ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-20 ก.ย.48 มท.1 ลงตรวจพื้นที่น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ พร้อมอ้างว่าฝายโบราณ 3 แห่งคือสาเหตุน้ำท่วม ย้ำต้องรื้อทิ้ง ถ้ามิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาน้ำท่วมเรื้อรัง ในขณะที่ชาวเชียงใหม่-ลำพูน รวมตัวเตรียมยื่นหนังสือคัดค้าน พร้อมเตรียมจัดพิธีกรรมล้านนาสาปแช่งเผาพริกเกลือหากยังไม่ยอมหยุดโครงการ
วันนี้ พลเอกคงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้การต้อนรับพร้อมกับกล่าวรายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สามในรอบปี และเป็นครั้งที่รุนแรงเป็นอันดับสอง รองจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้น พลเอกคงศักดิ์ กล่าวว่า น่าจะมีการรื้อฝายทั้ง 3 ฝาย ออกอย่างแน่นอน เพราะว่าเป็น
เมกาโปรเจ็คที่ ครม.ได้มีการอนุมัติเอาไว้แล้ว โดยจะมีการทำฝายยางมาทดแทน เพราะถ้าหากไม่รื้อฝายดังกล่าว ก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมเรื้อรังอย่างนี้อีกต่อไป ถ้าปล่อยเอาไว้ในลักษณะนี้ ก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด
ชาวบ้านต้านสุดตัว
นายสมบูรณ์ บุญชู ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้น้ำเหมืองฝายพญาคำ กล่าวว่า ที่ทางรัฐบาลออกมาพูดกันว่า สาเหตุน้ำท่วมเชียงใหม่มาจากฝายทั้ง 3 แห่งนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ซึ่งหากใครได้ไปดูในพื้นที่จริงๆ จะเห็นว่าฝายนั้นอยู่ต่ำกว่าระดับของถนนตั้ง 3 เมตร พอน้ำมีปริมาณมากก็จมฝายจนมิด ไม่ได้กีดขวางทางน้ำแต่อย่างใดเลย
"ที่รัฐออกมาพูดเช่นนี้ ก็เพราะว่าเพื่อธุรกิจนักการเมืองบางกลุ่มที่ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะหากมีการรื้อฝายโบราณทิ้ง คนกลุ่มนี้ก็จะสามารถทำธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว มีการล่องเรือในลำน้ำปิงไปมาได้สะดวก อีกทั้งเพื่อสนองโครงการตลาดน้ำที่จะผันน้ำเข้าไปในเวียงกุมกาม ซึ่งเป็นการคิดเพื่อธุรกิจอย่างเดียว แต่ไม่คำนึงชาวบ้านกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำจากเหมืองฝายทั้ง 3 แห่งในพื้นที่เชียงใหม่และลำพูนเป็นจำนวนมาก" นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ทำไมภาครัฐไม่เรียกชาวบ้านมาร่วมประชุมปรึกษาหารือกัน ถึงโครงการรื้อฝายก่อน ทั้งๆ ที่มีองค์กรกลุ่มผู้ใช้น้ำในแต่ละเหมืองฝายอยู่แล้ว ซึ่งชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ และ อ.เมือง จ.ลำพูน คัดค้านอย่างแน่นอน และพร้อมที่จะออกมาปกป้องไม่ให้มีการรื้อฝาย ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนคนเชียงใหม่และลำพูนจะออกมาร่วมคัดค้านร่วมด้วยอย่างแน่นอน เพราะฝายดังกล่าว เป็นฝายโบราณที่สร้างขึ้นสมัยมังราย ที่มีอายุเก่าแก่กว่าพันปี
ในขณะที่ นายหมื่น ทิพยเนตร ประธานเหมืองฝายพญาคำ กล่าวว่า ตนเป็นลูกหลานของพญาคำ และได้สืบทอดเป็นประธานเหมืองฝายนี้มานานกว่า 40 ปี ยังไม่เคยมีใครพูดกันมาก่อนเลยว่า ฝายโบราณนี้เป็นสาเหตุของน้ำท่วม และตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็นว่าคนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดให้รื้อฝายโบราณ ซึ่งเป็นเหมือนกับว่ามารื้อบ้านของตัวเอง
"อย่างไรก็ตาม หลังน้ำลด ตนและชาวบ้านพร้อมที่คัดค้านการรื้อฝายทั้ง 3 แห่ง และมีการรวมตัวกันเพื่อจัดพิธีกรรมสาปแช่งเผาพริกเผาเกลือให้กับคนที่คิดจะรื้อฝาย เพราะคนทางเหนือเขาถือว่าขึด อาเพทอย่างมาก" นายหมื่น กล่าว
ด้าน นายนิคม พุทธา โครงการจัดการลุ่มน้ำแม่ปิงตอนนบน กล่าวว่า ขอยืนยันว่าฝายทั้ง 3 แห่ง ไม่ได้เป็นต้นเหตุของน้ำท่วม เพราะอยู่ต่ำกว่าสันแม่น้ำกว่า 3 เมตร สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดน้ำท่วม น่าจะมาจากการสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำอื่นๆ เช่น ถนนวงแหวนรอบต่างๆ ถนนเลียบทางรถไฟ เป็นต้น
"ดังนั้นหากมีการทุบฝายทิ้ง จะไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง แต่จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร ผู้ใช้น้ำในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอสารภี และอำเภอเมืองรวมพื้นที่กว่า 40,000 ไร่ จึงต้องการให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด และปรึกษาหารือร่วมกับกลุ่มผู้ใช้น้ำด้วย" นายนิคม กล่าว
ทั้งนี้ ชาวบ้านกลุ่มผู้ใช้น้ำจากเหมืองฝายทั้ง 3 แห่ง จะเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการรื้อฝายที่ โรงแรมเชอราตัน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะมีการประชุมด้านเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับ นางอู๋อี๋ รองนายกสาธารณรัฐประชาชนจีน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)