ประชาไท - 9 พ.ค.2549    มีรายงานข่าวแจ้งว่าเวลาประมาณ 07.00 น. ได้เกิดเหตุการณ์อาคารที่พักอาศัย 4 ชั้น 8 คูหา บริเวณซอยลาดพร้าว 80 หมู่บ้านสินธานี เขตวังทองหลาง ทรุดตัวโดยเอียงไปทางด้านหลังประมาณ 30-40 ซม. คาดว่าการทรุดตัวน่าจะเกิดจากปัญหาฐานราก เช่น พื้นที่ก่อสร้างเป็นแอ่งน้ำเก่า หรืออาจเกิดจากโครงสร้างอาคารใช้วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน

ในเบื้องต้นทางสำนักงานเขตวังทองหลางได้ประกาศให้รอบพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตอันตราย ห้ามไม่ให้เจ้าของอาคารเข้าไปรื้อย้ายทรัพย์สินขนาดใหญ่ออกมาจากอาคารป้องกันการสั่นสะเทือนของอาคารแล้ว พร้อมทั้งประสานกับทางสถานีตำรวจนครบาลท้องที่และเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตดูแลและป้องกันไม่ให้มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในอาคาร พร้อมประกาศเตือนเข้าของอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามให้ระวังหากอาคารดังกล่าวทรุดตัวมากกว่าเดิมอาจเกิดกระจกแตกกระเด็นสร้างความเสียหายแก่ประชาชนบริเวณใกล้เคียง

นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า จากการตั้งกล้องของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย พบอาคารดังกล่าวมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง 0.7 มิลลิเมตรต่อนาที ดังนั้น สิ่งที่ กทม.จะดำเนินการต่อไปคือจะทำการตรวจสอบแบบก่อสร้างอาคารชุดดังกล่าวว่าใครคือผู้เซ็นอนุญาตให้มีการก่อสร้าง และวิศวกรก่อสร้างคือใคร โดยอาคารดังกล่าวมีอายุการใช้งานมาแล้ว 10 ปี

นางจิตรลดา แสงทองสุข อายุ 37 ปี อาชีพทำธุรกิจส่วนตัวประเภทสิ่งพิมพ์ เจ้าของบ้าน เลขที่ 171/52 ซึ่งได้รับความเสียหาย กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเป็นเวลา ประมาณ 9 โมงเช้า ขณะกำลังทำงานอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงดังลั่น ติดต่อกัน 4 ครั้ง คล้ายสิ่งของหรืออาคารขนาดใหญ่หล่นลงมา ด้วยความตกใจจึงบอกลูก และทุกคนในบ้านให้รีบวิ่งออกไปด้านนอก ระหว่างนั้นเห็นพื้นบ้านทรุดตัวลงจากเดิมประมาณ 60 เซนติเมตร และบ้านมีรอยร้าว เมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง จากนั้นจึงได้ช่วยกันขนย้ายข้าวของ และทรัพย์สินมีค่า

ส่วน ได้ประมูลซื้อบ้านดังกล่าวมาจากกรมบังคับคดี ตั้งแต่ปี 2547 ในราคา 2 ล้านกว่าบาท และเพิ่งอยู่อาศัยมาได้ประมาณ 2 ปี โดยก่อนจะซื้อบ้านได้ปรึกษาเพื่อนที่เป็นสถาปนิกและอยู่ในหมู่บ้านสินธานีมาก่อน ซึ่งเพื่อนได้ให้คำแนะนำว่า ในช่วงแรกของการก่อสร้าง บ้านหลายหลังได้ปรับและทรุดตัวมาบ้าง แต่ไม่เป็นอันตราย แต่ตอนนี้สร้างเสร็จมานาน 5 ปีแล้ว จึงไม่น่าจะทรุดตัวลงอีก ทำให้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันได้เคยทรุดตัวลงมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นเขตได้สั่งการให้เจ้าของอาคารทำการรื้อถอน แต่กลับไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด โดยเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของศาล