Skip to main content
sharethis

เว็บไซด์คมชัดลึกรายงานว่า ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วานนี้ (24ส.ค.2549) พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าวกรณีที่ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำความเห็นแย้งคดีบุกรุกป่า กะปง จ.พังงา เสนอให้นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด สั่งฟ้องนายวัฒนา อัศวเหม ผู้ต้องหาที่ 16 โดยก่อนหน้านี้นายเสกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายวัฒนา ทั้งที่คณะพนักงานสอบสวนร่วมระหว่างพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 16 คนเป็นจำเลยต่อศาลอาญา


 



พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า กลุ่มงานความเห็นแย้งได้สอบสวนพยานเพิ่มเติม ทำให้ได้หลักฐานยืนยันว่า นายวัฒนามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขอเอกสาร นส.3 ก. ใน อ.กะปง มาตั้งแต่ต้น มีการนำราษฎรจากนอกพื้นที่ อ.กะปง เข้ามาแผ้วถางทำประโยชน์ในที่ดินสาธารณะประโยชน์ รวมทั้งมีการยื่นคำร้องขอตัดไม้ สำหรับการยื่นคำร้องขอให้มีการรางวัดที่ดินเพื่อออก นส.3 ก.ของราษฎร 92 ราย ส่วนหนึ่งมาจากการล่ารายชื่อของบริษัทอินเตอร์ปาล์มออย โดยพบว่าลายมือชื่อบางส่วนไม่ตรงกับเจ้าของลายมือชื่อ ส่วนชาวบ้านที่ลงลายมือชื่อบางคนได้ให้การว่าไม่เคยเห็นเอกสารใบปะหน้า ดีเอสไอจึงยืนยันในความเห็นเดิมของพนักงานสอบสวน คือ คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องนายวัฒนา


 



พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอทำความเห็นแย้งในทุกประเด็นของอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ โดยประเด็นที่ระบุว่าคดีไม่มีพยานบุคคลที่เห็นนายวัฒนา ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าไปใน อ.กะปงในช่วงที่มีการขอเอกสารสิทธิ์ ซึ่งดีเอสไอมีพยานบุคคล 6-8 ปาก ระบุว่าในช่วงเกิดเหตุพบเห็นนายวัฒนาเข้าไปใน อ.รมณีย์ จ.พังงา หลายครั้ง สำหรับประเด็นที่ระบุว่านายวัฒนาไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการออกเอกสาร นส.3 ก. นั้น มีหลักฐานว่า การสำรวจพื้นที่เพื่อออก นส.3 ก. เกิดจากบริษัทอินเตอร์ปาล์ม ซึ่งถูกเทคโอเวอร์โดยนายวัฒนาและใช้บ้านพักของนายวัฒนาเป็นที่ตั้งบริษัท ได้ว่าจ้างคนเข้าไปแผ้วถางที่ดินใน อ.กะปง โดยในประเด็นดังกล่าวนายวัฒนาได้เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทอินเตอร์ปาล์มออย จากการเข้าไปเทคโอเวอร์จริง


 



โฆษกดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า หลังจากบริษัทอินเตอร์ปาล์มเข้าครอบครองที่ดินใน อ.กะปง นายวัฒนาเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งมีระเบียบห้ามรัฐมนตรีเป็นกรรมการบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด นายวัฒนาได้มอบอำนาจให้เพื่อนซึ่งพักอยู่ในบ้านของนายวัฒนารับโอนหุ้นของบริษัทอินเตอร์ปาล์ม ต่อมาเมื่อมีการนำที่ดินใน อ.กะปงไปจำนองไว้กับธนาคาร เจ้าหน้าที่หน้าห้องรมช.มหาดไทยก็เป็นผู้เดินทางไปติดต่อกับธนาคารด้วยตนเอง นอกจากนี้ในการจำนองที่ดินนายวัฒนายังได้ลงนามเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ในฐานะลูกหนี้ร่วม ซึ่งขณะนี้นายวัฒนาก็ถูกธนาคารฟ้องบังคับชำระหนี้ 15,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าพยานหลักฐานซึ่งเชื่อมโยงถึงการรู้เห็นในกระทำความผิดของนายวัฒนา จะมีน้ำหนักเพียงพอทำให้อัยการสูงสุดมีดุลพินิจสั่งฟ้องนายวัฒนา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net