Skip to main content
sharethis

ย้อนรอยปี 44 /เทียบฟอร์มปี 48

คิกออฟแคมเปญของไทยรักไทยที่นอกจากจะประกาศแจกแหลกหวังสร้างกระแสประชานิยมให้โบกสะพัดธงรับไปทั่วประเทศเมื่อ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว ยังเปิดโผขุนพลที่จะส่งลงสนามชิงชัยในแต่ละเขตครบถ้วน ยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ แล้วด้วย

10 เขตของเชียงใหม่ ทรท.เสนอส.ส.หน้าเก่าถึง 8 เขต และเสนอผู้สมัครหน้าใหม่อีก 2 เขต เป็น 2 เขตที่น่าจับตา เพราะเขตหนึ่งมาแทนที่ระดับรองหัวหน้าพรรคที่กระหน่ำผลงานไว้กับนครโบราณใต้พิภพอย่างครึกโครม อีกเขตหนึ่งเป็นฐานที่มั่นหนึ่งเดียวของประชาธิปัตย์ที่แกร่งชนิดกระแสนิยมไทยรักไทยที่ร้อนแรงในสมัยที่แล้วฝ่าไม่สำเร็จ ส่วนเขตที่เหลือความน่าสนใจอยู่ที่คนจะมาชิงชัยด้วย โดยขณะนี้ประชาธิปัตย์ก็ประกาศผู้สมัครออกมาบ้างแล้วแม้ยังไม่ครบทุกเขตแต่การคาดหมายที่ไม่น่าจะพลาด เทียบฟอร์มในอดีตในยุคทักษิณฟีเวอร์กับยุคขาลง และตัวแปรต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ทำให้เลือกตั้ง 48 นี้เร้าใจไม่ใช่เล่น

เขต 1 ไทยรักไทยเสนอปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ผู้ซึ่งคว้ามา 33,605 คะแนนในปี 44 ล้มสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุลที่ได้คะแนนถึง 25,686 แต่ยังไม่พอจะถึงฝันได้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ยังไม่มีชื่อของสุรพงษ์ ปรากฏอยู่ในโผของปชป.ที่ประกาศมาครั้งแรก แต่กลับเป็นกระแสข่าวว่าคือ เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ บุตรสาวของธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่แทน เป็นเดือนเต็มดวงคนเดียวกันกับที่เคยลงในเขต 3 พรรคความหวังใหม่เมื่อครั้งที่แล้วคว้ามาได้ 14,920 คะแนน ส่วนทางของสุรพงษ์จะไปเป็นบัญชีรายชื่อ หรือจะมาที่เขต 2 ยังไม่ชัด

เขต 2 เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคฯ มีฐานเสียงอยู่ในคราวที่แล้ว 45,981 คะแนน มาคราวนี้เธอขยับไปเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ มีสิทธิ์หวังไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่การจะหาตัวตายตัวแทนเป็นเรื่องต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนหน้านี้เมื่อยังหวานชื่นปลื้มกับตัวเลขถล่มทลายของคะแนนเสียงที่เทให้กับธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่ผู้ซึ่งพรรคต่อรองให้ทิ้งสนามใหญ่ลงสนามเล็กสำเร็จ ชื่อของกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่เป็นที่ตกลงของกรรมการบริหารพรรค แต่สุดท้ายชื่อของพายัพ ชินวัตรก็ปรากฏขึ้นมา แต่เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ข่าววงในแจ้งว่าเป็นเยาวภาเองที่ พยายามผลักดันน้องชาย "พายัพ ชินวัตร" ให้ลงแทน โดยบอกว่ากิ่งกาญจน์ยินดีจะไปช่วยเหลืองานธวัชวงศ์

ชื่อของพายัพไม่ถูกประกาศในโผรอบแรก ข่าวว่ามีคำสั่ง "ห้ามลง" เด็ดขาดจากคุณหญิงพจมาน ชินวัตร แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาปรากฎพร้อมกับการคิกออฟครั้งนี้ (อ่านข่าวประกอบจุดขายหน้าใหม่ทรท. - ชูพี่ ชูพ่อ ชูพรรค แค่นี้ยังไม่พอ)

การก้าวสู่สนามการเมืองครั้งแรกในฐานที่เยาวภาสร้างไว้ และศักดิ์ศรีน้องชายหัวหน้าพรรค อาจดูเหมือนจะปิดประตูแพ้ แต่ไม่อาจมองข้ามการวิจารณ์เรื่องขาลงของพรรค และหน้าที่ของผู้สมัครนั่นคือลงพื้นที่ด้วย เพราะแม้เยาวภาบอกว่าทีมงานไม่เคยทิ้งพื้นที่ แต่หน้าใหม่ที่ยังต้องเร่งเครื่องทำความรู้จักให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจเป็นเรื่องจำเป็นที่ การชะล่าใจทิ้งเวลาไปนานไม่เป็นผลดีต่อการยอมรับของประชาชนแน่ และแม้สำหรับพรรคคู่แข่งอย่างประชาธิปัตย์จะไม่ประกาศชัดว่าจะเป็นใคร จะเป็นบรรจง ตะริโย ซึ่งเคยทำไว้ 25,882 หรือไม่ หรือตามกระแสที่จะคว้ากล่องดวงใจของเทศบาลนครเชียงใหม่ อย่างเฮียน้อย ชาตรี เชื้อมโนชาญ ที่ข่าวเล็ดออกมาเป็นกระแสให้ได้ตื่นเต้นว่าอาจเป็นไปได้เพราะมีฐานเสียงในเทศบาลก็ไม่ใช่น้อย แต่ตอนนี้เจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งแถมยังสวมเสื้อไทยรักไทยมาร่วมงานคิกออฟยืนยัน จะเป็นใครที่ชิงกับพายัพในเขต 2 ที่ท้าทายนี้เป็นเรื่องน่าลุ้น

เขต 3 ก็น่าจับตา ทรท.ยังคงส่ง บุญทรง เตริยาภิรมย์ คนหนุ่มจากสายอุตสาหกรรมผู้เคยทำได้ 29,542 แต้ม ขณะที่ปชป.ประกาศชื่อ สายชน พฤกษนันท์ลงในเขตนี้ แต่มีกระแสข่าวก็แว่วว่า จะกลายเป็นจ่าสิบตำรวจอุดม วรวัลย์ที่ลงเหมือนกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าการส่งตัวแทนลงชิงอบต.ครั้งที่ผ่านมา เขาสามารถล้มคนของบุญทรงได้ แม้เลือกตั้งใหญ่รอบที่แล้วเขาสวมเสื้อพรรคราษฎรคว้ามาได้เพียง 9,800 แต้มก็ตาม แต่นั่นอาจเป็นเพราะมีตัวแปรอีกคนคือ ดร.แป้ง-เดือนเต็มดวง แห่งความหวังใหม่สกัดอยู่เกือบ 15,000 แต้ม แต่คราวนี้เธออาจย้ายไปที่เขต 1 ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้

เขต 4 เร้าใจแม้ปชป.ยังไม่ประกาศตัว แต่แว่วว่าจะเป็นเขตซับน้ำตา บ้านเก่าที่คุ้นเคยของกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ที่ปชป.เทให้ซดกับ วิทยา ทรงคำแห่งไทยรักไทย เพราะรอบที่ผ่านมาคะแนนสุดจะสูสี เมื่อวิทยา ทรงคำได้มา 27,900 คะแนน ขณะที่เจ๊แดงกิ่งกาญจน์ ในนามความหวังใหม่ได้มา 21,720 ห่างกันอยู่กว่า 5,000 คะแนน แต่คราวนี้ลุ้นได้ว่าคะแนนตัวแปรที่แทรกอยู่คือขวัญชัย สกุลทองที่ลงในนามปชป.เมื่อครั้งที่ผ่านมาคว้าไป 17,229 แต้มนั้นจะเทไปที่ไหน

เขต 5 ท้าพิสูจน์ว่ากล่องดวงใจของไทยรักไทยจะถูกคว้า หรือไม่ พื้นที่อำเภอสันกำแพง ที่พรชัย อรรถปรียงกูรแห่งทรท.เคยทำได้สูงถึง 39,521 คะแนน แต่ดาราดังผู้เป็นหนึ่งในทีมบริหารของพรรคประชาธิปัตย์อย่างพงศ์ประยูร ราชอาภัย ก็เคยทำได้ 26,911 คะแนน โดยครั้งนั้นตัวแปรสำคัญคือธวัชวงศ์ ณ เชียงใหม่แห่งพรรคความหวังใหม่ 22,274 คะแนน และมีผู้ลงแข่งขันเพียงแค่ 4 พรรค ครั้งนี้ปชป.ประกาศจะกลับมาล้างแค้นเจาะไข่แดงให้สำเร็จด้วยผู้สมัครคนเดิม

เขต 6 แต้มที่ได้สูงสุดถึง 49,728 คะแนนทำให้ชื่อของอดีตนายอำเภอนพคุณ รัฐผไท ปรากฏอยู่ในผู้สมัครของไทยรักไทยคราวนี้อีก ทิ้งห่างอำนวยพร สรรพตานนท์จากปชป.ในคราวนั้นทีได้ 20,161 แต้ม แต่คราวนี้ปชปส่ง ศิลปชัย ค้ำชู เข้าสู้ แต่ดูๆ ชื่อของบุญช่วย ภู่จีนาพันธุ์ที่จะสวมเสื้อมหาชนก็น่าลุ้น เมื่อครั้งก่อนสวมเสื้อชาติพัฒนาทำได้กว่า 12,943 แต้ม

เขต 7 สุรพล เกียรติไชยากร จากไทยรักไทยเคยทำได้ 45,289 แต้ม เป็นเขตที่ชาติพัฒนามาแรงในปีที่แล้วจากผลงานของณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ 22,286 คะแนน และคนของปชปคือเชิงชัย สุภาศรี 6,708 คะแนน แต่คราวนี้ปชป.เสนอ เสน่ห์ สุรินทร์ และต้องไม่ลืม ณรงค์ ภูอิทธิวงศ์จากพรรคมหาชนที่เคยทำได้ 22,286 เมื่อครั้งอยู่ชาติพัฒนาเช่นกัน

เขต 8 น่าจับตาการขยับตัว ศุภชัย นิมมานเหมินท์ จากฟากประชาธิปัตย์ลงแทนขุนทอง อินทร์ไทย ที่เคยทำได้ 18,084 แต้ม สูสีแต่ครั้งนั้นไม่พอที่จะฝ่า 21,760 ของผณินทรา ภัคเกษมไปได้ แต่ครั้งนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีชื่อของอำนวย ยศสุขจากความหวังใหม่ที่ครั้งที่ผ่านมาทำได้ 10,995 แต้ม

เขต 9 แห่งเดียวที่ปชป.ถือครองด้วยผลงานของยงยุทธ สุวภาพ 22,193 แต้ม แต่ก็ฉิวเฉียดจากทวีศักดิ์ สุภาศรีจากไทยรักไทยที่ทำได้ 20,281 คะแนน จะโทษตัวแปรณรงค์ นิยมไทยหรือหนานโฮ๊ะ จากความหวังใหม่ 2,156 แต้มหรือเจริญ เชาวน์ประยูรจากราษฎร 2,726 แต้มก็แล้วแต่ แต่เป็นแต้มที่ ทรท.หวังลุ้นในสมัยนี้ด้วยการส่งผู้สมัครหนุ่มน้อยแต่ฐานหนักอย่างจุลพงษ์ อมรวิวัฒน์ ลูกชายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เพื่อสู้กับแชมป์เก่า

เขต 10 สุดท้ายยังคงเป็นสันติ ตันสุหัช จากไทยรักไทยด้วยผลงาน 29,981 คะแนน ทิ้งห่างนับเป็นหมื่นคะแนนจากปชป. มานะ แพรสกุล 16,921 คะแนน แต่คราวนี้ ปชป.เปลี่ยนผู้สมัครมาเป็นประสิทธิ์ วุฒินันชัย อดีต ส.จ.แม่อายผู้ซึ่งคุ้นหน้าในสมัยที่แล้วเช่นกันแต่ในนามพรรคราษฎร และคะแนนก็น่าลุ้นอยู่ที่ 12,501 คะแนน

สำหรับพรรคอื่นยังไม่ประกาศออกมาเด่นชัด และไม่น่าจะเป็นตัวแปรที่จะทำให้คะแนนเคลื่อนไปจากเทรนได้มาก นับจากนี้ก็ต้องรอลุ้นการประกาศเขตที่เหลือของ ปชป. และดูการทำงานของแต่ละเขตว่าจะนำเสนอนโยบายและเข้าหาด้วยความจริงใจหรือแค่ขอคะแนน

เสียงนกหวีดเป่าปรี๊ดดดดดดดดดดดดด…..ดังขึ้นแล้ว !

โครงการความร่วมมือด้านข่าวภูมิภาค
พลเมืองเหนือ-ประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net