Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 18 มี.ค.49      วานนี้ (17 มี.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้นำทีมนักดำน้ำตรวจค้นใต้น้ำเพื่อหาพยานวัตถุเกี่ยวกับคดีการหายตัวของ นายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม หลังจากได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า พบเห็นบุคคลนำวัตถุต้องสงสัยบางอย่างทิ้งในแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดราชบุรี


 


โดยจุดแรกที่ดำน้ำค้นหาคือ ที่ท่าน้ำหน้าศาลเจ้าแม่เบิกไพร แต่ไม่พบหลักฐาน จึงได้ย้ายไปตรวจค้นบริเวณท่าน้ำวัดปลักแรด ขณะที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกดีเอสไอ และ นักโบราณคดีใต้น้ำ ได้นั่งเรือสำรวจแม่น้ำแม่กลอง จากนั้นได้ย้ายมาสำรวจในบริเวณท่าน้ำวันบ้านโป่ง แต่ยังไม่พบหลักฐานเช่นกัน เจ้าหน้าที่คาดในเบื้องต้นว่ากระแสน้ำอาจจะพัดพาไป เนื่องจากคดีได้เกิดมานานกว่า 2 ปี แต่ก็ยังมีความหวัง เพราะแม่น้ำสายนี้มีเกาะแก่ง และ สาหร่ายจำนวนมาก อาจจะทำให้หลักฐานมาติดอยู่ก็ได้


         


ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อานันต์ชัย  ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า การดำน้ำตรวจค้นพยานวัตถุครั้งถือเป็นความพยายามที่จะทำความกระจ่างให้กับคดีนี้ โดยสิ่งดีเอสไอต้องการพิสูจน์ คือเบาะแสจากประชาชน เพราะ ดีเอสไอ มั่นใจว่า มีประชาชนบางส่วนรู้ข้อมูลสำคัญ แต่ยังไม่มั่นใจที่จะเข้าให้ข้อมูล


         


ทั้งนี้ จากหลักฐานจากการสอบสวนบ่งชี้ว่า มีโอกาสสูงที่นายสมชาย น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว โดยศพถูกนำมาเผาในถังน้ำมัน เพื่อทำลายชิ้นส่วนศพใน จ.ราชบุรี ส่วนสาเหตุที่คนร้ายเลือกใช้ถึงน้ำมัน เป็นอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมไม่ให้หลักฐานฟุ้งกระจายได้ดีที่สุด


 


อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้สอบสวนคดีนี้ โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้เกี่ยวข้อง กับการหายตัวไปของนายสมชาย ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ เริ่มทำงานตามประกบ ตัวนายสมชาย มาตั้งแต่เช้าวันที่ 12 มี.ค.2547 จนมาบรรจบจับคลื่นโทรศัพท์ ของนายสมชาย ที่หน้าโรงแรมชาลีน่า ย่านรามคำแหง จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ของนายสมชาย ถูกปิดลง แต่โทรศัพท์ของผู้เกี่ยวข้องยังทำงานอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 04.00 น. ของวันที่ 13 มี.ค.2547 โดยเกาะกลุ่มกันมา จากกรุงเทพฯ มาถึง จ.ราชบุรี


         


พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า หลักฐานการใช้โทรศัพท์ ระบุถึงการติดต่อสื่อสารไปยังบุคคลอื่น ใน จ.ราชบุรี ซึ่งรายงานระบุว่า บุคคลดังกล่าวเคยครอบครองถังน้ำมันหลายถัง หลังเกิดเหตุถังน้ำมันได้สูญหายไปทั้งหมด และหากพยานบุคคลที่ดีเอสไอ ประสานไว้ตั้งแต่ต้น ยอมให้ความร่วมมือ ให้การที่เป็นประโยชน์ จะ สามารถออกหมายจับคดีฆ่าคนตายได้


 


ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ดำลงไปพบถังน้ำมัน ซึ่งภายในบรรจุเศษกระดูกอยู่จำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าไม่ใช่กระดูกมนุษย์ แต่จะนำไปตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง


 


นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม ได้เดินทางมายังบริเวณที่ตรวจสอบพบฝาถังน้ำมัน หน้าวัดบ้านโป่ง โดยแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้อธิบายให้รับทราบว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบคราบไขมัน และคราบเลือดบนฝาถังน้ำมัน แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นเลือดมนุษย์หรือไม่ แต่ในวันอังคารที่ 21 มี.ค.นี้ จะนำนักโบราณคดีใต้น้ำ และนักดำน้ำ มาดำน้ำตรวจค้นแบบปูพรมจากสะพานข้ามแต่น้ำแม่กลอง หน้าวัดบ้านโป่ง ไปจนถึง หน้าศาลเจ้าบ้านโป่ง


         


นางอังคณา กล่าวว่า ตนยังเชื่อมั่นอยู่ตลอดเวลาว่า จะต้องมีหลักฐานหลงเหลืออยู่ หากพระผู้เป็นเจ้าอยากให้เห็นหลักฐานทั้งหมด หลักฐานก็จะเปิดเผยออกมา และถ้าเราโชคดีคงเปรียบเทียบดีเอ็นเอได้ อีกทั้งหลักฐานการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยก็บ่งชี้ว่า จ.ราชบุรี น่าจะเป็นจุดสุดท้ายที่นายสมชายถูกนำตัวมา ถ้ามีการสอบสวนอย่างจริงจังเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา คงได้อะไรที่ชัดเจนมากกว่านี้ ต้องขอขอบคุณดีเอสไอ และ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ซึ่งเป็นคนอื่นแต่ไม่เคยหมดกำลังใจในการค้นหา


 


อนึ่ง นายสมชาย นีละไพจิตร ได้ถูกอุ้มหายไปตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.47  โดยคดีนี้ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้รับโอนเป็นคดีพิเศษ ให้มาอยู่ความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 19 ก.ค.48 เนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่สังคมให้ความสนใจและเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และศาลชั้นต้นมีพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้สั่งลงโทษ พ.ต.ต.เงิน ทองสุก จำเลยที่ 1 ว่ากระทำผิด ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรค 1 และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการใด หรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 วรรค 2 ให้ลงโทษในบทหนักสุด ฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวเป็นเวลา 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-5 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐาน ในการกระทำผิดตามฟ้อง


 


....................................


ข้อมูลจากจาก เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการออนไลน์


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net