นายจาตุรนต์กล่าวต่อไปว่า ความยุ่งยากที่จะตามมาหลังวันเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่องค์กรที่เกี่ยวข้องจะต้องดูแลไม่ว่าจะเป็น กกต. ที่จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าจะมีทางออก ส่วนรัฐบาลจะมีองค์ประกอบอย่างไรบ้าง และมีพรรคร่วมรัฐบาลกี่พรรคต้องรอดูนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าจะพิจารณาอย่างไร แล้วจึงจะมาวิพากษ์วิจารณ์กันได้ แต่ทางแก้ไขกรณีที่มีรัฐบาลพรรคเดียวหรือสภาที่มีพรรคเดียวเป็นหลักคือ ทำงานเท่าที่จำเป็นจริงๆ บริหารราชการไม่ให้เสียหาย นอกนั้นคือการดูแลอำนวยความสะดวกในการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งทำโดยสังคมประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

"ผมคิดว่าทางแก้ไขของวิกฤตการณ์หลังวันที่ 2 เม.ย. คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มาก และรัฐบาลทำหน้าที่อย่างจำกัดเท่านั้น เพื่อไม่ให้คนรู้สึกว่ารัฐบาลพรรคเดียว สภาพรรคเดียวกำลังบริหารประเทศ โดยทำอะไรหลายอย่างมากเกินไป โดยเฉพาะต้องส่งเสริมให้มีระบบตรวจสอบขึ้นมาดูแล และบริหารงานด้วยความโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้ และระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลก็ต้องพยายามทำให้สั้นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" นายจาตุรนต์กล่าว

นายจาตุรนต์กล่าวถึงการที่ฝ่ายค้านอ้างมาตรา 7 เพื่อขอนายกรัฐมนตรีพระราชทานว่า เป็นการอ้างข้างๆ คูๆ เกินไป วิธีการที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอเป็นการดำเนินการทางการเมืองที่สุ่มเสี่ยงมากของพรรคประชาธิปัตย์นับตั้งแต่ตั้งพรรคประชาธิปัตย์มาจนถึงปัจจุบัน เพราะยังไม่เคยมีการเสนอยุทธวิธีและทางออกทางการเมืองที่ไม่ปฏิบัติตามระบอบรัฐธรรมนูญและระบบรัฐสภาเลย ดังนั้นท่ามกลางฝุ่นตลบ สิ่งสำคัญสังคมต้องยึดหลักการรักษารัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยไว้  ส่วนการที่พรรคฝ่ายค้านปฏิเสธร่วมรัฐบาลแห่งชาติ ก็เป็นธรรมดาไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการเลือกตั้งมั่นใจได้เพียงใดว่าการเมืองจะมีทางออกและปัญหาต่างๆ จะยุติ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การเมืองจะมีทางออกหรือไม่มีทางออกขึ้นอยู่กับว่าแต่ละฝ่ายจะพยายามหาทางออกด้วยกันอย่างไร แต่จากวันนี้ไปจนถึงหลังเลือกตั้ง ต้องระวังไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นในสังคมให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธี เพราะการเมืองอยู่ในช่วงต้องผ่านการทดสอบที่สำคัญ จะผ่านได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายฝ่ายจะใช้สติและยึดตามรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยเพียงไหน แต่หากละเมิดหรือฉีกรัฐธรรมนูญ ก็จะเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงและอาจเสียหายมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะโลกในยุคปัจจุบันแต่ละประเทศมีความเปราะบางมาก ทั่วโลกกำลังดูว่าประเทศไทยจะรักษาประชาธิปไตยได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องในเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีเป็นประเด็นหลัก นายจาตุรนต์กล่าวว่า จากที่นายกรัฐมนตรีพูดคืออยากให้ผ่านการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.ไปก่อน และหลังจากนั้น ทางออกทางการเมืองจะเป็นอย่างไร หลายฝ่ายต้องช่วยกันคิด ฝ่ายที่ชุมนุมคัดค้านนายกรัฐมนตรีก็คงไม่เลิกง่ายๆ  ความเห็นที่แตกต่างยังคงมีอยู่

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของนายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเสนอให้ฝ่ายผู้ชุมนุมเว้นวรรคการชุมนุมในช่วงเลือกตั้งนั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่า ในทางเทคนิคถ้าคนเหนื่อยมากและมีการหยุดพัก ก็จะเป็นการลดความเครียดของผู้ชุมนุมได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาความรุนแรงในสังคมได้

อย่างไรก็ตาม นายจาตุรนต์แสดงความเห็นด้วยกับความเห็นของนายธีรยุทธ เรื่องที่จะต้องให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย. และการรักษาประชาธิปไตยไว้โดยการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ         

จาก  เว็บไซต์คม ชัด ลึก