ประชาไท-14 ธ.ค.47 ร.เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์ ประธานสถาบันพัฒนาสื่อภาคประชาชน กล่าวในงานสัมมนา "วิทยุชุมชนเพื่อสิทธิ เสรีภาพ การมีส่วนร่วม และประชาธิปไตย" ที่จัดขึ้น ณ รัฐสภาว่า กรณีที่กรมประชาสัมพันธ์จะอนุญาตให้วิทยุชุมชนมีโฆษณาได้ในอัตราชั่วโมงละ6นาทีนั้น ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มีรายได้แต่พอเพียง และไม่กระทบต่อเสรีภาพทางความคิดหรือความรับผิดชอบต่อชุมชน
โดยที่สิ่งโฆษณาต้องเป็นผลิตผลหรือการให้บริการของท้องถิ่น และต้องไม่ใช่สินค้าของระบบอุตสาหกรรมข้ามชาติ รวมทั้งไม่ใช่สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย
ดร.เอื้อจิตยังกล่าวถึงตัวอย่างการหารายได้ของวิทยุชุมชนในต่างประเทศว่า ส่วนใหญ่จะมาจากค่าสมาชิกและเงินสนับสนุนจากองค์กรอิสระด้านสื่อ นอกจากนั้นแล้วยังมีส่วนของการจัดกิจกรรมพิเศษ และการจัดทำสินค้าเพื่อจำหน่ายด้วย ซึ่งในสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ประกาศแจ้งท้ายรายการเพื่อขอบคุณผู้สนับสนุน โดยไม่กล่าวเยินยอ (Promote) ผู้สนับสนุนเหล่านั้น
"การไม่มีข้อกำหนดใดๆ ควบคู่กับการหารายได้จากการโฆษณา คือการทำลายคุณค่าของวิทยุชุมชน รวมทั้งเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจฉวยโอกาส ที่อาจมีทั้งผู้ประกอบรายการวิทยุ และบุคลากรภาครัฐที่หนุนผู้ประกอบธุรกิจ แต่พร้อมจะขัดขวางผู้ประกอบการภาคประชาชน" ดร. เอื้อจิตกล่าว
ด้านรศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงทางเลือกในการจัดการวิทยุชุมชนว่า อาจใช้วิธีการกระจายอำนาจในการดูแลวิทยุชุมชน โดยให้ชุมชนดูแลกันเอง และรัฐให้การสนับสนุนด้านการเงิน หรือวิทยุชุมชนอาจรับโฆษณาได้ แต่ต้องมีสมาคมวิชาชีพคอยกำกับดูแลกันเองเช่นเดียวกับระบบของหนังสือพิมพ์
รศ.ดร.นิยม ยังเสนอความคิดเห็นว่า วิทุยชุมชนอาจไม่เข้แข็งเพียงพอที่จะจัดการ และดูแลกันเอง จึงอาจจะมีการตั้งหน่วยงานเพื่อเป็นแกนกลางในการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของวิทยุชุมชนให้มากขึ้น
อนึ่ง ในงานสัมมนาครั้งนี้ได้มีการระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้จัดรายการวิทยุชุมชนจากทั่วประเทศ และพบว่าทั้งหมดไม่เห็นด้วยกับการจดทะเบียนวิทยุชุมชนของกรมประชาสัมพันธ์ โดยให้เหตุผลว่าการจดทะเบียนดังกล่าวขัดกับหลักการของวิทยุชุมชนที่เน้นความเป็นอิสระจากรัฐ รวมทั้งขัดมาตราที่ 6 และ 40 ของรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ข้อกำหนดที่บังคับให้ผู้จัดวิทยุชุมชนต้องสอบใบผู้ประกาศนั้น ยังเป็นการทำลายวัฒนธรรมด้านภาษาของแต่ละพื้นถิ่นด้วย
ผู้เข้าร่วมประชุมยังเรียกร้องให้กรมประชาสัมพันธ์ยกเลิกการลงทะเบียน และกลับมายึดคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2546 แทน รวมทั้งให้ผู้จัดวิทยุชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ด้วย
ภาณุวัฒน์ อภิวัฒนชัย
ประชาไทรายงาน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)