Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 16 ธ.ค.2549 นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีวิถีหรือไบโอไทย ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ติดตามปัญหาเกี่ยวกับทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยให้สัมภาษณ์ว่า นักวิจัยสหรัฐ นายเดนนิส กอนซาลเวส ซึ่งร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยทำโครงการวิจัยมะละกอดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้ต้านทานโรค ได้ฉวยโอกาสจดสิทธิบัตรไวรัสสายพันธุ์ไทยที่ต้านทานโรคใบด่างจุดวงแหวนแล้ว โดยสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายค้าของสหรัฐฯ USPTO ได้อนุมัติสิทธิบัตรหมายเลข 7,078,586 ให้แก่ นายกอนซาลเวสในฐานะนักประดิษฐ์ และ Cornell Research Foundation, Inc. ซึ่งเป็นหน่วยงานของมหาวิทยาลัยในฐานะเจ้าของสิทธิบัตรแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2549


 


ความพยายามในการจดสิทธิบัตรของนายกอนซาลเวส และมหาวิทยาลัยคอร์แนลได้รับการคัดค้านจากนักวิชาการและองค์กรพัฒนาเอกชนอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปี 2548 โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้นได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะหนึ่งเพื่อติดตามเรื่องนี้ โดยคณะทำงานชุดดังกล่าวมีความเห็นให้คัดค้านการจดสิทธิบัตรดังกล่าว แต่กระทรวงเกษตรฯในขณะนั้นกลับมิได้ดำเนินการใดๆ


 


สิทธิบัตรดังกล่าวครอบคลุม การแยกและจำแนกยีนจากโปรตีนหุ้มไวรัสใบด่างจุดวงแหวนมะละกอสายพันธุ์ในประเทศไทย การใช้ไวรัสดังกล่าวเพื่อสร้างการต้านทานโรคไวรัสในมะละกอ สิทธิบัตรนี้ยังให้สิทธิผูกขาดแก่เจ้าของสิทธิบัตรเมื่อมีการนำไวรัสนี้ไปใช้ ในการพัฒนาพันธุ์พืชอื่นๆทั้งหมด รวมข้อถือสิทธิ์ทั้งหมด 51 รายการ ซึ่งจะส่งผลให้มะละกอดัดแปลงพันธุกรรมที่กระทรวงเกษตรฯทำวิจัยในประเทศไทยทั้งหมดในประเทศไทยกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของนายเดนนิส กอนซาลเวส และมหาวิทยาลัยคอร์แนล กรรมสิทธิ์นี้ยังครอบคลุมไปถึงมะละกอสายพันธุ์ท้องถิ่นอื่นๆที่ผสมข้ามกับมะละกอดัดแปลงพันธุกรรม รวมไปถึงกรรมสิทธิ์ในพันธุ์พืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชอื่นๆทั้งหมดที่นำเอายีนจากไวรัสใบด่างจุดวงแหวนสายพันธุ์ไทยไปใช้ประโยชน์ด้วย


 


เกษตรกรและแม้กระทั่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบด้วยเพราะอาจถูกเรียกเก็บค่าสิทธิบัตรสูงถึง 35 % ของยอดขายจากผลิตภัณฑ์หากพบว่าเกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรที่เขาจดเอาไว้ การที่รัฐบาลสหรัฐฯอนุญาตให้มีการจดสิทธิบัตรดังกล่าวถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางอาหาร ละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย และเป็นการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ระบุให้ทรัพยากรชีวภาพภายใต้ดินแดนของประเทศใดต้องอยู่ภายใต้สิทธิอธิปไตยของประเทศนั้น


 


ไบโอไทยเสนอแนะให้รัฐบาลไทยดำเนินการเรียกร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) และต่อรัฐบาลสหรัฐฯ ให้มีการเพิกถอนสิทธิบัตรดังกล่าวโดยทันที ทั้งนี้โดยให้ตั้งคณะทำงานชุดพิเศษเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน รวมทั้งติดตามสอบสวนสาเหตุว่าเหตุใดจึงไม่สามารถป้องกันมิให้มีการจดสิทธิบัตรดังกล่าวได้ ทั้งๆที่ได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้เอาไว้แล้วในสมัยนายสมศักดิ์ เทพสุทินเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์


 


ผู้อำนวยการไบโอไทยยังชี้ว่า "การปล่อยให้สหรัฐอเมริกาจดสิทธิบัตรไวรัสใบด่างจุดวงแหวนได้โดยไม่มีการดำเนินการคัดค้านใดๆของรัฐบาลไทย จะเป็นแบบอย่างให้บรรษัทข้ามชาติ และนักวิจัยจากต่างประเทศแห่เข้ามาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ สมุนไพร และภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยอย่างขนานใหญ่ รัฐบาลนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถปกป้องทรัพยากรชีวภาพและอธิปไตยของประเทศให้ได้ดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา เพราะในสมัยรัฐบาลที่แล้วนั้น ผู้นำของรัฐบาลไทยได้ยื่นหนังสือช่วยจำต่อประธานาธิบดีของสหรัฐเพื่อคัดค้านการที่สหรัฐดำเนินการวิจัยข้าวหอมมะลิและไทยหวั่นเกรงว่าจะมีการจดสิทธิบัตรจากพันธุ์ข้าวที่พัฒนาจากข้าวหอมมะลิของไทย"


 


อนึ่ง สาเหตุของการจดสิทธิบัตรครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2537 เมื่อกรมวิชาการเกษตรส่งนักวิชาการสองคนของไทยนำมะละกอแขกดำและแขกนวลรวมทั้งไวรัสใบด่างจุดวงแหวนสายพันธุ์ไทยที่รวบรวมจากประเทศไทยไปวิจัยที่สหรัฐอเมริกา ในห้องปฎิบัติการของมหาวิทยาลัยคอร์แนล ภายใต้การอำนวยการของ ดร.เดนนิส กอนซาลเวส ต่อมามะละกอซึ่งผ่านการตัดต่อพันธุกรรมที่ห้องปฏิบัติการดังกล่าวได้ถูกนำกลับมายังประเทศไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2540 และถูกนำไปปลูกทดสอบในระดับไร่นา (Field Trial) เมื่อปี 2542 ข่าวคราวของมะละกอจีเอ็มโอเป็นข่าวสำคัญอีกครั้งในปี 2547 เมื่ออาสาสมัครของกรีนพีซบุกเข้าไปทำลายแปลงทดลองที่ จ.ขอนแก่น หลังจากพบการปนเปื้อนของมะละกอจีเอ็มโอในพื้นทีใกล้เคียงกับสถานีทดลองและพื้นที่อื่นๆ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net