ประชาไท - แฉท่าเรือน้ำลึกสงขลา สร้างปัญหาสารพัด นอกจากกัดเซาะชายฝั่งจนวัดพัง ยังส่งผลกระทบต่อทะเลสาบสงขลา ประมงพื้นบ้านโวยแหลก สร้างปากทะเลสาบทางน้ำแคบ ไหลเชี่ยว จับปลาไม่ได้ กรรมการสิทธิฯ นัดลงพื้นที่เก็บข้อมูล กลางเดือนธันวาฯ นี้

นางสาวเบญจวรรณ เต็งหนู ผู้ประสานงานโครงการศึกษาผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและบทบาทสตรีในชุมชนประมงทะเลสาบสงขลากรณีท่าเรือน้ำลึกสงขลา โครงการการจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลภาคใต้ เปิดเผยว่า นอกจากการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลายื่นลงไปในทะเล จะมีผลกระทบเกิดการกัดเซาะหาดแก้ว อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลาอย่างรุนแรง จนที่ดินกว่า 70 ไร่ ของธรรมสถานหาดทรายแก้ว เหลือไม่ถึง 4 ไร่แล้ว จากการเก็บข้อมูลในพื้นที่ชุมชนประมงบ้านบนเมือง อำเภอสิงหนคร ตั้งเดือนสิงหาคม 2547 ถึงต้นปี 2548 ยังพบด้วยว่า ท่าเรือน้ำลึกสงขลา ซึ่งก่อสร้างตรงปากน้ำทะเลสาบสงขลา ตั้งแต่ปี 2528 ได้ปิดทางไหลของกระแสน้ำในทะเลสาบสงขลา ทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และอาชีพประมงพื้นบ้านด้วย

นางสาวเบญจวรรณ เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มชาวบ้านจึงได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอให้เข้ามาตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น กรณีการก่อสร้างขนาดใหญ่ล่วงล้ำลำน้ำ จนเกิดผลกระทบต่อชาวประมง ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิชุมชนชาวประมงโดยตรง สำหรับประเด็นร้องเรียน ประกอบด้วย การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาได้ทำให้ปากทะเลสาบแคบลงเหลือเพียง 400 เมตร ทำให้กระแสน้ำไหลขึ้น ส่งผลให้ในช่วงฤดูน้ำหลากเรือประมงพื้นบ้านไม่สามารถจับปลาได้ และยังทำให้ปลาหลายชนิด ไม่สามารถว่ายทวนน้ำเข้าไปวางไข่ในทะเลสาบสงขลา ส่งผลต่อความอุดมสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลาด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่า การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกและเขื่อนกันทรายที่สร้างเพิ่มเติม ส่งผลให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรงตรงบริเวณหาดแก้ว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของท่าเรือนำลึกสงขลาด้วย

นางสาวเบญจวรรณ เปิดเผยอีกว่า คณะอนุกรรมการสิทธิทางทะเลและชายฝั่ง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะลงมาเก็บข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2548 นี้ โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2548 นางเรวดี ประเสริฐเจริญสุข อนุกรรมการฯ พร้อมคณะได้เข้ามาเก็บข้อมูลในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ จำเป็นต้องลงพื้นที่เก็บข้อมูลอีกครั้ง

นางสาวเบญจวรรณ เปิดเผยอีกว่า ในการนี้ ทางกลุ่มชาวบ้านได้ขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุยชนแห่งชาติ เสนอต่อรัฐบาลยกเลิกการขยายท่าเรือน้ำลึกสงขลา และรื้อท่าเรือน้ำลึกที่มีอยู่แล้ว เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับสภาพแวดล้อม พร้อมกับขอให้ศึกษาความเปลี่ยนแปลงจากผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างจริงจังด้วย