Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-10 พ.ค.48 วันนี้( 10 พ.ค.) กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้ออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขอบเขตของการใช้กฎอัยการศึกของกองทัพในการแก้ไขปัญหา3จังหวัดชายแดนภาคใต้

สาระของแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่มีข่าวเสนอให้ยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กองทัพขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับขอบเขตการใช้อำนาจกฎอัยการศึกในพื้นที่ ซึ่งกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส. จชต.) ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยรับผิดชอบ โดยยึดมั่นในพระราชดำรัส "เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา" จนสามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

และการส่งทหารเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มิใช่การสงคราม จำเป็นจะต้องมีกฎหมายมารองรับ และเห็นว่าปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายอื่นใดที่จะมารองรับการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ทหารได้ นอกจากการใช้กฎอัยการศึกที่มีอยู่ จึงเห็นพ้องให้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่ม
เติม เพื่อให้ทหารสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้

การบังคับใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎอัยการศึกนั้น กองทัพใช้เพียงบางส่วนที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานเท่า
นั้น ได้แก่ เพื่อการตรวจค้น การเชิญตัวมาควบคุมเพื่อการสอบสวนและเพื่อการสั่งการในการปฏิบัติ
งานร่วมของพลเรือน ตำรวจ ทหาร ให้ทันต่อการแก้ไขเหตุการณ์ความไม่สงบ

ซึ่งการตรวจค้นและสอบสวนหากพบว่า มีมูลการกระทำผิดก็จะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มิได้ใช้อำนาจอย่างเข้มข้นตามกฎอัยการศึกแต่ประการใด (ไม่ขึ้นศาลทหาร) ทั้งนี้ทหารได้ยึดหลักการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก โดยส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนให้น้อยที่สุด

การประกาศใช้กฎอัยการศึกในปัจจุบันมิได้เลือกปฏิบัติ โดยประกาศใช้เฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชาย
แดนใต้เท่านั้น แต่ได้มีการประกาศใช้ในทุกพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องให้ฝ่ายทหารเข้าไปช่วยในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินและรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประ
ชาชน รวม 20 จังหวัด โดยประกาศใช้บางพื้นที่เท่านั้น

ซึ่งการปฏิบัติงานของทหารในพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึกในภาคต่าง ๆ นั้น ได้รับความร่วมมือและความเข้าใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดีว่า กองทัพไทยมาปฏิบัติหน้าที่ปกป้องประชาชนและรักษาอธิปไตยของประเทศ

แถลงการณ์ระบุอีกว่า ในขณะนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาความสงบเรียบร้อย กำลังร่วมกันพิจารณาที่จะออกกฎหมายอื่นให้ทหารสามารถปฏิบัติหน้าที่ช่วยในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนได้ โดยมิต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งเมื่อมีการออกกฎหมายใหม่ได้แล้ว กองทัพพร้อมตอบสนองและปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด

ความเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างซึ่งกันและกันของประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนความยุติธรรมที่ต้องมีต่อทุกฝ่ายอย่างเสมอภาคกัน มิใช่มีให้แต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จะนำไปสู่ความสมาน ฉันท์และความร่วมมือร่วมใจที่แท้จริงในการแก้ไขปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้ ได้อย่างแน่นอนต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net