ประชาไท-18 ก.พ.48น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รมว.พลังงาน กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม ของบริษัทซียูอีแอล (CUEL) จำกัด บริษัทท่าเรือแหลมฉบัง ว่า แท่นขุดเจาะปิโตรเคมีดังกล่าว นับเป็นแท่นขุดเจาะที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศโดยมีโครงสร้างน้ำมันรวม 4,700 ตัน

โดยขณะนี้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์กว่า 99% และพร้อมที่นำลงสู่แหล่งปลาทอง บริเวณอ่าวไทย (แหล่งสำรวจปิโตรเลียม สัมปทานโดยบริษัทยูโนแคลฯ) ในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ และคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ภายในเดือน พฤษภาคมนี้โดยมีกำลังผลิตน้ำมันดิบ 2.5 หมื่นบารเรลต่อวัน และผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 150 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ทั้งนี้กระทรวงพลังงานได้กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณพลังงานสำรองให้มีพอใช้ไปอีก 50 ปี จากปัจจุบันที่มีปริมาณสำรองเพียงพอใช้ไปอีก 30 ปี และมีมูลค่ากว่า 8.05 ล้านล้านบาท โดยพบว่าประเทศไทย ยังมีศักยภาพที่จะค้นพบปริมาณสำรองเพิ่มเติมอีกเป็นมูลค่าประมาณ 11.94 ล้านล้านบาท

โดยมูลค่ารวมจากทรัพยากรพลังงานที่มีอยู่ในประเทศ ทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านล้านบาท โดยสามารถนำมาผลิตเป็นพลังงานเพื่อใช้ในประเทศ และมีผลทำให้ประเทศไทยสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงานได้ไม่น้อยกว่าปีละ 1.4 แสนล้านบาทต่อปี

ประชาไทรายงาน