ประชาไท—12 ม.ค. 2549 และแล้วสมาคมปัญญาชนมุสลิมอินโดนีเซีย ( the Indonesian Muslim Intellectual Association -ICMI) ก็ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นว่า ผู้หญิงก็สามารถเป็นผู้นำอิสลามได้ และอย่างน้อยก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของความเสมอภาคกันของอิสลาม เมื่อผลจากการประชุมใหญ่ของสมาคมฯที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ได้คัดเลือก มาร์วาห์  ดาอุด อิบราฮิม  หญิงเดียวท่ามกลางตัวเลือกที่เป็นชายอีกหลายคนให้เป็นประธานของสมาคมฯ

"นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ที่องค์กรอิสลามที่มีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ได้ลงคะแนนให้ผู้หญิงเข้ามาเป็นผู้นำ ซึ่งนี่ก็แสดงว่าไม่มีปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาคกันในศาสนาอิสลาม" มาร์วาห์ ดาอุด อิบราฮิม หล่าวในการให้สุมภาษณ์กับ จาการ์ต้า โพสต์ ภายหลังได้รับการเลือกตั้ง

ในการประชุมใหญ่ของสมาคมฯที่เมือง มาคัสซาร์  จังหวัดสุลาเวสี ใต้ มาร์คาร์ ซึ่งเป็นสส.จากพรรคโกลคาร์ ได้เอาชนะผู้สมัครชายหลายๆคน โดยกะบวนการสรรหานั้น เริ่มจากมีเสนอชื่อผู้เข้าชิง 20 คน และให้ผู้เข้าร่วมประชุมคัดเลือก 10 คน จากจำนวนผู้สมัครทั้งหมด ต่อมามีผู้ถูกเสนอชื่อถอนตัวไปอีก 4 คน เหลือ 6 คน ซึ่งที่มีทั้ง ฮัตตา ราดจาสา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่ง  ประธานศาลรัฐธรรมนูญ จิมลี อชิดดิกี  และอธิการบดีมหาวิทยาลัยอีกจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมลงคะแนนนั้น 90% เป็นชาย

มาร์วาห์ เชื่อว่าการที่เธอได้รับคัดเลือกในครั้งนี้คงเป็นเพราะมีคนรู้จักเธอเยอะ เพราะเธออยู่กับที่นี้มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งและเธอเดินทางไปเยี่ยมสมาชิกสมาคมอยู่เสมอ รวมทั้งโครงการหลายโครงการเธอก็เป็นคนริเริ่มขึ้น เช่นโครงการทุนการศึกษาขอ ง ICMI

มาร์วาร์ เกิดที่เมือง สบเป็ง สุลาเวสีใต้ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 1956  อาจเรียกได้ว่าเป็นหญิงเหล็กจากภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย หลังจากที่ได้รับเลือกตั้งเธอได้เดินทางไปเยี่ยมสาขาต่างๆของ ICMI ทั่วประเทศ

"จุดเด่นของฉันก็คือการมีเครือข่ายที่กว้างขวาง ฉันรู้จักสมาชิกของ ICMI มากกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ" มาร์วาห์ คุณแม่ลูกสามกล่าว

ถึงแม้ว่าเธอจะเคยล้มเหลวมาแล้วในการลงแข่งเพื่อเป็นหัวหน้าพรรคโกลคาร์ในการชิงกับรองประธานาธิบดี ยูซุป คาลลา ซึ่งได้รับตำแหน่งไป แต่เธอก็ยังคงยืนหยัด

"ฉันถูกบอกให้ถอนตัวจากการเข้าชิงตำแหน่ง แต่ฉันปฎิเสธ เขาบอกว่าเพื่อความมั่นคงในอาชีพนักการเมืองของฉัน ฉันควรจะลาออกเสีย" มาร์วาร์กล่าวซึ่งขณะนั้นเธอเป็นรองหัวหน้าพรรค

ในคณะกรรมการบริหารของพรรคในชุดปัจจุบัน มาร์วาห์จึงไม่มีตำแหน่งใดๆ แต่ก็มีตำแหน่งเป็น ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร

มาร์วาห์ได้รับเสนอชื่อให้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการประชุมใหญ่ของพรรคเมื่อครั้งที่แล้ว แต่เธอก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากสมาชิกที่ยังคงเป็นหัวอนุรักษ์ได้เลือก อดีตผู้บัญชาการทหารสุงสุดอย่าง วิรันโต ให้มาเป็นตัวแทนของพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี

มาร์วาร์ ยังได้เข้าลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับอับดุลเราะห์มาน วาฮิด ในรอบแรกของเสนอชื่อผู้สมัครประธานาธิบดีในรอบแรกในครั้งที่ผ่านมาด้วย

มาร์วาห์ เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยฮัสซันนูดิน ที่ มาคาสซาร์  เธอสำเร็จการศึกษาระดับดุษฏีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยอเมริกัน ที่วิชิงตัน ดีซี. สหรัฐอเมริกา  เธอเป็นที่รู้จักกันที่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางการการสื่อสาร ต่อมาได้ย้ายเข้ามาทำงานเป็นนักวิจัยที่  Agency for the Assessment and Application of Technology (BPPT) ซึ่งนำโดย บี.เจ ฮาบีบี ผู้ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากซูฮาร์โต ในปี 1998

ในฐานะของนักการเมือง มาร์วาห์ได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีจุดยืนที่มั่นคงซึ่งบ่อยครั้งมักคงเห็นไม่ตรงกับหัวหน้าพรรคซึ่งขณะนั้นคือ อัคบาร์ ตันจง

มาร์วาห์ได้คงความเข้มแข็งของของจิตใจ และความมุ่งมั่น รวมทั้งการสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ICMI ซึ่งเป็นองค์กรที่ทรงอิทธิพลมากอีกองค์กรหนึ่งในสมัยของฮาร์บิบี  

ICMI เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นมากว่า 15 ปีแล้ว เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาประชาชนและในขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ในกับอิสลาม ปัจจุบันนี้มีสาขาอยู่ 30 แห่งในประเทศและอีก 6 แห่งในต่างประเทศ โดยมีสามชิกกว่า 100,000 คน และเป็นองค์กรที่ทรงอิทธิพลอีกองค์หนึ่งในเรื่องของทางการเมืองแม้ว่าองค์กรจะไม่ได้ทำงานการเมืองโดยตรง

-------------------------------------------

เรียบเรียบและเก็บความ

http://www.thejakartapost.com/detailfeatures.asp?fileid=20060108.C01