Skip to main content
sharethis


 

จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน


3 มีนาคม 2549


กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน


 


            โดยที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่ในขณะนี้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศตกอยู่ในภาวะที่อาจจะนำไปสู่วิกฤติการณ์อย่างร้ายแรง เนื่องจากได้มีการชุมนุมเรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และแม้ว่าจะได้มีการประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่การชุมนุมก็คงยังดำเนินอยู่ต่อไป เนื่องจากผู้ชุมนุมต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและยุติบทบาทในทางการเมือง ทางด้านฝ่ายการเมืองก็ปรากฏว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ประกาศไม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากไม่บรรลุข้อตกลงกับฝ่ายรัฐบาลในการลงนามในสัตยาบันเพื่อให้มีการปฏิรูปการเมืองภายหลังการเลือกตั้งและไม่เห็นชอบกับการกำหนดวันเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว สภาพการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลดำเนินไปอย่างรุนแรงมากขึ้น และดูเหมือนว่าความขัดแย้งดังกล่าวนี้จะขยายวงกว้างมากขึ้นและไม่มีทางออกใดๆ เลย เนื่องจากแต่ละฝ่ายต่างก็ตั้งเงื่อนไขที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่อาจยอมรับที่จะปฏิบัติได้ สภาวะการณ์เช่นนี้กำลังทำให้ประเทศชาติไปสู่ความชะงักงันไร้หนทางออก ทั้งในทางการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ และอาจส่งผลกระทบต่อระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญที่ดำรงอยู่ได้


            ในฐานะผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาและโดยพันธกิจที่จะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบนำเสนอเหตุและผลที่ผ่านการคิดและไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้วต่อสังคมไทยเพื่อช่วยหาทางออกจากวิกฤติร้ายแรงของสังคม เพื่อระงับความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จึงขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถอยหลังคนละก้าวและลดการตั้งเงื่อนไขของตนเองลง โดยขอให้ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อยุติความขัดแย้งโดยยึดมั่นในแนวทางสันติและยึดถือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยโดยพิจารณาดำเนินการดังนี้


            ๑.ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอพึ่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยกราบบังคมทูลขอยุติการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีในระหว่างการจัดการเลือกตั้งและขอพระราชทานรักษาการนายกรัฐมนตรีจากผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองและมีความเป็นกลางทางการเมืองเป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป เพื่อให้รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ได้ทรงพระราชทานนี้ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินชั่วคราวจนกว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะแล้วเสร็จ


๒.ขอให้รักษาการนายกรัฐมนตรีที่ได้ทรงพระราชทาน กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพระราชวินิจฉัยในการตราพระราชกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร โดยให้กำหนดวันเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่ ทั้งนี้โดยให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณากำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งใหม่ให้เหมาะสมและเป็นธรรมแก่พรรคการเมืองทุกพรรค


๓.เมื่อได้มีการดำเนินการดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ขอเรียกร้องให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งสามพรรค (พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน) ยอมรับและเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง โดยส่งบุคคลลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ดุลยพินิจแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองโดยผ่านกระบวนการการเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อรักษาระบบการปกครองในระบอบนี้ไว้


๔.ขอให้รัฐบาลรักษาการภายใต้การนำของรักษาการนายกรัฐมนตรีที่ได้ทรงพระราชทานประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้งในการจัดให้มีองค์กรตรวจสอบและติดตามการเลือกตั้งจากภาคเอกชนและประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือคณะกรรมการการเลือกตั้งในการดูแลการเลือกตั้ง ทั้งนี้โดยอำนาจตามกฎหมายในการจัดการการเลือกตั้งยังคงเป็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่การจัดให้มีองค์กรตรวจสอบและติดตามการเลือกตั้งดังกล่าวนี้ จะช่วยทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคตลอดจนประชาชนทั่วไปมั่นใจในความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้งอันเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนในระยะยาวได้


๕.ขอให้พรรคการเมืองทุกพรรคประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าจะร่วมมือกันจัดให้มีการปฏิรูปการเมืองโดยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญและดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยคณะบุคคลที่เป็นกลางทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขวิกฤตทางการเมืองของประเทศในระยะยาวต่อไป


ข้าพเจ้ามีความหวังว่าข้อเสนอดังนี้ที่ได้กราบเรียนมาทั้งหมด น่าจะเป็นข้อเสนอที่ทุกฝ่ายยอมรับได้และจะนำไปสู่ทางออกของปัญหาที่ดำรงอยู่ จะช่วยป้องกันมิให้สังคมไทยต้องเผชิญหน้ากันต่อไปอย่างรุนแรงและรังแต่จะนำไปสู่ความสูญเสียและความเศร้าสลดใจของคนไทยทั้งชาติดังที่ทุกฝ่ายเคยมีบทเรียนกันมาแล้วในอดีต และเมื่อฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้เสียสละและยอมให้เป็นไปตามกระบวนการนี้แล้ว ก็ชอบที่กลุ่มผู้ที่ชุมนุมคัดค้านขับไล่นายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้จะได้ยุติการชุมนุมและแสดงออกซึ่งทัศนะทางการเมืองของตนโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง อันเป็นหัวใจของการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันเป็นจุดมุ่งหมายสุดท้ายของทุกๆ ฝ่ายอยู่ในขณะนี้


จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา


                                    ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง


                                    (ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์)


                                    อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net