แถลงการณ์ฉบับที่ 3
ถึงยุบสภา ก็ไม่พ้นผิด ทักษิณต้องลาออก
การยุบสภาเป็นการใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองอีกครั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นเล่ห์เหลี่ยมเพื่อ หลีกเลี่ยงความผิด ความไม่โปร่งใส ความไม่ชอบธรรมของตนเอง
ประชาชน นักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะขาดจริยธรรม เพราะใช้เหลี่ยมเล่ห์ทางกฎหมายหลบเลี่ยงภาษี เพราะใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรอิสระทำให้ไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของรัฐบาลซึ่งเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระ เพราะเป็นผู้สร้างระบอบทักษิณซึ่งเป็นระบอบเผด็จการทุนนิยมผูกขาดแบบเครือญาติพวกพ้อง เพราะขายสมบัติชาติเช่น ดาวเทียม ราวกับเป็นสมบัติส่วนตัว
เพราะเมื่อปี 2542 ได้จัดตั้งบริษัทที่เกาะบริติช เวอร์จิน ขณะที่ปี 2545 ออกมากล่าวว่า ผู้ที่ไปจดทะเบียนบริษัท ณ เกาะดังกล่าวมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ไม่รักชาติ ปี 2549 บริษัทที่จดทะเบียน ณ เกาะดังกล่าวเป็นของลูกชายนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับโอนจากพ่อ เพราะกำลังเปิดให้ต่างชาติมาประมูลน้ำ ประมูลทะเล ประมูลการศึกษา ประมูลในนามเมกกะโปรเจกต์
เหล่านี้ล้วนเป็นความผิดเฉพาะตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก ทั้งไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป เพราะนายกรัฐมนตรีต้องตั้งอยู่บนคุณธรรม และจริยธรรม
การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยไม่มีการปฎิรูปทางการเมือง ปรับปรุงรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราทั้งหลายทราบแล้วว่า มีหลายบทบัญญัติที่เอื้ออำนวยให้เกิดเผด็จการจากการเลือกตั้ง ขณะที่สิทธิของประชาชนในรัฐธรรมนูญกลับไม่มีผลบังคับใช้ และถูกละเลยมาตลอดการใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 จนถึงปัจจุบัน
ด้วยพลังเงิน ด้วยอำนาจรัฐในช่วงรัฐบาลรักษาการ และอำนาจเหนือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องส่งโดยพรรคการเมือง ทั้งต้องสังกัดพรรคนั้นไม่ต่ำกว่า 90 วัน ผนวกกับการขึ้นเงินเดือน จ่ายสินบนให้กลุ่มต่างๆก่อนยุบสภา อาจทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกครั้ง พร้อมกับกล่าวอ้างความชอบธรรมด้วยจำนวนเสียงของประชาชนเช่นที่ทำอยู่เสมอ
ประเทศไทยจะได้นายกรัฐมนตรีคนเดิมที่ไร้จริยธรรม รวยไม่พอ เราจึงไม่สามารถไว้วางใจได้ว่า จะนำ ทรัพย์สินของชาติแปรเป็นทรัพย์สินส่วนตัวเช่นที่เคยทำมา
สมัชชาตรัง และเครือข่ายพันธมิตรประชาธิปไตย จังหวัดตรัง จึงขอยืนยันให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออก เพราะไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ
กระบวนการถอดถอนนายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการต่อไปเพราะเป็นความผิดเฉพาะตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ความขัดแย้งกับสภาผู้แทนราษฎร และไม่ใช่ความผิดของประชาชนผู้เสียภาษีที่ต้องใช้จ่ายภาษีเพื่อการเลือกตั้งใหม่
การชุมนุม ณ ลานหน้าศาลากลางเก่าจังหวัดตรัง วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2549 เวลาบ่ายเป็นต้นไป จะดำเนินต่อไป เพื่อสร้างความถูกต้องทางการเมือง และพัฒนาระบบประชาธิปไตยของประชาชน
ด้วยความเชื่อมั่น
สมัชชาตรังและเครือข่ายพันธมิตรประชาธิปไตยจังหวัดตรัง
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549