รศ.นพ.
นพ.จิรุตม์ กล่าวต่อว่า แต่ในความสำเร็จก็ยังพบปัญหามากมาย เนื่องจากการจัดสรรทรัพยากรของรัฐบาล ทั้งงบประมาณ อุปกรณ์ไม่สมดุลกัน เงินงบประมาณที่โครงการ 30 บาทมีไม่เพียงพอต่อภาระที่ต้องรับผิดชอบ จากการคำนวณเงินงบประมาณประเมินความต้องการ พบว่าจะต้องใช้เงิน 2,000 บาท/คน/ปี จึงจะพอ ขณะที่ปัจจุบันได้รับจัดสรรงบอยู่ที่ 1,659 บาท/คน/ปี เท่านั้น อีกทั้งยังพบปัญหาในเรื่องของการจัดการระบบบัญชีในโรงพยาบาล ที่มีปัญหาด้านความถูกต้องของข้อมูล เช่น มีหนี้สินบางรายการที่ถูกซ่อนไว้ ไม่ได้แสดงออกมา ทำให้ดูเหมือนว่าโรงพยาบาลไม่ติดลบ
"จากการที่โรงพยาบาลต้องรับภาระทางการเงินมาก ส่งผลต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลที่เป็นปัญหาร้องเรียนมา ทั้งนี้ เนื่องจากระบบนี้มุ่งการควบคุมค่าใช้จ่ายเคร่งครัด แต่ไม่มีการควบคุมขอบเขตสิทธิประโยชน์ให้สมดุลกับเงินที่มีอยู่ แต่เป็นการให้ตามคำสัญญาของนักการเมือง หลังเกิดโครงการ 30 บาทภาระงานของสถานพยาบาล แพทย์ มีมากขึ้น และประชาชนมีความคาดหวังในการรักษาพยาบาล ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทาการแพทย์ที่เป็นปัญหาเรื้อรังก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้"
นพ.จิรุตม์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่การแก้ไขปัญหาก็ทำแบบเฉพาะหน้า เช่น กล่าวโทษแพทย์ แต่ไม่ได้วิเคราะห์สาเหตุเบื้องหลังของปัญหาว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ส่งผลให้ปัญหานี้ยังอยู่ต่อไป และไทยสูญเสียแพทย์ในระบบสาธารณะ จึงควรแก้ไขปัญหานี้ทั้งระบบ รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางสาธารณสุขด้วย
ดร.
"ทางเลือกที่ 4 คือ ลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของรัฐบาล ซึ่งเงิน 20,000-30,000 ล้านบาทที่ต้องการเพิ่มนั้น คิดเป็นร้อยละ 1-2 ของงบประมาณประจำปี ซึ่งปกติรัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10,000 ล้านบาทอยู่แล้ว ฉะนั้น รัฐบาลน่าจะจัดงบและค่าใช้จ่ายด้านอื่นลงได้ ทางเลือกอื่นๆคือ รัฐบาลสามารถหารายได้เพิ่มขึ้นจากการขึ้นภาษี โดยเฉพาะภาษีที่คนหนียาก เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิม 7% เป็น 8% ภาษีน้ำมัน แต่จะทำให้น้ำมันราคาแพงขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องหาทางเลือกที่ดีที่สุดมาดำเนินการ" ดร.วิโรจน์ กล่าวในที่สุด
.
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 26 มกราคม 2549
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)