Skip to main content
sharethis

ประชาไท-26 ก.ค.2549    ชาวบ้านลุ่มน้ำจาง จ.ลำปาง ลุกฮือออกมาขวางรถกลุ่มนายทุนลอบขนไม้สักกว่า 200 ท่อนออกจากป่าอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ทั้งที่ชาวบ้านร่วมกันดูแลรักษามานาน อ้างได้ขออนุญาตจากป่าไม้แล้ว ขณะที่สมาชิกสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติ จ.ลำปาง เตรียมยื่นหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรีให้เข้าไปตรวจสอบ


 


กลุ่มชาวบ้าน ต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และเครือข่ายลุ่มน้ำจาง กว่า 300 คน พากันปิดล้อมรถยนต์ 10 ล้อ และรถยนต์ 6 ล้อ ซึ่งกำลังมีการขนไม้สักกว่า 200 ท่อนออกจากหมู่บ้าน เนื่องจากมีการตรวจสอบพบว่า ไม้สักท่อนทั้งหมดเป็นไม้ที่มีการลักลอบตัดมาจากเขตป่าอุทยานแห่งชาติเวียงโกสัย


 


ชาวบ้านสันดอนแก้ว และสมาชิกเครือข่ายลุ่มน้ำจาง(ไม่ขอระบุนาม) คนหนึ่ง ได้เปิดเผยว่า เมื่อชาวบ้านเข้าไปขัดขวาง กลุ่มผู้ที่ขนไม้ ก็ออกมาอ้างว่า ไม้สักที่ตัดและขนออกมานั้น เป็นไม้ที่อยู่ในเขตที่ดิน นส.3 ก.ของนายดี ใจน่าน ในพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่ 1 งานซึ่งอยู่ติดกับเขตป่า และได้มีการสัมปทาน ขออนุญาตจากทางป่าไม้เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบ พบว่า ไม้สักที่ตัดทั้งหมดนั้น ไม่ได้อยู่ในที่ดินผืนดังกล่าว แต่เป็นไม้สักที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ที่อยู่ในเขตป่าอุทยานทั้งสิ้น ชาวบ้านจึงได้กักบริเวณไม่ให้มีการขนไม้สักทั้งหมดออกจากหมู่บ้าน


 


"นี่เป็นการร่วมกันทำลายป่าระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับนายทุนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทางป่าไม้เซ็นอนุญาตไปได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ป่าผืนนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันดูแลรักษากันมาตลอด ซึ่งพวกเรายอมไม่ได้ และเมื่อชาวบ้านไปถามหาผู้รับผิดชอบกับทางนายอำเภอแม่ทะ ก็โยนปัญหาบอกว่าให้ไปถามป่าไม้อำเภอแทน" ตัวแทนชาวบ้านสันดอนแก้ว กล่าว


 


ในขณะที่นายประเสริฐ สุริยวงษา ประธานเครือข่ายลุ่มน้ำจาง และเป็นสมาชิกสภาผู้นำชุมชนแห่งชาติ จ.ลำปาง ก็ออกมากล่าวว่า เดิมที่เรื่องนี้ มีปัญหามาตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.มาแล้ว หลังจากทราบข่าวว่า ได้มีการอ้างว่า ได้มีการจดทะเบียนสวนป่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่าน และหลังจากนั้นก็มีการตัดไม้สักเพื่อเตรียมการขนย้ายออกมา เมื่อตนสอบถามกับทางอำเภอ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ซึ่งต่างก็ออกมาพูดว่า มีการขออนุญาต มีเอกสารถูกต้อง


 


"ซึ่งตนก็บอกไปว่า ผมรู้ว่าเอกสารที่ทางการออกให้นั้นถูกต้อง แต่ไม้สักที่ตัดทั้ง 200 กว่าท่อนนั้นมันไม่ถูกต้อง เนื่องจากชาวบ้านเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นไม้ที่อยู่นอกแปลงที่ดิน นส.3 ก.ทั้งหมด โดยมีหลักฐานคือตอไม้ที่ตัดทั้งหมดนั้นอยู่ในเขตป่า ซึ่งชาวบ้านรับไม่ได้ เพราะทุกคนได้ช่วยกันดูแลรักษากันมานาน โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันทำพิธีปลูกป่า บวชป่า แต่กลับกลายเป็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐกลับมีการพยายามหาวิธีการเอาไม้ออกจากป่าเสียเอง"


 


นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นที่ บ.แม่ลู่ ต.หัวเสือ จนชาวบ้านได้พากันออกมาคัดค้านต่อต้าน สุดท้ายได้มีการเจรจาขอแบ่งเขตพื้นที่ป่าให้ชาวบ้านเป็นผู้ดูแลรักษากันเอง


 


อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ กล่าวในตอนท้ายว่า ขณะนี้ชาวบ้านได้ขอระงับไม่ให้มีการขนไม้สักทั้งหมดออกจากหมู่บ้าน และตนขอรวบรวมข้อมูลหลักฐานและเอกสารทั้งหมดก่อน หลังจากนั้น จะทำบันทึกยื่นหนังสือไปถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อได้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป


 


ทั้งนี้ ชาวบ้าน บ.สันดอนแก้ว ต.สันดอนแก้ว อ.แม่ทะ ได้รวมตัวกันในนาม เครือข่ายลุ่มน้ำจางเพื่อช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผืนป่าสักทอง ซึ่งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่ อ.ลอง อ.วังชิ้น จ.แพร่ และอ.เถิน อ.สมปราบ และอ.แม่ทะ จ.ลำปาง มีสภาพป่าเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทั้งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีเนื้อที่ประมาณ 410 ตารางกิโลเมตร หรือ 256,250 ไร่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net