Skip to main content
sharethis

บทวิเคราะห์ชิ้นนี้เขียนขึ้นโดยกองบรรณาธิการนิตยสาร "อาทิตย์" นิตยสารวิเคราะห์ข่าวการเมืองอันโด่งดัง ที่มีชัชรินทร์ ไชยวัฒน์ เป็นบรรณาธิการ เมื่อ 11 ปีก่อน เป็นเรื่องจากปกที่วิเคราะห์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในจังหวะแรกที่เขาก้าวเท้าเข้ามาสู่วงการเมือง ในวันนั้นไม่มีใครคิดว่า เขาจะใช้เวลาไต่บันไดไปเป็นนายกฯ ได้ในช่วงเวลาเพียง 6 ปีต่อมา


 


ความน่าใจของบทวิเคราะห์ชิ้นนี้อยู่ที่ มันได้ตอบและยืนยันความจริงวันนี้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น ไม่ว่าจะเป็นการซุกหุ้น สไตล์การบริหาร การเล่นกับรัฐธรรมนูญ


 


เรื่องราวเหล่านี้หลายคนอาจจะลืมเลือนไปแล้ว "ประชาไท" จึงอยากพาผู้อ่านย้อนอดีตไปรู้จักกับ ทักษิณ ชินวัตร ผ่านบทความชิ้นนี้ แต่ด้วยความยาว จึงได้แบ่งการนำเสนอออกเป็นตอนๆ ทั้งหมด 4 ตอน 1.สายสัมพันธ์กับนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะถึงพรรคพลังธรรม 2.การตีราคาทักษิณตามสายตาของพลตรีจำลอง 3. พิสูจน์แล้ว...ว่า "แรด" ยังวิ่งหนี และ ตอนที่ 4.เส้นทางการเมืองทักษิณ "เทวดาห้าห่วง" เป็นตอนจบ โปรดติดตาม


 


คิดเสียว่า นี่คือการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ราวกับฟังม็อบพันธมิตรฯ ไฮด์ปาร์ค หน้าเวที


 


 


 


 


 


0000000000


 


 


เส้นทางการเมืองของทักษิณ ชินวัตร


จากนิตยสาร "อาทิตย์" ฉบับที่ 919 วันที่ 20 -26 มกราคม 2538


 


000


 


ตอนที่ 4 (จบ)


เส้นทางการเมืองทักษิณ "เทวดาห้าห่วง"


 


การที่พลเอกสุจินดา คราประยูร ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเพื่อเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น...ก็คือการกระทำตามหลักกฎหมายทั่วไปว่าด้วย คอนฟลิก ออฟ อินเตอร์เรสต์ อย่างที่บวรศักดิ์ อุวรรณโณว่าไว้ ถ้าหากทักษิณต้องการเดินสู่เส้นทางนี้ เขาก็คงจะต้องเสียสถานะที่เคยทำให้เขามีอำนาจบัญชาการไม่ผิดอะไรกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดในบริษัทธุรกิจที่ทำกำไรให้เขามาถึง 60,000 ล้านบาท ภายใน 4 ปี...ไม่มีอะไรต่างกันเลย


 


การยืนยันไม่ "ปรับตัว" ให้เข้ากับกฎหมาย ก็ไม่ต่างอะไรจากความพยายามเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีพร้อมๆกับขอคุมกองทัพบกต่อไป แต่ดูเหมือนว่า...เส้นทางการเมืองที่ทำให้ทักษิณเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น...มันยังแยกไม่ได้จาก "อำนาจบัญชาการ" ที่เขามีอยู่ในบริษัทชินวัตรในระยะเวลาสั้นๆ ที่เขาเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศ ทักษิณที่ยังมีอำนาจอยู่ในบริษัทที่มีชื่อเดียวกับนามสกุลของเขา บริษัทที่มีภรรยาผู้นอนเคียงข้างเขาทุกคืนเป็นประธาน ยากเหลือเกินที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะติดเครื่องดักฟังในห้องนอนเพื่อการฟังการพูดจาของเขากับภรรยาได้ทุกประโยค ในระยะสั้นๆ เหล่านี้เขาประสบความสำเร็จในการเร่งให้กระทรวงคมนาคมที่ควบคุมโดย วิชิต สุรพงษ์ชัย อนุมัติแผนการให้ความช่วยเหลือประเทศพม่าในการวางข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมพื้นฐานไว้ล่วงหน้า อันจะสามารถรองรับกับบริษัทที่ที่จะเข้าไปขอสัมปทานธุรกิจสื่อสารในพม่าต่อไปไม่ว่า ล็อกซเล่ย์ หรือชินวัตรก็ตาม ทักษิณพยายามวางตัวข้าราชการการต่างประเทศให้เป็นผู้แทนไทยในองค์กรการค้าโลกที่จะกลายเป็น " แหล่งข้อมูลสำคัญ" ในวงการการค้าโลก และก่อนหน้านั้นเขาประสบความสำเร็จไม่น้อยในการสร้างความสัมพันธ์ทางจิตใจกับบรรดาข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ...มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะขนาดเขายังไม่เป็นรัฐมนตรีคมนาคมเลยสักครั้ง เขายังสามารถซื้อใจคนอย่างบุญคลี ปลั่งศิริ ข้าราชการอนาคตไกลขององค์การโทรศัพท์ฯหรือไพบูลย์ ลิมปะพยอม อดีตผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ฯ ให้มารับใช้เขาอยู่ในเครือข่ายชินวัตรในทุกวันนี้


 


ถึงแม้ว่าทักษิณจะทำไม่รู้ไม่ชี้ในการเดินทางไปประชุมเอเปคในฐานะรัฐมนตรีการต่างประเทศที่อินโดนีเซีย แต่บริษัทไอบีซีอินโดนีเซียที่กำลังเร่งหาเครดิตและความมั่นใจในการบุกตลาดอินโดนีเซียคงชื่นใจไม่น้อย ที่เห็นอดีตเจ้านายและผู้ที่ยังถือหุ้นใหญ่ของบริษัทตัวเองยืนจับมืออยู่กับซูฮาร์โต ทักษิณเคยได้รับเหรียญสดุดีจากลีกวนยูอดีตประธานาธิบดีสิงคโปร์ในช่วงที่เขาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทชินวัตรของเขาในขณะนี้ก็เติบโตขึ้นด้วยการลงทุนจากบริษัทสิงคโปร์ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง รองจากเขาและภรรยา ระหว่างที่หุ้นสิงคโปร์กำลังขึ้นอยู่ในบริษัทชินวัตร ทักษิณก็เยือนสิงคโปร์ด้วยเครื่องบินชาแลนเจอร์ที่เขาเหมาโดยภรรยาของเขาเอง หรือโดยการบริจาคของประทานบริษัทชินวัตร ชินวัตรประสบความสำเร็จด้วยดีในการได้รับความไว้วางใจให้วางโครงการสื่อสารพื้นฐานในเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจด้านใต้ ที่มีสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียเตรียมพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน แต่อะไรต่อมิอะไรไม่ได้ดีไปทั้งหมด...ทักษิณไม่สามารถกู้สถานภาพทางธุรกิจไอบีซีในกัมพูชาให้ดีขึ้นกว่าก่อนเป็นรัฐมนตรี แม้ว่าเขาเคยพยายามใช้ความเป็นรัฐมนตรีการต่างประเทศเข้าพบปะเจ้านโรดมสีหนุที่กรุงปักกิ่ง พยายามขอเข้าพบปะเจ้านโรดมรณฤทธิ์ที่พนมเปญ...แต่ผลออกมาคือ เจ้านโรดมรณฤทธิ์ เปิดทางให้บริษัทมาเลเซียเข้าไปรุกธุรกิจไอบีซีที่กัมพูชาเต็มเครือข่าย ประเทศไทยแสดงท่าทีตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อกัมพูชามากขึ้นเรื่อยๆ ปิดช่องอานม้าจนเดี๋ยวนี้ ทักษิณนำทูตานุทูตไปเยี่ยมชายแดนเพื่อยืนยันกรณีไทยไม่ได้สนับสนุนเขมรแดง ซึ่งก่อนหน้าก็เคยมีการนำทูตานุทูตไปเยือนมาหลายครั้งแล้วแบบเป็น "พิธีการ" แต่ยังไม่เคยลบข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ได้หมดสิ้น...ฯลฯ


 


วันที่ 10 มกราคม ที่นายกรัฐมนตรีอาศัยมติคณะรัฐมนตรีให้ตีความรัฐธรรมนูญเรื่องคุณสมบัติต่อตุลาการรัฐธรรมนูญนั้น เป็นวันเดียวกับที่คณะรัฐมนตรีตัดสินใจเรื่องสปอร์ตคอมเพล็กซ์...หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพาดหัวคล้ายกันว่า...นี่คือ "การแบ่งเค้ก" และนั่นก็คงจะเป็นคำตอบแล้วว่า บรรยากาศการเมืองในวันนี้และในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ? อนาคตทางการเมืองของทักษิณก็จะต้องสัมพันธ์ไปกับบรรยากาศทางการเมืองเช่นนี้แหล่ะ เค้กยังมีอีกหลายก้อน แต่ละก้อนล้วนแล้วแต่เป็นก้อนใหญ่ๆ...ทักษิณเองก็ไม่ต่างอะไรกับธนินทร์ เจียรวนนท์ แห่งซีพีที่มีสัมปทานโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมายกับรัฐ ไม่ต่างอะไรกับอนันต์ กาญจนพาสน์ ที่กำลังมีสัมปทานสปอร์ตคอมเพล็กซ์ และอาจจะมีสัมปทานรถไฟฟ้ากับรัฐอีกต่อไป คนเหล่านี้จะสามารถ "เดินตามรอย" ทักษิณได้ทันที หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพียง 3 ใน 10ราย ออกเสียงต่างกัน ไม่มีใครที่อยากกินเค้กก้อนใหญ่แล้วไม่พยายามเข้ามามีส่วนตัดด้วยตัวเอง ถึงวันนั้น...รายจ่ายที่คิดกันว่า...มากเหลือหลายสำหรับการเป็นรัฐมนตรีของทักษิณก็อาจเป็นรายจ่ายที่น้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มา ไม่ว่าศักดิ์ศรีของนักการเมืองที่หลายคนยอมทอดตัวเป็นศพให้ทักษิณเดิน ศักดิ์ศรีเหล่านั้นแทบจะกลายเป็น "เศษเงิน" เลยทีเดียว การสร้างสมบารมีทางการเมืองอย่างยาวนาน 10 ปีของพลตรีจำลอง ศรีเมือง นั้น "ถูกมาก" เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้มาในขณะนี้ของทักษิณ ชินวัตร เกียรติประวัติของชวน หลีกภัย 25 ปียังมีราคาไม่มากนัก ถึงได้ยอมแลกกับการเสนอชื่อทักษิณเป็นรัฐมนตรีและยอมตีความรัฐธรรมนูญให้กับทักษิณต่อไป...


 


ดูเหมือนว่า "เงิน" จะมีค่ามากกว่าอะไรทั้งสิ้นแม้กระทั่ง "วิญญาณ" ถึงขณะนี้ทักษิณได้เริ่มแสดงท่าทีออกมาครั้งใหม่ว่า เขากำลังตัดสินใจบางอย่างในเร็ววัน ก็คงจะต้องติดตามต่อไปว่า ถึงเวลานั้นเขาอาจจะลาออก พร้อมกับบรรดานักการเมืองที่ยอมศิโรราบให้กับเขาทั้งหลายออกโรงมาแซ่ซ้องสรรเสริญอีกหรือเปล่า แต่ถึงขั้นนี้ วิลาส จันทรพิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคพลังธรรม แห่งกลุ่ม 23 ไม่คิดเช่นนั้น เขาระเบิดอารมณ์ออกมาว่า "ทำอย่างนี้ถือว่าหน้าด้านเกินไปแล้ว"


 


0000000000

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net