโมชเสนอเรื่องต่อนายธีรภัทร์ เพื่อขอเปิดสถานีโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษผ่านช่องบีเอ็นที 3 ผ่านดาวเทียม โดยใช้งบ 260 ล้านบาท และกำลังจะนำเสนอต่อครม.เพื่ออนุมัติ



 


 


"บิ๊กสุ" หนุนนายกฯคนนอกอ้างจำเป็น


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ : พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรองประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ให้สัมภาษณ์ในงานเลี้ยงรุ่น คณะนายทหารรุ่น 0143 ถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีแนวคิดให้นายกฯ ไม่ต้องมาจาก ส.ส. ว่า "ไม่ควรไปกำหนดไว้ว่าจะต้องเป็น ส.ส.เพราะว่าถ้าเรากำหนดไว้ พอเวลามีปัญหามันแก้ไขปัญหาไม่ได้ ปกติพรรคการเมืองถ้าเขามีเสียงเขาจะไม่เอาคนนอกมาเป็น อย่าไปกลัวในเรื่องการสืบทอดอำนาจ มันไม่ได้อยู่ในแนวความคิดอย่างนั้น แต่เราอย่าไปหวังแก้รัฐธรรมนูญในจุดใดจุดหนึ่ง มันจะไม่ยั่งยืน"


 


นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการทำงานของ คมช. ที่จะทำงานครบ 6 เดือน หลังการยึดอำนาจ ในฐานะนายทหารรุ่นพี่ที่เคยทำการยึดอำนาจมาก่อน พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า "น่าเห็นใจ คมช.พูดกันง่าย ๆ คือ เขาไม่ได้เตรียมการที่จะมาทำงานในด้านนี้ ทำให้อะไรต่างๆ ก็ต้องสะดุดบ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจในเจตนาความหวังดีของเขา ตนเห็นใจทุกคนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นคนที่เสียสละทั้งนั้น แต่พวกเราไม่มองกันอย่างนั้น ใครเข้ามา ก็ด่าเอา ด่าเอา ใครบ้างจะอยากมาเป็น"



 


 


"นรนิติ"ชี้นายกฯคนนอก สร้างวิกฤตรธน.ใหม่ ถูกคว่ำ!


แนวหน้า : นายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เผยถึงกรณีที่มีข้อถกเถียงกันในส่วนของที่มาของนายกฯว่าจำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งหรือไม่นั้นถ้ากำหนดให้นายกฯมาจากการสรรหาจะทำให้เกิดจุดอ่อนในรัฐธรรมนูญมากกว่าจุดแข็ง โดยอยากให้คำนึงถึงเมื่อ 15 ปีที่แล้วในช่วงพฤษภาทมิฬ ว่าเกิดจากปัญหาใด ดังนั้น เราต้องร่างรัฐธรรมนูญเพื่อหยุดวิกฤต ไม่ใช่เพื่อสร้างความขัดแย้ง ส่วนการตั้งธงล้มรัฐธรรมนูญนั้น ตนเห็นว่าเป็นสิทธิ หากเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ความก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับ ส่วนการที่ระบุว่าต้องกำหนดให้ศาลสรรหานายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งในช่วงยุบสภาเพื่อป้องกันวิกฤตนั้น นายนรนิติ เห็นว่า การเขียนไม่ควรเริ่มจากวิกฤต


 


 


"รองฯไพบูลย์" คุม 7 กระทรวง


แนวหน้า :  รายงานข่าวจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)ว่าภาย หลังจากที่นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายสังคมและนั่งควบเป็นรมว.พัฒนาสังคมฯ เมื่อวานนี้(9 มี.ค.) นายไพบูลย์ ได้เชิญ พล.อ.พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าหารือเพื่อแบ่งงานและแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบนั้น พล.อ.พงษ์เทพ ได้แจ้งต่อนายไพบูลย์ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้นายไพบูลย์ ดูแลและกำกับงานกระทรวงด้านสังคม 7 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงศึกษาธิการ


         


 


แม่ทัพ4จับมือผู้ว่าฯชายแดนใต้ ตั้งชุดเคลียร์ม็อบอ.ละ 10คน


คมชัดลึก : นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากการหารือ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 เกี่ยวกับมาตรการรับมือการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบปลุกระดมชาวบ้านก่อม็อบประท้วงกดดันเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นได้กำหนดแนวทางปฎิบัติแบบสันติวิธีร่วมกันระหว่างฝ่ายเจ้าหน้าที่ และการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาเฉพาะกิจเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนผู้ชุมนุมขึ้นอำเภอละ 10 คน เพื่อเป็นตัวแทนในการเข้าเจรจากับกลุ่มชุมนุมประท้วง โดยมีเงื่อนไข คือ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะต้องเป็นคนในพื้นที่อาศัยเท่านั้นและต้องผู้ที่ได้รับการยอมรับในชุมชน เช่น ผู้นำศาสนา โต๊ะอิหม่าม โต๊ะครู รวมไปถึงผู้นำชุมชน ไม่ว่าจะเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและอื่นๆที่เป็นที่ยอมรับในสังคมท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อรับผิดชอบภารกิจเป็นตัวแทนผู้ชุมนุมในการประสานข้อร้องเรียนของทั้งสองฝ่ายเข้าหารือและเจรจาอย่างสันติวิธี ภายใต้หลักสมานฉันท์และห้ามไม่ให้มีการปิดถนนชุมนุมสร้างความเดือดร้อนให้กับบุคคลอื่นอย่างเด็ดขาด



 


 


อียูเห็นพ้องแผนริเริ่มสู้ภาวะโลกร้อน


กรุงเทพธุรกิจ : สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 27 ชาติ ได้เห็นพ้องแผนริเริ่มเพื่อต่อสู้ภาวะโลกร้อน เมื่อวันศุกร์ (9 มี.ค.) โดยให้คำมั่นว่าการใช้พลังงาน 20% ของอียูจะต้องมาจากพลังงานสีเขียวภายในปี 2563 และเน้นส่งเสริมให้มีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมและพลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งใช้หลอดไฟแบบประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น


 



ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงแรกนอกเหนือจากพิธีสารเกียวโต ว่าด้วยการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมี 35 ชาติให้สัตยาบัน และถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญในการต่อสู้ภาวะโลกร้อน


 



ด้านนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความชื่นชมข้อตกลงครั้งนี้ ว่าจะช่วยผลักดันให้ระบบพลังงานโลกมีความยั่งยืนมากขึ้น ขณะกลุ่มสิ่งแวดล้อมยังแสดงความกังขา โดยกลุ่มเฟรนด์ส ออฟ ดิ เอิร์ธ มองว่า พลังงานนิวเคลียร์ต้องใช้เงินจำนวนมาก และแต่ละชาติควรลงทุนอย่างฉลาดในการพัฒนาแหล่งพลังงานอื่นมากกว่า ส่วนกลุ่มกรีนส์ในสภายุโรป เห็นว่าเป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30% ไม่เพียงพอในการแก้ปัญหาโลกร้อน



 


จีนบล็อคสัญญาณ CNN สัมภาษณ์ผู้บริหารฮ่องกงประเด็น ปชต.


สำนักข่าวเนชั่น  : รายงานข่าวแจ้งว่า จีนอาจจะบล็อคสัญญาณการถ่ายทอดของซีเอ็นเอ็นที่สัมภาษณ์ผู้บริหารเกาะฮ่องกงในประเด็นปัญหาเรื่องประชาธิปไตย เป็นเวลาชั่วขณะหนึ่งในวันนี้ ช่วงที่ซีเอ็นเอ็นถ่ายทอดการให้สัมภาษณ์ของนายโดนัลด์ จาง ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ตอนที่พูดถึงแผนของเขาเกี่ยวกับการปฏิรูปประชาธิปไตยในฮ่องกง


 


ในรายการ Talk Asia นายจาง ได้พูดเกี่ยวกับแผนของเขาเรื่องการหารือกับประชาชนถึงเรื่องที่ว่าจะนำประชาธิปไตยในการออกเสียงเลือกตั้งมาสู่ฮ่องกงได้อย่างไร พร้อมกับบอกด้วยว่า เขากระหายที่จะลงมาดูแลเรื่องประชาธิปไตย หากชนะการเลือกตั้งในปลายเดือนนี้ แต่ทันใดนั้นสัญญาณภาพและเสียงก็หายไป  และมีโฆษณาขึ้นมาแทน จากนั้นสัญญาณภาพและเสียงก็ขาดหายไประยะหนึ่ง และเมื่อสัญญาณกลับมา ก็เป็นตอนที่นายจางพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแกนนำจีน


 


ด้านโฆษกของซีเอ็นเอ็นที่ฮ่องกง  บอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามีการบล็อคสัญญาณรายการดังกล่าวระหว่างที่นายจางให้สัมภาษณ์  และกำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่  พร้อมกับบอกว่ารายการนี้จะถูกนำมาออกอากาศซ้ำอีกในช่วงสุดสัปดาห์นี้ในการเลือกตั้งวันที่ 25 มีนาคมนี้


 


 


สภาวะโลกร้อน อาจทำรางรถไฟสายทิเบตพัง


สำนักข่าวเนชั่น: นาย ชิง ต้า เหอ ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีน เปิดเผยว่า  ปัญหาสภาวะโลกร้อน อาจเป็นอันตรายกับผู้โดยสารที่ใช้บริการทางรถไฟสายทิเบต ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเชื่อมโยงทิเบตกับเขตตะวันออกของจีน นอกจากนั้น ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงระบบรางรถไฟ ก็อาจจะทะยานสูงขึ้นด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญวิตกว่า บางส่วนของรางรถไฟสายนี้อาจจะไม่มั่นคง และนำไปสู่เหตุรถไฟตกรางได้ หากอากาศที่อุ่นขึ้นทำให้น้ำแข็งใต้รางรถไฟละลาย ซึ่งทางรถไฟที่ยาว 1,142 กิโลเมตรนี้ ไต่ระดับไปที่ความสูงสูงสุด 5 พัน 72 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นทางรถไฟที่สูงที่สุดในโลก ด้านนาย เกียงบา ปุนค็อก ผู้บริหารเขตปกคตรองตนเอง ที่มาเข้าร่วมประชุมรัฐสภาจีนที่กรุงปักกิ่ง ออกมาปฏิเสธเรื่องที่ว่า ทางรถไฟสายนี้ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยอมรับว่า เมื่อเร็วๆนี้ รถไฟขบวนหนึ่งเกิดตกรางจริง แต่ไม่มีใครเสียชีวิต


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net