บีบีซี นิวส์- โพลชี้ มิเชล บาเชเล็ต อาจเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีในเดือนธันวาคมนี้ ถือเป็นการฉีกวัฒนธรรมการเมืองชิลีที่เป็นสังคมชายเป็นใหญ่

มิเชล บาเชเล็ต ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพียงผู้หญิงแต่เธอยังเรียกตัวเองว่าเป็นนักสังคมนิยม นอกจากนั้นเธอยังเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกตามลำพังโดยมีลูกสาววัย 12 ขวบ 1 คน และลูกที่กำลังอยู่ในวัยเจริญ เติบโตอีก 2 คน

โดยปกติแล้วสังคมชิลีนั้น จะมีภาพของความเป็นสังคมอนุรักษ์นิยมที่ถูกครอบงำโดยผู้ชายและและโบสถ์แคทอลิกเป็นหลัก มีผู้หญิงที่เป็นสมาชิกวุฒิสภาเพียง 4 % และการหย่าร้างเพิ่งสามารถทำได้เมื่อปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง

กระนั้น บาเชเล็ต ก็เชื่อว่า การที่เธอได้ลงแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพทั้งหมดเท่านั้นและชิลีก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป

"นับเป็นเกียรติอย่างมากที่จะโอกาสได้เป็นประธานาธิบดีชิลี" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว บีบีซี นิวส์ "แต่สิ่งที่ฉันคิดว่าสำคัญมากกว่านั้นก็คือ มันหมายถึงชิลีกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เรามีสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและมีวุฒิภาวะที่เชื่อว่าผู้ชายและผู้หญิงสามารถรับผิดชอบได้เท่ากัน"

ในการเป็นตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งคราวนี้ผู้สมัครหญิงคนเดียวของพรรคแนวร่วมฝ่ายกลางซ้าย โซเลแดด อัลเวีย วัย 53 ปีได้ถอนตัวออกไปจากการแข่งขันไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้พรรคแนวร่วมนี้ที่รู้จักกันในนามของ คอนแชตาซิอง (Concertacion) ที่ได้เข้ามามีอำนาจอีกครั้งตั้งแต่ได้รับประชาธิปไตยกลับคืนมาในปี 1990 และบาเชเล็ตได้กล่าวว่าเธอจะทำตามธรรมเนียมที่ผ่านมาคือ จะคงความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง

"เราจะต้องยังคงความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่เราจะต้องมั่นใจว่าทุกๆ คนในประเทศจะได้ผลประโยชน์จากการเติบโตนี้"

ชิลีนั้นมักจะได้รับการอธิบายว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของกลุ่มลาติน อเมริกา และ ในปีนี้ก็คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตถึงมากกว่า 5%

ขณะนี้คู่แข่งคนสำคัญของบาเชเล็ตมีอยู่ด้วยกัน 2 คนเป็นผู้ชาย คนแรกคือ โจอาควิน ลาวิน ผู้สมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยมผู้ซึ่งพลาดตำแหน่งประธานาธิบดีไปอย่างเฉียดฉิวในการเลือกตั้งเมื่อครั้งที่ผ่านมา อีกคนหนึ่งเป็นเศรษฐีนักธุรกิจชื่อ เซบาสเตียน พิเนเร ผู้ซึ่งเข้าสู่การแข่งขันกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลักจากที่มีการแยกตัวกันของพันธมิตรอนุรักษ์นิยม

หากเธอจะสามารถเอาชนะได้ในการเลือกตั้งในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ บาเชเล็ตจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 4 ที่มาจาก คอนแชตาซิองและเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ

บาเชเล็ตต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองครั้งแรก ภายหลังการปฏิวัติในปี 1973 ครั้งที่ทำให้นายพลปิโนเช่ต์ขึ้นมาครองอำนาจ พ่อของเธอเป็นนายพลจากกองทัพอากาศที่ต่อต้านรัฐบาลทหารและเสียชีวิตในเรือนจำ ส่วนเธอนั้นทำงานภายใต้การดูแลของกลุ่มเยาวชนสังคมนิยม และเธอได้ถูกกักขังและทรมานนานหลายสัปดาห์กับแองเจลิกาแม่ของเธอในศูนย์กักกันก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมาช่วงปลดปล่อยประเทศในปี 1975

บาเชเล็ต เป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยมชิลี เช่นเดียวกับประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ริคาโด ลากอส แต่เธอเป็นคนที่ยินยอมเปิดเผยเรื่องความเป็นสังคมนิยมของเธอได้มากกว่า

"ฉันพูดได้ว่า แน่นอนฉันเป็นสังคมนิยม แต่ฉันก็สวมหมวกหลายใบ" เธอกล่าว

"ฉันไม่ใช่รัฐมนตรีของนักสังคมนิยมแต่ฉันเป็นรัฐมนตรีของชาวชิลี และหากฉันได้เป็นประธานาธิบดี ฉันก็เป็นประธานาธิบดี ของประชาชนชาวชิลี"

เดิมทีเดียวนั้นบาเชเล็ตเรียนมาทางด้านการแพทย์และเพิ่งจะเมื่อ 5 ปีที่ผ่านเท่านั้นเองที่เธอเปิดตัวเป็นบุคคลสาธารณะเมื่อประธานาธิบดี ลากอส ตั้งให้เธอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและต่อมาก็กระทรวงกลาโหม

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของชิลีแล้วลากอสจะต้องออกจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งครบ 1 เทอมจึงเป็นการเปิดโอกาสให้เธอได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในคราวนี้

นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนชี้ว่าความสดชื่นและอบอุ่น และบุคลิกของเธอทำให้เธอได้รับความสนใจจากผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งชาวชิลีและนี่เองก็เป็นเหตุให้ชื่อของเธออยู่ในอันดับสูงสุดในรายชื่อจากการหยั่งเสียง