Skip to main content
sharethis

ภาพจากผู้จัดการออนไลน์
-----------------------------------------

กรุงเทพฯ-21 ก.พ.48 รอยเตอร์รายงานข่าวโดยอ้างคำสัมภาษณ์ นายอับดุลอายิ อาแวสือแม นายกสมาคมท่องเที่ยว จ.นราธิวาสว่า เหตุการณ์ระเบิดที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อไม่กี่วันก่อน ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้างตั้งแต่เจ้าของโรงแรม ไปจนถึงคนขับขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เนื่องจากนักท่องเที่ยวหลักจากมาเลเซียไม่ข้ามมาเที่ยวเหมือนแต่ก่อน

นอกจากนั้นเมื่อรัฐบาลประกาศแบ่งโซนใน 3 จังหวัดภาคใต้ ออกเป็น 3 สีคือ แดง เหลือง เขียวตามลำดับความรุนแรงจากมากไปหาน้อย โดยเฉพาะในพื้นที่นราธิวาสซึ่งถูกระบุว่า มีพื้นที่สีแดงมากที่สุด อาจเป็นข้อกีดกันของมาเลเซียที่จะไม่ให้พลเมืองข้ามเข้ามา และไม่ให้คนไทยข้ามไปทำงาน

นายอับดุลอายิ อธิบายว่า เศรษฐกิจที่ซบเซาลง ทำให้คนไทยที่อยู่ในวัย 15-18 ปี โดยเฉพาะในจังหวัดนราธิวาส ต้องข้ามไปหางานทำมาเลเซีย ซึ่งเมื่อรัฐบาลกำหนดให้นราธิวาสเป็นพื้นที่สีแดง ทางการมาเลเซียอาจถือว่า บุคคลที่มาจากพื้นที่นี้ เป็นบุคคลต้องห้ามหรืออาจส่งคนไทยกลับบ้าน

"ขอให้นายกฯ ใช้ความรอบคอบใจเย็น เพราะชาวบ้านที่ไม่มีสี อยู่อย่างธรรมชาติ ก็ไม่มีแผ่นดินจะอยู่แล้ว" นายอับดุลอายิ ระบุ

เขายังกล่าวว่า หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายจัดโซนนิ่งพื้นที่ 3 จังหวัดโดยนราธิวาสถูกระบุว่ามีพื้นที่สีแดงมากที่สุด อาจเป็นข้อกีดกันของมาเลเซียที่จะไม่ให้พลเมืองข้ามเข้ามา และไม่ให้คนไทยข้ามไปทำงาน

เจ้าของร้านบาร์เบียร์แห่งหนึ่งที่อยู่ในบริเวณนั้น บอกด้วยว่า ทันทีที่เกิดเหตุ นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย ก็รีบเดินทางกลับประเทศ

"ลูกแรก ลูกสองก็ว่าหนักแล้ว แต่ยังทนได้ แต่พอมาเจอลูกนี้อยากจะร้องไห้"นางเภา วัย 50 ปี กล่าวถึงคาร์บอมบ์ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย แต่มักจะเห็นบ่อยครั้งในตะวันออกกลาง

เขากล่าวว่า หลังเกิดระเบิดหลายครั้งที่ภาคใต้ของไทยตั้งแต่ปีก่อน นักท่องเทึ่ยวต่างชาติก็ลดลงเรื่อยๆ ก่อนที่กระเตื้องขึ้นเมื่อหลังปีใหม่และตรุษจีนที่เพิ่งผ่านพ้นไป

แต่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนคนหนึ่ง ก็ไม่วิตกเรื่องความปลอดภัย
"ไม่กลัว ผมมาไหว้พระแล้วไม่กลัว บอมบ์ต้องกลัวผม"นาย Ahkee วัย 32 ปี ซึ่งเดินทางมาจากรัฐกลันตัน ที่อยู่ติดกับสุไหงโก-ลก

เขาพูดถึงเรื่องนี้ขณะที่นั่งอยู่ที่สถานบริการแห่งหนึ่ง ซึ่งห่าง 500 เมตรจากจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์เมื่อค่ำวันพฤหัสฯที่แล้ว และเขายังกล่าวว่า มักจะมาเที่ยวที่นี่ทุกสัปดาห์

"ฝั่งนู้นไม่มีที่เที่ยว ต้องเข้าป่าอย่างเดียว"ชายคนเดิม กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องเข้ามาเที่ยวบาร์เบียร์ที่ฝั่งไทย ขณะที่สถานบันเทิงส่วนใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงซึ่งอยู่รอบๆโรงแรมมารีนาซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ก็ยังคงเปิดให้บริการแม้มีลูกค้าบางตา

ประเทศไทยเผชิญกับความไม่สงบในจ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสมาตั้งแต่ม.ค.ปีที่แล้วซึ่งปะทุขึ้นหลังเกิดเหตุปล้นปืนและเผาโรงเรียนหลายแห่ง และตามด้วยการซุ่มโจมตีและทำร้ายชาวบ้าน"รายวัน"ซึ่งจนถึงขณะนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 500 คน

ขณะที่ธุรกิจในสุไหงโก-ลก พึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลักโดยเฉพาะชาวมาเลเซียในรัฐกลันตันที่อยู่ตรงข้ามกัน ซึ่งมีเชื้อสายจีนที่ทำการค้าเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ทางฝั่งมาเลเซียไม่มีสถานบันเทิง

ส่วนอาชีพส่วนใหญ่ของชาวบ้านที่สุไหงโก-ลก ทำร้านอาหาร ภัตตาคาร และยังทำอาชีพมอเตอร์ไซด์รับจ้างที่รับส่งนักท่องเที่ยวจากชายแดน

ประชาไทรายงาน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net