วันพุธที่ 4 มกราคม 2006 16:30น.
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ภาพจาก www.tjanews.org
นพ.
0 0 0
หลังจากนี้สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นอย่างไร ผมเองพิจารณาดังนี้
1.ผมว่า ที่ผ่านมาเกิดการปริแยกระหว่างศาสนิกขึ้น ซึ่งต้องระวังว่าอย่าเอาความสำเร็จในช่วงนี้มาเหมารวมว่าเป็นความสำเร็จทั้งหมดแล้ว
2.ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐมีการปรับด้านยุทธวิธีซึ่งก็ส่งผลระดับหนึ่งแต่ผมกังวลใจว่า จะทำให้ทุกคนชะล่าใจตกหลุมพรางเพราะคิดว่า เราเอาชนะสถานการณ์ได้แล้ว
ระวังชนะการรบแต่ไม่ชนะศึก ชนะยุทธวิธีแต่ไม่ชนะยุทธศาสตร์
หลงว่าการใช้วิธีการรุนแรงทำให้สำเร็จ เลยลืมมิติทางการเมืองและการพัฒนา
2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลทำงานมวลชนซึ่งได้ผลไม่น้อยแต่มันก็เหมือนหม้อข้าวเดือด ถ้าเรากดฝาหม้อไว้มันก็ไม่ขยับแต่ถ้าเมื่อยหรือว่าสะสมกำลังกันได้ก็จะเกิดขึ้นอีก
ประการที่ 3 ความขัดแย้งกับมาเลเชียที่มีมากขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ขบวนการสายพันธุ์ใหม่ ที่ปรับตัวและเรียนรู้ได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี แทนที่จะซ่อมซ่อนสะสมกำลังเขาก็เปลี่ยนเป็นจรยุทธ์ในเมือง
เขาจัดการกับข้าราชการชั่ว ใช้การโฆษณาจากสื่อมวลชน ใช้ความโหดร้ายน่าสะพรึงกลัวให้ประชาชนร่วมมือกับฝ่ายผู้ก่อการ หรือมิฉะนั้นก็ให้ปฏิเสธความร่วมมือกับรัฐ เป็นการสร้างแนวร่วมมุมกลับ ก่อเหตุแล้วโยนบาปให้ฝ่ายรัฐ เพื่อสร้างแนวร่วม
4.แนวโน้มอีกอย่างหนึ่งคือ ประชาชนเป็นกลางซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ แต่เป็นพลังที่อ่อนแอยืนดูอยู่เฉยๆ คนถูกฆ่า โรงเรียนถูกเผาก็เฉยๆ
การให้คนตรงกลางแสดงจุดยืนออกมาต้องใช้พลังทางสังคมที่ใหญ่พอ เราเริ่มจะเห็นการก่อตัวของมุสลิมสายกลางแล้ว ถ้าพลังมุสลิมสายกลางกล้ามายืนเป็นผู้นำภายใต้กติการัฐธรรมนูญก็จะเป็นพลัง เป็นพลังสายกลาง บวกพลัง 73 จังหวัดซึ่งจะเป็นพลังที่คลี่คลายและเชื่อมรอยปริแยกที่เกิดขึ้นได้ในระยะยาว
ดังนั้นจุดยืนที่เราควรจะยืนหยัดคือ
1.เราต้องทำเพื่อ "ประเทศไทย" ไม่ใช่ "ชาติไทย" เพื่อการอยู่ร่วมกันทุกเผ่าพันธุ์ในประเทศไทยซึ่งยุทธศาสตร์นี้ อาจารย์ธีรยุทธ บุญมี ก็เคยเสนอว่า เราต้องพูดถึง "ประเทศนิยม" มากกว่า "ชาตินิยม"
2.คนในสังคมส่วนใหญ่ควรติดตามและพูดคุยเรื่อง จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้แต่การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันจะทำให้เราฉลาด ได้เห็นมุมมองของเพื่อนแล้วจะเกิดเป็นกระบวนการเรียนรู้ใหญ่ของสังคม
3.สังคมใหญ่ต้องใช้ปัญญา อย่าตกหลุมพรางของฝ่ายที่พยายามก่อความรุนแรง เพราะผู้ก่อเหตุพยายามใช้ความรุนแรง สร้างสัญญาณด้วยความรุนแรง สื่อและสาธารณะต้องมีสติ ต้องใช้ปัญญาไตร่ตรอง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการซ้ำเติมปัญหา
4.ภาคประชาชนต้องมียุทธศาสตร์ของภาคประชาชนเอง บางเรื่องร่วมกับรัฐได้ บางเรื่องก็ต้องจับมือกันค้นคว้าเองและเราต้องกล้าให้คะแนนรัฐบาลด้วยว่า หนึ่งปีที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขปัญหาเรื่องนี้แล้วได้ผลอย่างไร สอบได้หรือสอบตก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)