Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


กมธ.ดันกฎหมายประชามติเข้าสสร.วันจันทร์หน้า


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ หนึ่งในกรรมาธิการยกร่างหลักเกณฑ์วิธีออกเสียงประชามติและการออกเสียงประชามติเปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างประกาศสภาร่างรัฐธรรมนูญและวิธีการเผยแพร่รัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติ รับพิจารณาร่างพรบ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติเพื่อหาข้อสรุป โดยจะมีการนำร่างพรบ.การออกเสียงประชามติ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.ในวันจันทร์ที่ 26 ก.พ. นี้ และจะมีการพูดคุยเพื่อหาข้อดีข้อเสีย ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไปโดยคาดว่าในวันศุกร์ที่ 2 มีนาคม จะส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีได้ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการจัดทำร่าง


 


 


เครือข่ายประชาชนอีสานขอคุย "สพรั่ง" ก่อนตัดสินใจบุกทำเนียบหรือไม่


ผู้จัดการออนไลน์ -- เครือข่ายประชาชนอีสาน กว่า 600 คน ที่เดินเท้าเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้สิน ยืนยันว่า จะขอเจรจากับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อขอความชัดเจนก่อนตัดสินใจว่าจะเดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบหรือไม่


 


 


'ประเวศ'เตือนเหตุ'ไฟใต้-ทักษิณ'อาจพาสังคมไทยนองเลือด


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงปัญหาสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาสำคัญควรระวังมี 2 เรื่อง คือ 1.ปัญหาสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดการนองเลือดอยู่ในขณะนี้ 2.ความขัดแย้งจากระบบทักษิณ ที่ต้องถอดระบบทักษิณออกจากสังคมให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้น การนองเลือดจะเกิดขึ้นเช่นกัน


         


โดยในส่วนของปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ควรต้องรีบแก้ไข้โดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจลุกลามเข้าสู่กรุงเทพได้ สาเหตุสำคัญเกิดจากขาดเอกภาพในยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต่างฝ่ายต่างทำ ไม่มีการประสานความเข้าใจ อย่างกรณีที่กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สส.จชต.) เสนอให้ภาษายาวี เป็นภาษาใช้งานในท้องถิ่นอีกภาษาหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับภาษาราชการ แต่ท่านประธานองคมนตรีเข้าใจผิด และออกมาต่อต้าน ดังนั้น จะต้องรวมตัวกัน ทั้งองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กองทัพ สื่อมวลชล และประชาชน ที่ต้องช่วยกันทำให้เกิดยุทธศาสตร์เอกภาพแก้ไข้ปัญหาขึ้น


        


 ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ที่เป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น มี 7 ข้อ คือ 1. ฝึกทหารคอมมาโด ที่มีความเชี่ยวชาญเก่งรอบตัว เพื่อทำงานป้องกันและลดความรุนแรงเฉพาะหน้า 2. การจัดตั้ง "กองพันสันติเสนา" ซึ่งได้เคยหารือกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก่อนที่จะมีการปฏิรูปทางการเมือง


         


โดยเป็นการรับชายหนุ่มอายุระหว่าง 18-25 ปี ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเข้ารับการอบรมให้มากที่สุด มีเงินเดือน มีการสอนศาสนาอิสลามเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการล้างสมอง มีการสอนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อพัฒนาชุมชน ซึ่งจะเป็นการตัดกำลังการก่อความรุนแรงได้


         


3.เชิญนักธุรกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ทำธุรกิจเพื่อสันติภาพ สร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ทำ เกิดรายได้ขึ้น ถือเป็นการลดปัญหาความบีบคั้นในพื้นที่


         


4.ตั้งสภาผู้นำชุมชนในพื้นที่ทั้งจังหวัด เพื่อให้คนที่พื้นที่เกิดการมีส่วนร่วมทุกด้านในการแก้ไขปัญหาท้องถิ่น ทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม


          


5.การพัฒนาการปกครองท้องถิ่น ที่ต้องทำพร้อมทั่วประเทศ ให้มีแผนพัฒนาในพื้นที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมของตนเอง ซึ่งจะทำให้ไม่มีใครอยากแยกดินแดน


         


6.การสร้างความเข้าใจต่อประชาคมมุสลิม ให้โลกมุสลิมเกิดความเข้าใจว่า สิ่งที่รัฐบาลทำไม่ได้คิดไปฆ่าใคร เพียงแต่มุ่งเพื่อระงับรุนแรงเท่านั้น กลายเป็นกำลังหนุนสำคัญและเป็นภูมิคุ้มกันความรุนแรงได้ และ 7. การเจรจาวางอาวุธและร่วมพัฒนา


         


"ผมขอฝากไปถึง พล.อ.สนธิ โดยเสนอให้มีการจัดประชุมร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งองค์มนตรี ครม. คมช. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองทัพ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหายุทธศาสตร์ในการดับไฟใต้ โดยผมจะร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย"


         


ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า ส่วนความขัดแย้งที่เกิดจากระบอบทักษิณนั้น เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังเพราะอาจกลายเป็นต้นเหตุของความรุนแรงได้ ซึ่งขณะนี้ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ ทั้งการล็อบบี้ประเทศต่าง ๆ การออกมาให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างประเทศ และยังคงมีการต่อสายน้ำเลี้ยงยังกลุ่มตนเองเพื่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในประเทศ โดยเชื่อมโยงประชาชนที่ยังนิยมพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งในภาคเหนือและอีสาน และอาจก่อให้เกิดการชุมนุมก่อกวนขึ้น ที่อ้างในเรื่องความยากจน รายได้ ซึ่งจะยากต่อการเข้าควบคุมสถานการณ์ของรัฐบาลเอง


         


"ประกอบกับด้านองคมนตรี รัฐบาล คมช. ที่อิงกับสถาบัน และคงยอมไม่ได้ หากมีอะไรที่กระทบต่อสถาบันขึ้น ตรงนี้เองที่ทำให้เห็นจุดของความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ หรือการปราบประชาชนที่ชุมนุม แต่ปัญหาจะบานปลายออกไป ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อถอดชนวนความรุนแรง สร้างสันติภาพ ไม่ให้เกิดการนองเลือดขึ้น มิฉะนั้นจะทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย"


         


ส่วนแนวทางการแก้ไขในกลุ่มประชาชนที่ยังนิยม พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เห็นว่า รัฐบาลต้องรีบทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ยังมีวิธีการแก้ไขปัญหาความยากจนได้อย่างเด็ดขาดและถาวร อย่างการสร้างสุขภาพชุมชน


         


ไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่มีความหวัง เพราะในอดีตเคยได้รับแจกในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งต้องชี้ว่า การรับแจกเช่นนั้น เป็นวิธีการแก้ไขความยากจนที่ไม่มั่นคงและถาวร ประชาชนจะได้เลิกนิยม พ.ต.ท.ทักษิณ และวันนี้รัฐบาลควรต้องรุกแล้ว จะทำตัวเป็นพระป่าไม่ได้


 


 



"เสรีพิศุทธ์"สั่งนายพลที่ถูกปรับย้าย เริ่มงานจันทร์นี้


ผู้จัดการออนไลน์ -ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตร.ที่ 105/2550 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน เนื่องด้วย กต.ร. ในการประชุมครั้งที่ 3/2550 เมื่อวันที่ 21 ก.พ. มีมติให้ความเห็นชอบการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งต่างๆ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมรชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เพื่อให้การปฏิบัติราชการของ ตร. ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 72 (2) แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จึงให้ข้าราชการตำรวจจำนวน 50 ราย รักษาราชการแทนตำแหน่งต่างๆ ตามรายชื่อในบัญชีที่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้ง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. 2550 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งดำรงตำแหน่งดังกล่าว


 


สำหรับตำแหน่งสำคัญ อาทิ พล.ต.ท.ถาวรศักดิ์ เทพชาตรี ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา สบ 9 พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สลับตำแหน่งกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ที่จะไปรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พล.ต.ท.เจตนากร นภีตะภัฎ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ จเรตำรวจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกันนี้รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังมีบันทึกข้อความด่วนที่สุด กำชับให้ตำรวจที่ได้รับคำสั่งดังกล่าวเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ภายในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ด้วย


 


ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าในวันนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามสนอง คำสั่งโปรดเกล้าฯ ของ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ พรรณเภสัช รอง ผบ.ตร.(บร) ที่ยื่นหนังสือลาออก โดยมีผลในวันที่ 1 มี.ค. นี้เป็นต้นไป


 


 


กกต.ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลพรรค เน้นปลอดภัย ตรวจสอบการแก้ไขย้อนหลัง นำระบบสแกนนิ้วใช้ผ่านเข้าออก


เว็บไซต์แนวหน้า -นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบงานด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้ กกต.ได้ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองให้มีความทันสมัยและมีระบบการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยได้ดำเนินการปรับปรุง 2 ส่วนด้วยกัน คือ พัฒนาระบบในด้านเทคนิคในการบริหารจัดการฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง และระบบรักษาความปลอดภัยการใช้ระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง


 


ในส่วนของการพัฒนาระบบบริหารฐานข้อมูลพรรคการเมืองนั้น ได้มีการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลในระดับต่าง ๆ เพื่อให้สามารถควบคุมการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเกิดสิ่งผิดปกติของข้อมูลสมาชิกพรรคการเมือง หรือข้อมูลเกี่ยวกับพรรคการเมืองสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการแก้ไขข้อมูลในขั้นตอนใดและอยู่ในความรับผิดชอบของใคร สำหรับการรักษาความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ได้นำระบบควบคุมการเข้าออกโดยใช้เครื่องสแกนลายเส้นเลือดนิ้วมือ ซึ่งเป็นระบบ Biometric ที่มีความแม่นยำและเชื่อถือได้สูงเทียบเท่าการสแกนลายม่านตา ควบคู่กับการกำหนดรหัสประจำตัว และการจัดทำระเบียบการเข้าออกห้องปฏิบัติการฐานข้อมูลรวมถึงมีระบบโทรทัศน์วงจรปิดตรวจจับการเคลื่อนไหวในห้องปฏิบัติการที่สามารถส่งสัญญาณ เตือนผ่าน E-mail และ SMS ได้ และปรับปรุงระบบเครือข่ายในการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย


 


"การที่จะมีคนเข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคการเมืองเป็นไปได้ยาก เพราะหากเข้าไปเปลี่ยนแปลง เราก็สามารถขอดูการแก้ไขเปลี่ยนแปลงต่างๆย้อนหลัง ซึ่งการแก้ไขแต่ละครั้งโปรแกรมจะบันทึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ เปลี่ยนแปลงเรื่องอะไร ใครเป็นผู้เปลี่ยนแปลง หากพนักงาน กกต.คนใด กระทำการ ในเรื่องนี้ก็จะโดนลงโทษถึงขั้นให้ออก ปลดออก และไล่ออก ถึงแม้จะเป็นผู้บริหารระดับสูงก็ไม่สามารถให้อภัยได้"


 


 


"อภิสิทธิ์" หนุนต่ออายุคตส.หากจำเป็น


ไอ.เอ็น.เอ็น- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. มีการรวบรวมรายชื่อเพื่อทำหนังสือเสนอรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.ขอให้ออกกฎหมายแก้ไขคำสั่ง คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ( คปค.) ฉบับที่ 30 เพื่อต่ออายุการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียแก่รัฐ หรือ คตส. โดยเห็นว่าต้องดูที่ความจำเป็น ว่าหากมีภารกิจที่สำคัญที่จะดำเนินการต่อการต่ออายุก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขึ้นอยู่กับรัฐบาลและ คตส. ในการที่จะหารือร่วมกัน ทั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญด้านสถาบันการเมือง ที่กำหนดให้มีการบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมือง เพียงปีละ 2 ล้านบาทเพราะเป็นเงินที่ต่ำจนเกินไปและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยส่วนตัวเห็นว่าควรกำหนดไว้ที่ ปีละ 10 ล้านบาทต่อคน


 


 


ผุด "วอร์รูม" หวังแจงภารกิจกองทัพ


เดลินิวส์ -ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.พิชษณุ ปุจฉาการ โฆษกกระทรวงกลาโหมคนใหม่ แถลงผลการประชุมสภากลาโหม ซึ่งมี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่โฆษกกระทรวงกลาโหมครั้งแรกว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายประชาสัมพันธ์เชิงรุกแบบบูรณาการของรัฐบาล ทางกระทรวงกลาโหม จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการประชาสัมพันธ์กระทรวงกลาโหม ในลักษณะวอร์รูม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้รวดเร็ว ถูกต้อง โดยมีโฆษกกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ให้มีการแถลงผลการดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวงกลาโหมเดือนละครั้ง หรือตามสถานการณ์ และให้หน่วยขึ้นตรงของกระทรวงกลาโหม จัดทำแผนงานโครงการในปี 2551 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลต่อไป


 


 


จรัญ นัดถก เสรีพิศุทธ์ ขอโอนคดี "กุหลาบแก้ว"


ผู้จัดการออนไลน์ - นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงแนวทางนำคดีการตรวจสอบบริษัทกุหลาบแก้ว บรรจุเข้าเป็นคดีพิเศษ ว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรม อยู่ระหว่างรวบรวมและศึกษาข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ส่วนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการ ผบ.ตร. จะขอดูแลการตรวจสอบคดีเองนั้น คงต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ซึ่งตนได้มอบให้ นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดหมายเพื่อหารือกับ ทางผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช.) ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ


 


"ไม่อยากให้มองว่า กระทรวงยุติธรรม กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความขัดแย้งกัน เพราะผมกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รู้จักกันมายาวนาน ทำให้รู้ดีว่า รักษาการ ผบ.ตร.ไม่เคยมีนิสัยดูถูกดูแคลนคน เพียงแต่ลักษณะการพูดอาจเป็นแบบนักรบ จึงต้องขึงขังเข้มแข็ง แต่ในจิตใจไม่มีอะไร ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างแน่นอน" ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว


 


นายจรัญ กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจว่า ที่ผ่านมาเกิดความคลาดเคลื่อนในการตั้งคำถาม และสื่อความหมายระหว่างกัน แต่ความขัดข้องหมองใจกันคงไม่มี การที่ตำรวจแสดงความมั่นใจว่าจะทำคดีกุหลาบแก้วเอง ได้โดยไม่ต้องการให้เป็นคดีพิเศษนั้น ตนคิดว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมั่นใจอย่างนั้นต่อภารกิจหน้าที่ของตัวเอง แต่ช่องทางใดจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่สุดจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง


 


สถานการณ์สื่อ


 


ขิงแก่ป่วน-สั่งรวม "กสช.-กทช."


เดลินิวส์ -นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงแนวคิดที่จะมีการยุบรวมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) กับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องนี้ และยังงงอยู่ เพราะนายธีรภัทร์ยังไม่ได้มีคำสั่งมา ทราบแต่เพียงว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำงาน ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้คงเป็นนโยบายของรัฐบาล และอาจจะเกี่ยวข้องกับการร่างรัฐธรรมนูญด้วย แต่ตนไม่ได้ร่วมอยู่ในกรรมการชุดดังกล่าว ตนมีหน้าที่เพียงดูแลการสรรหา กสช. ซึ่งขณะนี้กระบวนการอยู่ในขั้นตอนที่ทางกระทรวงมหาดไทยกำลังตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการคัดสรรเป็นคณะกรรมการสรรหา กสช. อยู่ ซึ่งยังติดขัดในส่วนผู้แทนสมาคมวิชาชีพที่ตรวจยังไม่เสร็จเพราะมีผู้สมัครเป็นจำนวนมาก แต่ในส่วนของผู้แทนจากส่วนราชการ กับทางนักวิชาการนั้นตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และตนจะสรุปเสนอ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในเร็ว ๆ นี้


  


เมื่อถามว่าหากมีการยุบรวมกระบวนการสรรหา กสช. ที่ สปน. กำลังดำเนินการต้องยุติหรือไม่ นายจุลยุทธ กล่าวว่า ในเมื่อกระบวนการสรรหาเริ่มขึ้นแล้ว ทางนี้ต้องทำตามกระบวนการทางกฎหมายไปเรื่อย ๆ เพราะหยุดไม่ได้ เพียงแต่ว่าถ้ากระบวนการสรรหาของเรายังไม่เสร็จ แต่ทางคณะกรรมการฯที่ดูแลเรื่องการยุบรวม 2 หน่วยงานทำงานเสร็จก่อน กระบวนการสรรหา กสช. ก็จะถูกระงับไปโดยปริยาย


  


ก่อนหน้านี้นายธีรภัทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการสรรหา กสช. ว่า รัฐบาลมีแนวคิดที่จะควบรวม กสช. และ กทช. เข้าด้วยกัน โดยคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งได้มอบหมายให้นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัด สปน. เป็นผู้ประสานงานเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องหารือในเรื่องนี้ เนื่องจากปัญหา กสช. เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานาน ในขณะที่เทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบันมีการพัฒนาไปมากและเป็นแพ็กเกจเดียวกัน และในต่างประเทศมีการรวมหน่วยงานประเภทนี้ไว้ด้วยกันอยู่แล้วซึ่งต้องสัมพันธ์กับการร่างรัฐธรรมนูญด้วย


  


ด้านคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า เรื่องการสรรหา กสช. นั้นเป็นอำนาจของสำนักงาน ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทางรัฐบาลคงไม่เข้าไปแทรกแซง


 


 


อดีตรองหัวหน้าพรรค ทรท.ปฏิเสธหนุนสถานีโทรทัศน์ฯพีทีวี


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายประชา มาลีนนท์ ประธานกรรมการบริหารบมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์(CVD) ซึ่งเป็นอดีตรองหน้าพรรคไทยรักไทย(ทรท.)ปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนบริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ ของอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "พีทีวี" ตามที่ผู้ดำเนินรายการยามเฝ้าแผ่นดินกล่าวอ้าง


  


"ทราบข่าวเมื่อวันพุธว่ามีผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทีแรกผมกะว่าจะอยู่เฉยๆ แต่ที่ปรึกษาแนะนำให้ผมชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ" นายประชา มาลีนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์(CVD)กล่าว


  


ทั้งนี้ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยหลายคน เช่น นายวีระ มุสิกพงษ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นต้น ได้ร่วมกันจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "พีทีวี" โดยจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 1 มี.ค.นี้


  


นายประชา ยอมรับว่า มีความสนิมสนมกับกลุ่มผู้ก่อตั้งพีทีวีบางคนเพราะเคยทำงานร่วมกันมา แต่หลังเกิดเหตุรัฐประหารเมื่อวันทื่ 19 ก.ย.49 ตนเองไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับงานด้านการเมือง โดยเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศกับครอบครัวและทำงานในธุรกิจที่มีความถนัด


  


"ตอนนี้ผมยังไม่คิดเรื่องการเมือง แต่ขอดูเรื่องรัฐธรรมนูญก่อนจึงค่อยตัดสินใจอีกครั้ง" นายประชา กล่าว


  


นายประชา กล่าวว่า ไม่รู้ว่ากลุ่มผู้จัดตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวีใช้เงินทุนจากที่ไหน แต่งบประมาณที่ใช้ไม่น่าจะมากเหมือนการทำฟรีทีวี


  


ส่วนที่มีข่าวว่าตนเองเป็นผู้ให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุนนั้นคงต้องไปสอบถามจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในรายการยามเฝ้าแผ่นดิน ซึ่งขอให้มีการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนนำเสนอต่อสาธารณชน


 


"พรรคประชากรไทย"ร้องศาลปกครอง ยกเลิก"ยามแผ่นดิน"


เว็บไซต์แนวหน้า - นายสนธิญา สวัสดี กรรมการบริหารและรองโฆษกพรรคประชากรไทย กล่าวว่า ยื่นฟ้องนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งยกเลิกรายการ"ยามเฝ้าแผ่นดิน" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ เนื่องจากเป็นรายการที่นำไปสู่ความแตกแยกของสังคมเพราะมีการพาดพิงถึงบุคคลหลายกลุ่ม และเนื้อหาขัดแย้งกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์เชิงรุกแต่อย่างใด


  


ทั้งนี้ ทีมฝ่ายกฏหมายของพรรคประชากรไทยกำลังพิจารณาว่าการที่นายธีรภัทร์ ปล่อยให้รายการดังกล่าวออกอากาศผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ดำเนินการโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการของศาลยุติธรรม ดังนั้น หากยังไม่มีการยกเลิกรายการนี้พรรคฯก็จะเปิดเวทีสาธารณะให้บุคคลที่ถูกพาดพิงได้ชี้แจงกับประชาชนด้วยเช่นกัน


 


 


"ธีรภัทร์"ฮึ่มจัดการพีทีวีดื้อแพ่งขู่ฟ้องเจ้าของโพสต์ทูเดย์ชี้บิดข่าว


ผู้จัดการออนไลน์ -นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคไทยรักไทยจะก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี ว่า จำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายห้ามการจัดสรรคลื่นความถี่ ในช่วงที่ยังไม่มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) ดังนั้น อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คงจะเชิญผู้บริหารพีทีวี มาทำความเข้าใจต่อไป แต่หากยังยืนยันที่จะออกอากาศอยู่ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ก็คงต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย


  


นายธีรภัทร์ ยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะแม้กระทั่งกรณีโทรทัศน์ดาวเทียมของ อสมท ก็ยังพิจารณาให้ไม่ได้ จนกว่าจะมีกฎหมายมารองรับ เนื่องจากสื่อทีวีมีผลกระทบมาก เราไม่ได้เลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมารัฐบาลชุดที่แล้ว ได้ดำเนินคดีเอเอสทีวี เพียงแห่งเดียว ขณะที่มีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 10 กว่าสถานี แต่สำหรับรัฐบาลนี้ได้ล้อมไว้ โดยไม่ให้เกิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพราะเมื่อกฎหมายยังไม่มีรองรับ ก็ปฏิบัติไม่ได้


  


"สื่อฯ บางฉบับบอกว่า ผมมี 2 มาตรฐาน เช่น โพสต์ทูเดย์ หลายครั้งที่ลงข่าวบิดเบือน มีลักษณะมุ่งใส่ร้ายป้ายสีผมเป็นการเฉพาะ เวลาพาดหัวข่าว ข่าวดี ๆ ก็ไปพาดอีกอย่างหนึ่ง ก็ฝากไปเรียนถึงบรรณาธิการโพสต์ทูเดย์ และเจ้าของโพสต์ทูเดย์ว่า ช่วยกรุณาดูแลให้เกิดความถูกต้องด้วย ไม่เช่นนั้น ถ้าอะไรที่เกินเลยไป ก็ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน" นายธีรภัทร์ กล่าว


  


นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาสถานภาพ ปัญหา และแนวทางแก้ปัญหาสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โดยตอนแรกได้เชิญ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส มาเป็นประธาน แต่ นพ.ประเวศ ไม่รับ จึงได้เชิญ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว. อุบลราชธานีมาแทน ส่วนกรรมการมีทั้งหมด 7 คน กำลังรอการทาบทามอีก 2 คน คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าจะลงนามในคำสั่งได้


  


สำหรับหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ มีกลุ่มห้างเซ็นทรัล ที่ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้า โรงแรม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ที่นำโดย นายสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่


 


 


'พงษ์ศักดิ์' ซุ่มเงียบดอดทำโทรทัศน์ดาวเทียม คน อสมท.เป็นงงมาไม้ไหน


เว็บไซต์ไทยรัฐ -ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ว่าในการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่มีนายจุลยุทธ์ หิรัญวิศิษฐ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการ บมจ.อสมท เป็นประธานเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เบรกงบลงทุนเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับโครงการโทรทัศน์ดาวเทียมจำนวน 55 ล้านบาท ของนายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท เนื่องจากเห็นว่าโครงการยังไม่มีรายละเอียดและแนวทางศึกษาความเป็นไปได้ ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์ รายได้ รายจ่าย กำไร จุดคุ้มทุน รวมทั้งยังต้องศึกษาในเรื่องของข้อกฎหมายด้วยว่า สามารถทำได้หรือไม่เพราะเหมือนการใช้คลื่นความถี่ใหม่ ซึ่งต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ หรือ กสช. จึงให้กลับไปศึกษาใหม่


 



ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการได้ให้ อสมท ศึกษารายละเอียดก่อนเสนอขออนุมัติจากคณะกรรมการ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีการศึกษาความเป็นไปได้ใดๆเลย แต่นายพงษ์ศักดิ์พยายามเร่งรัดให้เกิดขึ้นให้ได้ในเดือน เม.ย.นี้ เพราะยังมีอำนาจในฐานะรักษาการ ก่อนจะมีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่


 



อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าแม้จะไม่ได้รับอนุมัติงบให้ดำเนินโครงการ แต่นายพงษ์ศักดิ์ก็ยังดึงดันที่จะดำเนินการให้ได้ ล่าสุดได้เริ่มทดลองออกอากาศบ้างแล้ว โดยมีรายงานว่า ได้มีการแปลงงบลงทุนปี 2549 ประมาณ 5 ล้านบาท ไปจัดซื้อุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อรองรับการทดลองออกอากาศโทรทัศน์ดาวเทียม



ขณะที่ผู้บริหารของ อสมท ที่เป็นนักกฎหมายบางคนยืนยันว่าสามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ.2498 สำหรับโครงการดังกล่าวจะเป็นลักษณะของการขยายช่องสัญญาณคลื่นความถี่ที่ อสมท มีอยู่กระจายออกให้ ได้มากขึ้น ในลักษณะโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมไปยังต่างจังหวัด ออกอากาศคล้ายกับโทรทัศน์ดาวเทียมของเอเอสทีวี หรือพีทีวี ซึ่งต่างจากโทรทัศน์ที่ อสมท ดำเนินการในปัจจุบัน โดยกลุ่มเป้าหมายที่สามารถรับชมได้จะต้องมีจานรับดาวเทียม อีกทั้งโครงการยังแตกต่างจากโครงการเดิมที่ อสมท เคยศึกษาไว้ที่จะทำโทรทัศน์ดาวเทียมในลักษณะของการออกอากาศไปยังต่างประเทศ เป็นภาษาต่างประเทศที่สามารถสื่อสารกับคนไทยและชาวต่างชาติในต่างประเทศได้ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการเพราะ อสมท ต้องการหาผู้ร่วมทุนรายอื่นและมองถึงจุดคุ้มค่าในการลงทุน


 



ขณะเดียวกัน พนักงาน อสมท ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตและมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการโทรทัศน์ ดาวเทียมของนายพงษ์ศักดิ์ เพราะยังมองไม่เห็นว่าการทำโทรทัศน์ดาวเทียมล่าสุด มีเจตนาอย่างไรวัตถุประสงค์ของโครงการทำเพื่ออะไร เอื้อประโยชน์ ให้ใครบางคนหรือไม่ ทำแล้วจะคุ้มทุนหรือไม่ จะหารายได้มาอย่างไร นอกจากรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นแน่นอนด้านนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีโทรทัศน์ดาวเทียมของ อสมท ขณะนี้ยังพิจารณาให้ไม่ได้จนกว่าจะมีกฎหมายมารองรับ เนื่องจากสื่อทีวีมีผลกระทบมากเมื่อกฎหมายยังไม่มีรองรับก็ปฏิบัติไม่ได้


 


 


 


เศรษฐกิจ


 


รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ระบุญี่ปุ่นไม่สามารถจดสิทธิบัตรจุลชีพหากไม่มีการปรับปรุงพันธุ์


กรมประชาสัมพันธ์ -ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่าตามที่มีข้อกังวลในประเด็นสิทธิบัตรจุลชีพ ในการลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA นั้น กฏหมายไทยให้ความคุ้มครองทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ หากไม่ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ หรือนำไปคิดค้นกรรมวิธีหมักดองจนเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือมีการพัฒนาการผลิตเป็นยาที่มีคุณสมบัติพิเศษ ดังนั้นที่ต้องหารือกันจึงเป็นในแง่ของการปรับปรุงพันธุ์จุลชีพ ซึ่งมีทรัพย์สินทางปัญญาเข้ามาเกี่ยวข้อง กฏหมายไทยจึงจะอนุญาตให้จดสิทธิบัตร ไม่ว่าจะมีข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างกันหรือไม่ อย่างไรก็ตามคงต้องมีการเจรจากับฝ่ายญี่ปุ่นให้ชัดเจน ตามที่คณะรัฐมนตรีเน้นย้ำในประเด็นนี้


 



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวอีกว่าคณะรัฐมนตรียังย้ำถึงการดูแลความหลากหลายทางชีวภาพของไทย ที่ไม่เพียงแต่จุลชีพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพืชสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืช และให้แน่ใจว่าทรัพยากรชีวภาพของไทยจะไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง



 


หม่อมอุ๋ย ชี้ ธปท.ขาดทุนเรื่องปกติ


ไอ.เอ็น.เอ็น- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯคลัง เปิดเผยว่าการขาดทุนทางบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทยถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ทั้งนี้อยากให้คำนึงถึงเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากกว่าซึ่งปัจจุบันเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีสูงกว่า 6 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันระบุว่าตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศใช้มาตรการกันสำรองร้อยละ 30 เมื่อเดือนธันวาคม 2549 จนถึงขณะนี้ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ35.60 บาท ถึง 35.70 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ


 


 


ความมั่นคง


 


ประธาน คมช. ยืนยัน ไม่ได้ลดความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้


กรมประชาสัมพันธ์ -พลเอกสนธิ บุญรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยืนยันว่า ไม่ได้ลดความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลง ภายหลังกรุงเทพโพลล์ เปิดเผยความคิดเห็นว่าประธาน คมช. ให้ความสำคัญกับงานการเมืองมากกว่าการแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งพลเอกสนธิ กล่าวว่า ในฐานะประธาน คมช. ได้กำหนดเป้าหมายหลักและเป้าหมายรองไว้แล้ว ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับปัญหาหลักที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศโดยรวมก่อน ส่วนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้มอบหมายให้พลโทวิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ดูแล โดยมีการประสานการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ยังเชื่อว่ากำลังพลในพื้นที่ไม่เสียขวัญกำลังใจ


 



ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รับเงินอุดหนุนจากประเทศในตะวันออกกลางมาใช้ก่อเหตุนั้น พลเอกสนธิ ระบุว่า อย่าเพิ่งไปหลงเชื่อกระแสข่าวดังกล่าว



 


 


สถานทูต'ออสซี่-อังกฤษ'เตือนภัยบึ้มกทม.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ออกคำเตือนด้านการเดินทาง ไว้บนเวบไซต์ของสถานทูต ระบุว่าชาวออสเตรเลียในไทยควรระมัดระวังเป็นพิเศษในวันศุกร์ (23 กพ.) หลังจากได้รับรายงานว่าอาจมีการวางระเบิดสถานที่ชุมชนในกรุงเทพฯ อย่างห้างสรรพสินค้าหรือขนส่งมวลชน


 


ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานว่า สถานทูตอังกฤษได้ประกาศแก้ไขคำแนะนำนักท่องเที่ยวให้ระวังการเดินทางมายังกรุงเทพฯ และพื้นที่ภาคใต้ หลังสถานทูตออสเตรเลียได้ประกาศเตือนภัยไปก่อนหน้านี้


 


ขณะสถานทูตสหรัฐยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำแนะนำในการเดินทางเข้ามายัง 2 พื้นที่ดังกล่าว


  


นายเอียน พราวด์ รองโฆษกสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลเฉพาะเจาะจงที่บ่งชี้ว่าจะมีการโจมตีเกิดขึ้นในวันนี้ (23 กพ.) แต่การที่สถานทูตมีความกังวลเพิ่มขึ้น สืบเนื่องมาจากการประกาศของรัฐบาลไทยว่ามีการระดมกำลังรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น


  


 


'ยงยุทธ'เตือนปชช.ระวังช่วง 23-27 ก.พ.


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น- ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลโทประยุทธ์ จันโอชา แม่ทัพภาคที่1 ระบุว่าขอให้ประชาชนระวังการก่อเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันที่23-27ก.พ.นี้ว่า เป็นรายงานข่าวของฝ่ายความมั่นคงที่ขอให้ประชาชนระวังตัวในช่วงที่สถานการณ์ประเทศไม่ปกติ


 


หากพบกับสิ่งที่ผิดสังเกตก็ขอให้แจ้งเตือนไปยังคอลเซนเตอร์ 1111 ได้ทันที ทั้งนี้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีกำชับในการประชุมกอ.รมน.ว่าขอให้ทหาร-ตำรวจ-พลเรือนร่วมมือกันดูแลและรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเข้มงวดแล้ว และตอนนี้ก็มีทหารกระจายตัวไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆทั่ว กทม.แล้วเพื่อป้องกันเหตุร้าย


  


เมื่อถามว่า สถานการณ์ต่างๆยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติ เริ่มตั้งแต่เหตุวางเพลิงในภาคต่างๆ และการวางระเบิด กทม.9จุดในวันที่31ธ.ค.2549 ซึ่งนายกฯและหน่วยงานความมั่นคงบอกว่าเป็นเรื่องการเมืองและเป็นภัยรูปแบบใหม่ แต่รัฐบาลยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ อาจทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการดูแลรักษาความปลอดภัย


  


รอ.นพ.ยงยุ ทธ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือประชาชนในทุกด้านในการแจ้งเบาะแส ส่วนความคืบหน้าทางการสืบสวนคดีต่างๆนั้น ตอนนี้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร.กำลังดำเนินการอยู่ ขอเวลาสักนิด เพราะกำลังเริ่มต้นสืบสวนสอบสวนคดีใหม่ทั้งหมด


 


 


เกิดเหตุระเบิด ข้างสนามหญ้าใกล้ฐานปฏิบัติการ ทหาร ฉก.39 สุไหงปาดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร ออกมาเล่นกีฬา เบื้องต้น จนท.ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย


กรมประชาสัมพันธ์ -เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ( เวลา 17.00 น.) คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบนำระเบิด ไปวางซุกไว้ข้างสนามฟุตบอล หน้าฐานปฏิบัติการ หน่วยย่อย ฉก .39 อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส



เหตุเกิดขณะที่ ทหารกองร้อย ร. 6014 หน่วยเฉพาะกิจ 39 จำนวน 10 นาย กำลังเล่นตะกร้อออกกำลังกายในสนามฟุตบอล อยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการมาเพียงเล็กน้อย ซึ่งตั้งอยู่บ้านบาโงสานิง ม.6 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี หลังรับแจ้ง กำลัง จนท.ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือด และเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องขนาดน้ำหนัก 5 ก.ก. ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในหม้ออลูมิเนียม จุดชนวนด้วยรีโมทคอนโทรล ที่ตกกระจายเกลื่อนในบริเวณ ประมาณ 15 เมตร ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร จำนวน 8 นาย และครูหญิงสอนหนังสือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อีก 1 ราย โดยเพื่อนทหารได้ส่งตัวไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เป็นการอย่างเร่งด่วน


 



ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ร้อย ร.6014 ฉก.39 จำนวน 8 นาย ส่วนชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บเป็นครูหญิงสอนหนังสือที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านบาโงสานิงอีก 1 ราย


 


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีทหารชุด รปภ.ครู สังกัด ร้อย ร.6014 ฉก .39 จำนวน 10 นาย กำลังเล่นตระกร้ออยู่ที่สนามหน้าฐานปฏิบัติการณ์ โดยมีครูและชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังยืนซื้อลูกชิ้นทอด ที่ชาวบ้านนำมาเร่ขายในหมู่บ้าน คาดว่าคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ละแวกจุดเกิดเหตุ ได้ใช้รีโมทคอนโทรล จุดชนวนระเบิดแอบ นำมาวางไว้ในริมสนาม จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว


 


 


ผช.ทูตทหารสิงคโปร์ประจำไทย ชี้ทบ.ไม่ใช่ "spy"


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - พ.อ.มาร์ค โก๊ะ ผู้ช่วยทูตทหารสิงคโปร์ประจำประเทศไทย กล่าวปฏิเสธถึงกรณีที่บทวิเคราะห์ของหนังสือพิมพ์อ้างถึงกองทัพบกสิงคโปร์เข้ามาใช้พื้นที่ฝึกในประเทศไทยที่ จ.อุดรธานี และ จ. กาญจนบุรี ในลักษณะเป็นสายลับว่า กองทัพบกสิงคโปร์ ไม่ใช่ "spy " (สายลับ) ตามที่เป็นข่าว ทั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ทำอย่างถูกต้องระหว่างกองทัพกับรัฐบาลไทย ตนยืนยันว่ามันไม่จริง รวมทั้งกรณีที่มีการพาดพิงว่ากองทัพบกสิงคโปร์เคยให้การสนับสนุนให้ กลุ่มกระเหรี่ยง เคเอ็นยู ระหว่างเข้ามาฝึกในค่ายฝึกไทรโยค จ.กาญจนบุรี ก็ไม่เป็นความจริง


  


พ.อ.มาร์ค กล่าวว่า ตอนนี้กองทัพบกสิงคโปร์ยังฝึกอยู่ที่ค่ายฝึกกาญจนบุรีภายใต้แผนการฝึก 207 ซึ่งเป็นการฝึกตามรหัสเครสเชนโด้ รวมถึงการฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการดำเนินการที่ทำกันประจำทุกปี ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างกองทัพของสองประเทศ ซึ่งความสัมพันธ์ของกองทัพอยู่ในระดับดีมาก แม้จะมีปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมาบ้างก็ตาม


 


 


กองทัพอากาศ ยืนยัน กองทัพสิงคโปร์ใช้กองบิน 23 เป็นไปตาม MOU ไม่ใช่เช่าพื้นที่


กรมประชาสัมพันธ์ - นาวาอากาศเอกมณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงว่า กองทัพอากาศสิงคโปร์ เข้ามาใช้พื้นที่กองบิน 23 ทำการฝึกบิน เป็นไปตามบันทึกความเข้าใจ(MOU) ระหว่างรัฐบาลไทย-สิงคโปร์ที่ทำไว้ตั้งแต่สมัย พลอากาศเอกคงศักดิ์ วันทนา เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ ในการสนับสนุนด้านการฝึกและการส่งกำลังบำรุงระหว่างกองทัพอากาศไทยกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ ไม่ได้เป็นการเช่าพื้นที่กองบินแต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมระบุว่า ข้อร้องเรียนต่าง ๆ กองทัพอากาศไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมรับฟัง ส่วนจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น จะต้องมีการหารืออีกครั้งหนึ่ง



 


คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม การศึกษา


 


ชาวอัมพวาฮือประท้วงเขื่อนกั้นน้ำ ทำประชาคมล่ม/นอภ.ยันรับข้อเสนอชาวบ้าน


เว็บไซต์แนวหน้า -จากกรณีที่ชาวอำเภออัมพวา จ.สมุทรสงคราม กว่า 500 คน ได้ชุมนุมกันที่บริเวณหน้าที่ว่า การอำเภออัมพวา เพื่อประท้วงกรมชลประทานที่จะทำการปิดเขื่อนกั้นน้ำเค็มปากคลองต่างๆ สองฟากฝั่งแม่น้ำแม่กลองตามโครงการกรมชลประทานแม่กลองใหญ่ เพราะจะส่งผลให้ชาวบ้านที่ ปลูกพืชผักผลไม้ได้รับผลกระทบและเสียหายอย่างหนัก


 


โดยก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้จ้างบริษัทที่ปรึกษา ทำการประชาคมฟังความคิดเห็นของชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องการรื้อฟื้นโครงการแม่กลองใหญ่หรือโครงการปิดเขื่อนกั้นน้ำเค็มขึ้นมาปัด ฝุ่นใหม่ และได้เชิญแต่ผู้นำชุมชนจากตำบลต่างๆ เกี่ยวข้องมาทำประชาคม ซึ่งการประชุมครั้งดังกล่าวเกิดโกหลขึ้น เพราะเนื่องจากห้องประชุมคับแคบ


 


ต่อมาเทศบาลตำบลอัมพวาได้ให้เจ้าหน้าที่มาทำวามสะอาดบริเวณหน้าอำเภอ ชาวบ้านจึงไม่พอใจคิดว่าอำเภอขับไล่ ทั้งนี้นายอำเภอได้เชิญ ทุกคนที่เกี่ยวข้องไปรวมตัวกันที่ห้องประชุมใหญ่แทน หลังจากนั้นชาวบ้านพร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ได้กล่าวโจมตีกรมชลประทานจนต้องยกเลิกการประชาคม แต่ยังคงรับฟังความคิดแห็นของชาวบ้าน


 


นายสำราญ ตันเรืองศรี นายอำเภออัมพวา กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการปิดกั้น เขื่อนกั้นน้ำเค็มตามคลองต่างๆ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองและคลองแม่กลอง แต่ให้ปิดกั้นตาม แนวถนนพระราม 2 ทางด้านตำบลบางแก้ว บางจะเกร็ง คลองโคน แพรกหนามแดง และยี่สาร เพราะจะมีผลกระทบน้อยและสามารถป้องกันปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำได้ด้วย นอกจากนี้แล้วยังต้องการให้กรมชลประทานใหญ่ปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี ปล่อยน้ำจืดลงมาหล่อเลี้ยงชาวจังหวัดราชบุรีและจังหวัดสมุทรสงครามเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิม ให้การประปาภูมิภาคยุติการส่งน้ำจากต้นน้ำแม่กลองไปผลิตประปาที่การประปานครหลวง เพราะทุกวันนี้จังหวัดต้นน้ำเหล่านี้มีไม่พอใช้อยู่แล้ว


 


นายสำราญ กล่าวอีกว่า ข้อเสนอของชาวบ้านนั้นเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและคณะที่ปรึกษา ของกรมชลประทานได้รับปากว่าจะนำไปพิจารณาทบทวนอีกครั้งหนึ่ง


 



 


บอร์สวล.ไฟเขียวบังคับใช้ค่ามาตรฐานสารก่อมะเร็ง 9 ชนิดคุมมาบตาพุด


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น -นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเกี่ยวกับการก่อมลพิษในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยที่ประชุมเห็นชอบให้กำหนดค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศจำนวน 9 ชนิด เพื่อควบคุมการปล่อยสารระเหยดังกล่าวของโรงงานอุตสาหกรรม


 


นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษไปกำหนดแนวทางและระบบในการควบคุมมลพิษรวมถึงการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตฐานที่กำหนดไว้ โดยในวันที่ 24 ก.พ. จะมีการหารือระหว่างผู้เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนลดมลพิษในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุด


 


นายเกษมสันต์ จิณณวาโส เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (สผ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบเรื่องการกำหนดร่าง ค่ามาตรฐานเบื้องต้น สำหรับสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ในบรรยากาศของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบ ตาพุด จำนวน 9 ชนิด ซึ่งอยู่ในกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยก่อมะเร็งที่จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของ ประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ตามข้อเสนอของกรมควบคุมมลพิษ (คพ. ) และรายงานความคืบ หน้าการทำงานชุดท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ เสถียรไทย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาดำเนินการอยู่แล้ว


 


 


คลังชี้ชะตานักเรียน3แสนคน


เดลินิวส์ -นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กยศ. มีมติให้ กยศ. ไปจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการกับเด็กนักเรียนทุนที่กู้ยืมเงินเรียนจากกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกพันกับรายได้ ในอนาคต (กรอ.) จำนวนกว่า 3 แสนคน ให้ชัด เจน เพื่อเสนอให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และ รมว.คลัง พิจารณาตัดสินก่อนเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาต่อไปว่าต้องการให้ ยกเลิกการให้เงินทุนกับเด็กทั้ง 3 แสนคน แล้วให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้รับช่วงต่อไปโดยรัฐบาลสนับสนุนส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินกู้ให้ หรือยังรับภาระเด็กทั้งหมดจนกว่าจะจบการศึกษาในอีก 3 ปีข้างหน้า ส่วนการปฏิรูประบบการเงินเพื่อการศึกษานั้น ยังไม่แล้วเสร็จต้องศึกษาและวางแนวทางในรายละเอียดต่อไป


  


รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หาก ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ตัดสินใจให้ยกเลิกการให้ทุนกับเด็กทั้ง 3 แสนคนแล้วจะทำให้เด็กนักเรียนประมาณ 1 แสนคน ไม่เข้าเงื่อนไขที่สามารถกู้ยืมเงินเรียนจาก กยศ.ตามแนวทางของรัฐบาลที่ให้ ยกเลิก กรอ. แล้วนำไปรวมกับ กยศ. เพื่อให้เป็นกองทุนเดียวกันได้ เพราะมีรายได้ของครอบครัวเกินกว่า 1.5 แสนบาทต่อปี ซึ่งเท่ากับว่าต้องหาเงินเสียค่าเล่าเรียนเองเมื่อขึ้นปีที่ 2


  


นอกจากนี้ในที่ประชุมตัวแทนจากสำนัก งบประมาณได้คัดค้านอย่างหนัก ไม่ให้รัฐบาลแบกรับภาระเด็กทั้ง 1 แสนคน เนื่องจากต้องใช้งบประมาณปีละกว่า 8,000 ล้านบาท หรือหาก รวมทั้ง 3 ปี ก็เท่ากับว่าต้องใช้เงินอีกกว่า 24,000 ล้านบาท แต่ให้ทำตามนโยบายของรัฐบาลโดย ยกเลิกการให้เงินกู้ยืมเรียนในส่วนของกองทุน กรอ. ทำให้คณะกรรมการที่มาจากหน่วยงานอื่นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักว่าตัวแทนจากสำนักงบประมาณไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของเด็กนักเรียนทั้ง 1 แสนคนว่าจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อ ขึ้นชั้นปีที่ 2 ซึ่งทำให้นายศุภรัตน์ ต้องส่งเรื่องทั้งหมดให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เป็นผู้ตัดสิน


  


นายเปรมประชา ศุภสมุทร ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า ในที่ประชุมยังได้อนุมัติให้จ่ายเงินงบประมาณกว่า 22,700 ล้านบาท ให้กับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่มาขอกู้จาก กยศ. ทั้งรายใหม่และรายเก่ารวมประมาณ 1.75 ล้านคน เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาในปีการศึกษา 50 ที่จะเริ่มต้นในเดือน มิ.ย. นี้ โดยกำหนดให้จ่ายเงินทันทีทั้งเงินค่าเล่าเรียน และเงินค่าครองชีพ ซึ่งตามเกณฑ์ใหม่ที่ปรับปรุงตามนโยบายให้ยุบรวม กรอ. เข้ากับ กยศ. แล้วนั้นเด็กนักเรียนสามารถกู้ยืมเงินในส่วนของค่าเล่าเรียนได้ตามจริงแต่ไม่เกินจากเพดานที่กำหนดในแต่ละประเภท ขณะที่เงินค่าครองชีพนั้นได้ปรับลดลง 50% คือเหลือเพียงปีละไม่เกิน 24,000 บาทจากเดิมที่กำหนดให้คนละไม่เกิน 48,000 บาทต่อปี เพราะตามเกณฑ์ใหม่ได้กำหนดให้เบิกค่าเล่าเรียนตามจริง ดังนั้นจึงไม่ต้องเผื่อเงินค่าครองชีพเพื่อให้เด็กนักเรียนไปจ่ายเป็นค่าเล่าเรียนอีก


 


"กยศ.ได้กำหนดเพดานเงินกู้สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมปลายสามัญ กู้เงินค่าเทอมไม่เกินรายละ 14,000 บาทต่อปี ค่าครองชีพไม่เกิน 12,000 บาทต่อปี, สายอาชีพ กู้เงินค่าเทอมรายละไม่เกิน 21,000 บาทต่อปี ค่าครองชีพไม่เกินรายละ 15,000 บาทต่อปี ส่วนระดับชั้น ปวส. สายพาณิชย์ บริหารธุรกิจ ให้กู้ได้ไม่เกินรายละ 25,000 บาท หากเป็นค่าครองชีพให้รายละไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี หากเป็นสายช่าง กู้ได้ไม่เกิน คนละ 30,000 บาท ค่าครองชีพไม่เกินคนละ 20,000 บาทต่อปี เช่นกัน ส่วนระดับชั้นปริญญาตรี จะให้กู้ได้ตั้งแต่ 60,000-150,000 บาท ค่าครองชีพให้รายละไม่เกิน 24,000 บาท ส่วนเงื่อนไขการชำระเงินคืนยังเป็นไปตามเงื่อนไขเดิมคือคิดดอกเบี้ย 1% ชำระคืนในปีที่ 7 โดยมีระยะเวลาใช้คืนถึง 15 ปี


 


 


หญิงไทยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกปีละกว่า 3,000ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์


กรมประชาสัมพันธ์ -นายแพทย์สมยศ เจริญศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทยปีละเกือบ 50,000 ราย ซึ่งมะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในกลุ่มผู้หญิงมากที่สุด พบมากในช่วงอายุ 40 - 50 ปี โดยเฉลี่ยหญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นปีละ 6,000 คน เสียชีวิตปีละ 3,000 คน โดยสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อไวรัสฮิวแมนแพปพิลโลมาขณะมีเพศสัมพันธ์ ส่วนผู้ชายก็มีส่วนทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงได้เช่นกัน เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศ ผู้ชายที่มีคู่นอนหลายคน และมีประสบการณ์ทางเพศตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข จึงเร่งรณรงค์ป้องกันโดยตั้งเป้าว่า ในปี 2550 จะครอบคลุมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ทั้งนี้ วิธีตรวจมะเร็งปากมดลูกที่ง่ายที่สุด คือ การให้พยาบาลที่ผ่านการอบรมตรวจโดยใช้กรดน้ำส้มสายชูความเข้มข้นร้อยละ 3-5 หากเซลล์ผิดปกติ จะมองเห็นเป็นฝ้าขาวที่ปากมดลูก ให้ความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 70 อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจหามะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง


 


ต่างประเทศ


 


สหรัฐ ระบุ ยังไม่มีแผนที่จะขยายการติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันตนเอง


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - พล.อ.ท. เฮนรี โอเบริง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันตนเองด้วยขีปนาวุธของสหรัฐ เปิดเผยว่า ขณะนี้ สหรัฐยังไม่มีแผนที่จะขยายการติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันตนเองนอกเหนือจากโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสหรัฐประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐได้เริ่มเปิดการเจรจากับโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก เพื่อขอติดตั้งระบบขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธในโปแลนด์และระบบเรดาร์ตรวจจับขีปนาวุธในสาธารณรัฐเช็กแล้ว


 


ด้านดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่า ระบบขีปนาวุธป้องกันตนเองของสหรัฐในประเทศทั้งสองมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ไม่ใช่รัสเซีย ต่อมา นายแดเนียล ฟริด ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฝ่ายกิจการยุโรปและยูเรเซีย ย้ำว่า ระบบขีปนาวุธป้องกันตนเองดังกล่าวไม่ได้พุ่งเป้าไปที่รัสเซีย พร้อมทั้งอธิบายว่า ระบบขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธไม่อาจทัดเทียมกับระบบขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซียทั้งในด้านความเร็วและจำนวนที่รัสเซียมีอยู่หลายร้อยหน่วย อีกทั้งหัวรบนิวเคลียร์ที่รัสเซียมีอีกหลายพันหัวรบ


 


 


ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์ จะเดินทางเยือนรัสเซีย จันทร์หน้า


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค --นายคาเลด เมชาอัล ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มติดอาวุธฮามาสในปาเลสไตน์ จะเดินทางเยือนรัสเซียในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อหารือกับทางการรัสเซีย เกี่ยวกับกระบวนการสันติภาพในตะวันออกกลาง กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย แถลงว่า นายเมชาอัล จะนำคณะผู้นำกลุ่มฮามาสเดินทางเยือนรัสเซียในวันจันทร์หน้า เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลรัสเซีย เกี่ยวกับความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสร้างเสถียรภาพในดินแดนปาเลสไตน์ และตะวันออกกลาง ตลอดจนแนวทางสร้างความสมานฉันท์ในหมู่ชาวปาเลสไตน์ฝ่ายต่าง ๆ


 


แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า การหารือยังครอบคลุมถึงข้อเรียกร้องของผู้แทน 4 ฝ่าย ได้แก่ สหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และรัสเซีย ที่เสนอให้กลุ่มฮามาสให้การรับรองอิสราเอล และยุติการใช้ความรุนแรง เพื่อแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อกลุ่มฮามาสของมหาอำนาจ 4 ฝ่ายดังกล่าว ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่กลุ่มฮามาสชนะการเลือกตั้งทั่วไปในปาเลสไตน์เมื่อต้นปีที่แล้ว รายงานระบุว่า ในบรรดามหาอำนาจ 4 ฝ่ายดังกล่าว มีเพียงรัสเซียเท่านั้นที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับกลุ่มหัวรุนแรงฮามาส


 


 


ทหาร"สหรัฐ"เจอโทษจำคุก100ปีฆ่า-ข่มขืนชาวอิรัก


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -ผู้พิพากษาศาลทหารค่ายฟอร์ต แคมป์เบลล์ ในรัฐเคนทักกี ของสหรัฐตัดสินเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.พ.) ให้สิบเอกพอล คอร์เตส วัย 24 ปีต้องโทษจำคุก 100 ปีฐานข่มขืนเด็กหญิงชาวอิรักวัย 14 ปี และฆ่าครอบครัวของเด็กหญิงดังกล่าว



ส.อ.คอร์เตส รับสารภาพว่าเขาเป็นหนึ่งในทหาร 5 นายที่วางแผนข่มขืนและฆ่าชาวอิรักในเมืองมาห์มูดิยาห์ ของกรุงแบกแดดเมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว โดยการวางแผนเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาดื่มเหล้าและเล่นไพ่ที่ด่านตรวจรถในเมือง



ส.อ.คอร์เตส ถือเป็นทหารนายที่ 2 ที่มีความผิดในคดีนี้ การรับสารภาพของเขาเป็นไปตามข้อตกลงที่ทำกับศาลเพื่อแลกกับได้รับการลดหย่อนโทษ โดยในตอนแรก ผู้พิพากษาได้ตัดสินให้เขาต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีทัณฑ์บน และให้ถอนยศพ้นจากราชการ ก่อนตัดสินลดหย่อนโทษเหลือจำคุก 100 ปี ขณะตามกฎหมายทหารเปิดทางให้ส.อ.คอร์เตส อาจได้รับการปล่อยตัวภายใต้ทัณฑ์บน หลังรับโทษจำคุกครบ 10 ปี



 


คณะมนตรียูเอ็น ลงมติขยายเวลาประจำการในติมอร์ตะวันออก ออกไปอีก 1 ปี


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ขยายเวลาในการประจำการในติมอร์ตะวันออก ออกไปอีก และเสริมกำลังตำรวจนานาชาติ ก่อนการเลือกตั้งครั้งแรกของติมอร์ตะวันออก ในวันที่ 9 เมษายน คณะมนตรีความมั่นคงฯ ลงมติดังกล่าว หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรีโจเซ รามอส ออร์ตา แห่งติมอร์ตะวันออก เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ขยายเวลาในการประจำการในติมอร์ตะวันออก ออกไปอีก 1 ปี โดยให้เหตุผลว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญ จากการที่ติมอร์ตะวันออก ต้องเตรียมจัดการเลือกตั้งครั้งแรกของประเทศ รายงานระบุว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ ลงมติให้ขยายเวลาประจำการจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ปีหน้า และอนุญาตให้เสริมกำลังตำรวจอีก 140 นาย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1,300 นาย โดยเฉพาะในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้ง


 


สถานการณ์ในติมอร์ตะวันออก เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เมื่อเดือนเมษายนและพฤษภาคมปีที่แล้ว เมื่อเกิดการปะทะระหว่างทหารและตำรวจ และลุกลามขยายวงกว้างออกไป กลายเป็นเหตุจลาจล ปล้นสะดมภ์ วางเพลิง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน และประชาชนราว 1 แสน 5 หมื่น 5,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน


 


 


นายกรัฐมนตรีอิตาลียื่นลาออก


เดลินิวส์ - นายกรัฐมนตรีโรมาโน โพรดี แห่งอิตาลี ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งต่อประธานาธิบดีจิออร์จิโอ นาโปลิตาโน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากวุฒิสภาลงมติไม่ผ่านนโยบายต่างประเทศ ทั้งการคงกำลังทหารอิตาลีในอัฟกานิสถานและการขยายฐานทัพสหรัฐในดินแดนมะกะโรนี หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่นายโพรดี สั่งห้ามรัฐมนตรีในรัฐบาลของเขาเข้าร่วมการ เดินขบวนประท้วงขยายฐานทัพสหรัฐในเมืองวิเชนซ่า ทางภาคเหนือของอิตาลี อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีนาโปลิตาโน ในฐานะประมุขของรัฐได้ขอร้องให้นายโพรดีอยู่ในหน้าที่รักษาการต่อไป


 


แม้ประธานาธิบดีจะยอมรับใบลาออก แต่นายโพรดี ยังมีโอกาสที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป เนื่องจากทางเลือกในการตัดสินใจ ทางการเมืองของผู้นำอิตาลีที่มีกำหนดหารือกับที่ปรึกษา มีทั้งการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ หรือให้รัฐสภาลงมติไว้วางใจนายโพรดี ไปจนถึงให้ผู้นำการเมืองพรรคอื่นจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นใหม่ ด้านโฆษกของนายโพรดียืนกรานว่า นายโพรดีจะกลับเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ก็ต่อเมื่อได้รับการยืนยันจากพันธมิตรว่า จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เท่านั้น


 


 


สภาอังกฤษ ลงมติเสียงส่วนใหญ่ ให้รัฐบาลดำเนินมาตรการจำกัดบริเวณผู้ต้องสงสัยคดีก่อการร้าย


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - สภาผู้แทนราษฎรอังกฤษ ลงมติด้วยคะแนน 322 ต่อ 61 เสียง สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินมาตรการจำกัดบริเวณผู้ต้องสงสัยคดีก่อการร้าย และความมั่นคง อยู่แต่ในบ้านพักต่อไปอีก 12 เดือน อย่างไรก็ตาม พรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้านในสภาล่างของอังกฤษ และร่วมลงมติสนับสนุนมาตรการดังกล่าวในครั้งนี้ ประกาศว่า พรรคอนุรักษ์นิยมจะไม่สนับสนุนให้ยืดเวลามาตรการดังกล่าวออกไปอีกในปีหน้า


  


ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษถูกกดดัน ให้ยกเลิกมาตรการคุมขังผู้ต้องสงสัยคดีด้านความมั่นคง โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาคดี หลังจากคณะผู้พิพากษาตัดสินว่า มาตรการดังกล่าวขัดต่อกฎหมายคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


  


ด้านคณะกรรมการอิสระของรัฐบาลอังกฤษที่มีหน้าที่ทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีอังกฤษ เริ่มวางแผนมาตรการใหม่เพื่อใช้แทนมาตรการจำกัดบริเวณผู้ต้องสงสัย รายงานระบุว่า ปัจจุบันอังกฤษมีผู้ต้องสงสัยคดีด้านความมั่นคงที่ต้องถูกจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ภายในบ้านพัก ซึ่งรวมถึงการจำกัดการติดต่อกับญาติมิตร รวม 18 คน ในจำนวนนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 3 คน


 


 


มกุฎราชกุมารญี่ปุ่น ทรงไม่แสดงความคิดเห็นต่อหนังสือชีวประวัติของพระชายา


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - จากหนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าหญิงมาซาโกะแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่น ที่เขียนโดยชาวออสเตรเลีย ซึ่งทางรัฐบาลและสำนักพระราชวังญี่ปุ่น ยังคงทำทุกวีถีทางไม่ให้หนังสือดังกล่าวเข้ามาในประเทศ เนื่องจากมีเนื้อหาโจมตีราชวงศ์ญี่ปุ่น ล่าสุด เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ญี่ปุ่นและพระสวามีของเจ้าหญิงมาซาโกะ ได้พระราชทานสัมภาษณ์เนื่องในวันรอบ 74 พระชนมพรรษาว่า ยังไม่ได้ทรงอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวแต่ก็ได้ทรงทราบเนื้อหาในหนังสือจากเจ้าหน้าที่ในสำนักพระราชวังแล้ว เจ้าชายนารุฮิโตะ ยังตรัสด้วยว่า จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดำเนินการกับหนังสือเล่มนี้ ส่วนพระองค์จะไม่ทรงแสดงความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น


  


สำหรับหนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าหญิงมาซาโกะ ที่รัฐบาลและสำนักพระราชวังญี่ปุ่น ยังคงทำทุกวีถีทางไม่ให้หนังสือดังกล่าวเข้าประเทศนี้มีชื่อว่า เจ้าหญิงมาซาโกะ : นักโทษแห่งบัลลังก์เบญจมาศ เขียนโดย เบ็น ฮิลล์ นักเขียนและนักข่าวชื่อดังชาวออสเตรเลีย ที่โจมตีราชวงศ์ญี่ปุ่นว่ากดดันเจ้าหญิงมาซาโกะ ให้มีประสูติกาลพระโอรส จนทรงพระประชวร ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์ เบ็น ฮิลล์ ได้อ้างว่า ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลและสำนักพระราชวังญี่ปุ่น ได้ไปกระตุ้นยอดจองหนังสือของเขา ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


 


 


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net