วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2005 18:41น. 

ปกรณ์ พึ่งเนตร : ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

เหตุระเบิดรถยนต์กลางเมืองนราธิวาส จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 6 ราย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มหันมาจับตามองสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อีกครั้ง หลังจากเหตุรุนแรงรายวันสงบลงไปนานร่วม 1 เดือน

ก่อนหน้านี้ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงหลายคน ออกมาระบุตรงกันว่า เหตุการณ์รุนแรงรายวันที่เบาบางลงมากในช่วงหลัง เป็นความสำเร็จจากการปรับยุทธวิธีของฝ่ายรัฐ และเชื่อว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในทัศนะของ ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี) เห็นว่า ความรุนแรงที่ลดระดับลงในช่วงที่ผ่านมา น่าจะเป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มก่อความไม่สงบอาจจะกำลังปรับยุทธวิธีอะไรบางอย่าง 

ผศ.ดร.ศรีสมภพ อธิบายว่า ความรุนแรงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาลดลงมากก็จริง แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสภาพอากาศที่มีมรสุมและฝนตกหนักด้วย แม้อีกส่วนหนึ่งจะเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลเอง ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้นก็ตาม

กระนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียซึ่งเริ่มปรับทิศทางไปในแง่บวก หลังจากทางการมาเลย์ยอมส่งผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีก่อความไม่สงบมาให้ไทยเพิ่มเติม ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นเครดิตของรัฐบาลที่ทำให้มองได้ว่าสถานการณ์ส่อเค้าดีขึ้นทั้งในและนอกประเทศ

"ผมมองว่าทั้ง 2 ปัจจัย คือเรื่องสภาพอากาศและการปรับนโยบายของรัฐบาล มีผลทำให้ขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ต้องหยุดชะงักชั่วคราว เพื่อปรับตัวอะไรบางอย่างเป็นการภายใน แต่ในระยะยาวก็ยังเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงต่อไป เนื่องจากปัญหาพื้นฐานทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้จะมีการทุ่มงบลงมากว่า 10,000 ล้านบาทในรอบปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม"

ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่หลังน้ำลด หรือพ้นช่วงอุทกภัยไปแล้ว จะเกิดความรุนแรงระลอกใหม่ขึ้นอีก ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรประมาทหรือด่วนสรุปว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว เพราะที่ผ่านมาแม้นโยบายของรัฐบาลจะเริ่มคลำถูกทาง แต่ผลของการดำเนินนโยบายยังต้องใช้เวลา และต้องมีการประเมินเพื่ออุดช่องโหว่อีกหลายอย่าง 

ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญภัทโร อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดรถยนต์กลางเมืองนราธิวาสเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังไม่จบลง หรือคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง 

"เหตุระเบิดเมื่อเช้าถือว่ารุนแรงอย่างมาก เพราะมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 6 คน" นายนิพนธ์ ระบุ

สำหรับแนวทางการแก้ไขนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า จะต้องใช้แนวทางสันติวิธี ซึ่งหมายถึงการวางอาวุธทั้งสองฝ่าย แล้วเจรจากันอย่างสันติ

"การจะให้เขาวางอาวุธ ฝ่ายเราต้องวางก่อน แล้วพยายามพูดคุยกับประชาชนในวงกว้าง  เพื่อให้ทุกคนเข้าใจ จากนั้นทุกฝ่ายจะต้องระดมสรรพกำลังเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะแต่ละฝ่ายล้วนเป็นพลังทางสังคม แต่ถ้าหากแยกกันอยู่ก็จะเป็นเหมือนแสงหิ่งห้อย ถ้าอยู่รวมกันก็จะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ จนสามารถแก้ไขปัญหาได้ในที่สุด" อดีต ผอ.ศอ.บต. ระบุ