16 ธ.ค. 2549 นายพนัส ทัศนียานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง(ร่าง)พระราชบัญญัติส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งชาติที่เป็นกฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้และสัตว์ป่าซึ่งรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้จัดทำขึ้นว่า จำเป็นต้องมีการทบทวนแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวในหลายมาตรา เนื่องจากเน้นที่การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าไม้มากกว่าที่จะสงวนรักษาป่าและสัตว์ป่าไว้

โดยเฉพาะการบัญญัติเรื่องเขตบริการ เขตหวงห้าม และเขตผ่อนปรน ถือเป็นช่องว่างทางกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้มากขึ้น หากทิศทางปรับแก้ยังเป็นเช่นนี้จะยิ่งทำให้เกิดวิกฤติทางสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยเฉพาะมาตรา 40 ที่ระบุว่า ภายในเขตบริการ อธิบดีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอำนาจอนุญาตหรือทำความตกลงผูกพันให้บุคคลได้เข้าไปลงทุนทำการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพื่อดำเนินกิจการท่องเที่ยวและการบริการที่พักแรมให้ได้อุทยานฯละไม่เกิน 10 ไร่

โดยให้พิจารณาเปรียบเทียบผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับและความเสียหายของอุทยานแห่งชาติ เพราะแต่ละคนมีแนวความคิดที่แตกต่างกันอาจทำให้มีการใช่ช่องว่างของกฎหมายแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ที่ถูกกำหนดเป็นเขตบริการ

ทั้งนี้ การแก้ไขทบทวนควรมีการเสนอเพื่อรับรองสิทธิต้นไม้และสัตว์ป่าให้เหมือนกับมนุษย์ด้วย

ด้านนายสุรพล ดวงแข เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การร่างพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติฉบับใหม่ควรได้รับการทบทวนใหม่ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของผลประโยชน์มากกว่าการให้ความคุ้มครองสัตว์ป่า

อีกทั้ง ยังพบมีบางมาตราที่เปิดช่องว่างให้เอกชนเข้าทำประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวและก่อสร้างที่บริการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ถูกกำหนดเป็นเขตบริการ ซึ่งเห็นว่าข้อกฎหมายดังกล่าวขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมายเดิมที่มีความชัดเจนกว่า คือ ห้ามไม่ให้มีการรบกวนแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ป่าและควบคุมสัตว์ป่าที่เป็นผลให้สัตว์ป่าหมดไป เพราะเกิดจากการถูกรบกวน

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์