Skip to main content
sharethis

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ (กป.อพช.เหนือ)  และเครือข่ายปกป้องแม่น้ำสาละวิน (Salween Watch) ซึ่งประกอบด้วยองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนจากไทย พม่า และนานาชาติ จะจัดแถลงข่าวและยื่นหนังสือคัดค้านโครงการเขื่อนสาละวินในพม่า ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 ณ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยจะมีนักวิชาการ เจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชน อดีตสมาชิกวุฒิสภา และตัวแทนชาวบ้านในท้องถิ่นที่จะได้รับผลกระทบหากมีการก่อสร้างเขื่อนสาละวินร่วมแถลงข่าว และยื่นหนังสือต่อนางสุนีย์ ไชยรสและนายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หลังจากนั้นเวลา 13.30 น. จะยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน


 


สร้างเขื่อนหวั่นไม่โปรงใส-หนุนเผด็จการพม่ากดขี่ชาวบ้าน


ทั้งนี้ องค์กรประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่าง กฟผ. กับบริษัทจากจีนที่จะสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวิน เนื่องจากเขื่อนสาละวินทั้ง 5 แห่งจะสร้างในเขตที่มีการสู้รบตามพรมแดนไทย-พม่า และที่ผ่านมารัฐบาลเผด็จการพม่าใช้กำลังทหารโจมตีประชาชนชนกลุ่มน้อยอย่างต่อเนื่อง การให้ความสนับสนุนทั้งทางการเมืองและการเงินต่อการสร้างเขื่อนในเขตที่มีการสู้รบ เปรียบได้กับการสนับสนุนการปกครองที่กดขี่ของรัฐบาลเผด็จการพม่า


 


นอกจากนี้ กระบวนการตัดสินใจทั้งหมดดำเนินไปอย่างเร่งรีบและรวบรัด ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลแก่สาธารณะ แม้แต่ชุมชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงในเขต จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจะเป็นประชาชนกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก็ยังไม่ได้รับข้อมูล ซึ่งนับว่าขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญและหลักกฎหมายไทยและนานาชาติที่ส่งเสริมความโปร่งใสในการดำเนินโครงการที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก


 


นอกจากนี้ในวันเดียวกันจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ให้ยุติเขื่อนสาละวิน ในเมืองต่างๆ พร้อมกันทั่วโลก 13 แห่งโดยสันติ  โดย 7 แห่งมีแผนที่จะประท้วงหน้าสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยอาทิ ที่วอชิงตัน ดีซี นิวยอร์ก ปารีส ซิดนีย์ เดลี ฯลฯ


 


ชวนลงชื่อออนไลน์ปกป้องสาละวิน


นอกจากนี้เครือข่ายปกป้องแม่น้ำสาละวิน และ กป.อพช.เหนือ ยังมีการเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามในจดหมายถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนสาละวินที่ http://www.petitiononline.com/nodams/petition.html ภายในวันที่ 27 ก.พ. 2550 อีกด้วย


 


โดยให้เหตุผลในการลงชื่อการคัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวินว่า เพราะแม่น้ำสาละวินเป็นแม่น้ำนานาชาติสายที่ยาวที่สุดสายสุดท้ายในอุษาคเนย์ที่ยังไหลอย่างอิสระ ไม่มีเขื่อนกั้น, เขื่อนสาละวินจะทำให้บ้านของประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่าอย่างน้อย 63,000 คน โดยเฉพาะในรัฐกะเหรี่ยง คะยาห์ และไทใหญ่ ต้องจมอยู่ใต้น้า


 


พื้นที่สร้างเขื่อนสาละวินในพม่าเป็นพื้นที่สงคราม ชาวบ้านต้องเผชิญการละเมิดสิทธิมนุษยชนนานาประการจากทหารพม่า อาทิ ข่มขืน แรงงานทาส และสังหาร, คลื่นผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลจะทะลักเข้าสู่ประเทศไทย หากมีการสร้างเขื่อน และประชาชนชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจำนวนอย่างน้อย 50 หมู่บ้านที่ อ.สบเมย และ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ที่จะเดือดร้อนจากเขื่อนโดยตรง ทั้งยังไม่ได้รับข้อมูล และไม่มีส่วนร่วมในโครงการ ชาวบ้านเหล่านี้จำนวนมากอาศัยอยู่ในป่าที่ห่างไกล ไม่มีสัญชาติไทย


 


เฉพาะเขื่อนฮัตจีใช้งบ 35,000 ล้านบาท


จากข้อมูลของเครือข่ายแม่น้ำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEARIN) ระบุถึงที่มาของโครงการก่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำสาละวินว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2548 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย ได้ลงนามใน Memorandum of Understanding (MOU) กับกระทรวงพลังงานไฟฟ้า ของรัฐบาลพม่าเพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทบนแม่น้ำสาละวินและตะนาวศรี โดยข้อมูลปัจจุบันชี้ว่ามีโครงการที่ถูกผลักดันมากที่สุดทั้งสิ้น 6 แห่งซึ่งคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้ารวมกันกว่า 12,700 เมกะวัตต์


 


ซึ่ง 1 ใน 6 โครงการนั้นคือ เขื่อนฮัตจี ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในรัฐกะเหรี่ยง มีพื้นที่โครงการตรงข้ามกับจังหวัดตาก เขื่อนตั้งอยู่ท้ายน้ำจากชายแดนที่สบเมยลงไปในประเทศพม่าประมาณ 40-50 กิโลเมตร


 


โดยเขื่อนฮัตจีเป็นโครงการที่มีการผลักดันมากที่สุดในขณะนี้ และมีระดับเก็บกักน้ำของเขื่อน (Head Water) อยู่ที่ระดับประมาณ 48 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง โดย กฟผ. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOA) กับกรมไฟฟ้าพลังน้ำพม่า ในการร่วมทุน และล่าสุดได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบริษัทไซโนไฮโดร (Sinohydro) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๔๙ รายงานข่าวระบุว่า กฟผ. จะกู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากประเทศจีนเพื่อลงทุนสร้างเฉพาะเขื่อนฮัตจีแห่งนี้มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 35,000 ล้านบาท


 


 


ข้อมูลเกี่ยวข้อง


เชิญร่วมลงนามจดหมายขอให้ระงับเขื่อนสาละวินในพม่า, http://www.petitiononline.com/nodams/petition.html


The Salween Under Threat, http://www.salweenwatch.org/downloads/UnderThreat.pdf


New Report: Warning Signs, New report details preparations for a giant dam
on the Salween River in Shan State, http://www.salweenwatch.org/downloads/warning%20sign.pdf


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net