กรุงเทพฯ-25 พ.ย.47 สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ร่วมกับสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้เปิดเผยผลการสำรวจทัศนคติของคนไทยเกี่ยวกับเรื่องเอดส์ จากกลุ่มตัวอย่าง 7,500 คน จากทุกเพศ ทุกกลุ่มอายุ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

ทั้งนี้ พบว่า 40% เชื่อว่าครอบครัวตนเองจะทอดทิ้งถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นเอดส์ นอกจากนั้น 1ใน3 พูดว่า หากครูเป็นผู้ติดเชื้อ ไม่ควรอนุญาตให้ครูสอนในโรงเรียนอีกต่อไป และ60% บอกว่าไม่ต้องการซื้ออาหารจากคนที่เป็นเอดส์

ผลสำรวจยังพบว่า 95% คนไทยในประเทศไทยยอมรับว่า เอดส์ยังคงเป็นปัญหาในประเทศ ถึงแม้ว่าประเทศไทยได้ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ไปได้แล้วถึง 80% ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ลดลงจาก 143,000 คนในปี 2534 ลดลงเหลือเพียง 20,000 คนในปี 2546

นอกจากนั้น 61% เห็นว่ารัฐฯ ยังดำเนินการไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาเอชไอวี/เอดส์ และ 58% รู้สึกว่าความพยายามในการให้การศึกษาแก่เยาวชนวัยรุ่นยังไม่เพียงพอ

โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนไทยอายุ 15-25 ปี พบว่ากว่า 80% เชื่อว่าตนเองไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ดังนั้น จึงน่าจะอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงมีคนวัยหนุ่มสาวเพียง 20% เท่านั้นที่ใช้ถุงยางอนามัย

ประชาไทรายงาน