สำหรับจดหมายเปิดผนึกของ พล.ต.จำลอง มีรายละเอียดข้อความดังต่อไปนี้

ดร.ทักษิณ ครับ

ว่างเว้นจากเขียนจดหมายถึงดร.ทักษิณมานาน ขอเขียนอีกสักฉบับ เหตุผลก็เหมือนเดิมคือ ถ้าส่งตามปกติ คนใกล้ชิดอาจไม่กล้าส่งต่อดร.ทักษิณ เพราะเป็นจดหมายท้วงติงไม่ใช่จดหมายชมเชยซึ่งการท้วงติงนั้นพระท่านสอนว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการชี้ขุมทรัพย์

เรื่องการเตรียมจุดระเบิดสังหาร ดร.ทักษิณนั้น ทำไมต้องออกคำสั่งปลด พัลลภในวันเดียวกันด้วย ให้ออกจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในซึ่งผมเห็นว่าไม่สมควร ไม่ใช่ว่าผมจะเสียดายตำแหน่งแทนเพื่อนหรอก ตัวพัลลภเองเขาก็ไม่ได้ติดยึดอะไรอยู่แล้ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าดร.ทักษิณออกคำสั่งปลดเพื่อส่งสัญญาณว่าพัลลภอยู่เบื้องหลังการเตรียมสังหาร

ดร.ทักษิณน่าจะใช้ความกล้าหาญ ในฐานะเป็นผู้นำ ออกคำสั่งปลดพัลลภออกจาก 2 ตำแหน่งทันที ทั้งรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วให้ข่าวตรงไปตรงมาว่าต้องทำอย่างนี้ เพราะสงสัยว่าพัลลภอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากผู้ต้องหาคือ ร.ท.ธวัชชัย เคยเป็นคนขับรถของพัลลภ ใครก็จะไม่ว่าอะไร ไม่สงสัยอะไร เพราะดร.ทักษิณทำตามหน้าที่

คราวก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว ที่ดร.ทักษิณ พูดถึงเรื่อง "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" ซึ่งตอนหนึ่งระบุในทำนองว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ สั่งให้องค์กรปฏิบัติ ทำให้เสียการทำหน้าที่ขององค์กร ซึ่งใครๆก็จำได้ว่าสืบเนื่องมาจากจุดเริ่มต้นของการใช้อำนาจตุลาการแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตที่สุดในโลก หลายคนที่สงสัยว่าดร.ทักษิณหมายถึง "ฟ้า" หรือเปล่า เวลาผ่านมาเป็นเดือนๆ ดร.ทักษิณก็ไม่กล้าตอบคำถามว่าหมายถึงใคร

เมื่อเป็นผู้นำไม่ใช้ความกล้าหาญในการพูด ในการตอบคำถาม ปัญหาใหญ่ๆก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ป๋าท่านเคยบอกว่า "ทหารแก่ไม่ตาย" ซึ่งทหารหรือผู้ผ่านโรงเรียนเตรียมทหารเข้าใจดีว่าเมื่อหมายถึงเนื้อหนัง มังสา ทหารแก่แล้วก็ตายแน่ เหมือนคนกลุ่มอื่นๆ แต่ทหารยังไงก็ไม่ตายไปจากการเป็นคนรักชาติ มีเกียรติ มีวินัย และมีความกล้าหาญ ดร.ทักษิณผ่านการเป็นนักเรียนเตรียมทหารมา คำทั้ง 4 คือ ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาญ ต้องตราตรึงใจไปจนตาย

ลูกน้องดร.ทักษิณออกมาพูดเชื่อมโยงพัลลภกับทหารจปร.รุ่น 7 คนอื่นๆ ซึ่งรวมทั้งตัวผมด้วย น่าจะบอกให้ชัด สงสัยใครว่าเป็นผู้บงการลอบสังหาร เมื่อสอบสวนได้ความแน่ชัดแล้วก็ปลดออก และออกหมายจับเอาเข้าคุก เข้าตะรางทันที จะได้จบเป็นเรื่องๆไป ไม่มีอะไรค้างคาต่อไปอีก

โยงกลับไปสู่เหตุการณ์ที่ผมพาคณะไปกินนอนกลางถนนที่สนามหลวงและข้างทำเนียบ 1 เดือนเศษ ซึ่งตอนนั้นพัลลภเคยบอกผมว่า ดร.ทักษิณถามเขาว่าทำไมจัดลูกน้องไปดูแลความปลอดภัยผม เขาก็บอกว่า ทำตามหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงภายใน เพราะถ้าผมเป็นอะไรไป ดร.ทักษิณในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี จะเสียหายมาก และผมก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาด้วย

ดร.ทักษิณครับ ความคิดที่จะทำลายล้างเป็นรุ่นนั้นเสียหายร้ายแรง แต่ก่อนเขาให้ผู้เป็นนักเรียนนายร้อย นักเรียนนายเรือ นักเรียนนายเรืออากาศ และนักเรียนนายร้อยตำรวจ เรียน "โรงเรียนเตรียม" โรงเรียนเดียวกัน คือ "โรงเรียนเตรียมนายร้อย" ซึ่งมีตั้งแต่รุ่น 1 ถึงรุ่น 18 แล้วเปลี่ยนเปลี่ยนเป็น "โรงเรียนเตรียมทหาร"

ผมเป็นนักเรียนเตรียมนายร้อยรุ่น 14 ดร.ทักษิณเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 หลังผม 14 รุ่น ผู้ใหญ่รุ่นก่อนๆที่ให้ต่างเหล่าเรียนรวมกันเพื่อหล่อหลอมพวกเราให้รัก, สามัคคีกัน ทำไมตอนนี้เราจะมาทำให้แตกแยกกันล่ะ น่าเสียดาย น่าเป็นห่วงมาก

ภาพที่ร.ท.ธวัชชัย ถูกตำรวจหิ้ว เหมือนหิ้วไก่ไปเชือด ทหารเห็นแล้วฉุน ไม่ให้เกียรติกันเลย ให้เขาเดินตามไปดีๆก็ได้ ยังไงๆ ก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว นี่ก็ทำให้แตกแยกอีกเหมือนกัน ตำรวจเป็นใหญ่ในแผ่นดิน จะทำอะไร กับใคร อย่างไร ได้ทั้งนั้น ตำรวจเป็นนายกฯเสียอย่าง

ตอนช่วยดร.ทักษิณหาเสียงครั้งแรก ผมจำได้ผมไปช่วยหาเสียงตามแฟลตตำรวจว่า เราเคยมีนักกฎหมาย มีทหารเป็นนายกฯ มาแล้ว ขอให้เรามีนายกฯ เป็นตำรวจสักครั้งหนึ่งนะ ไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อได้ตำรวจเป็นนายกฯแล้ว ตำรวจบางคนจะอหังการขนาดนี้

เมื่อวานนี้ ผมเป็นผู้แทนไปยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจ (นับรุ่นก็เป็นรุ่นน้องผมและเป็นรุ่นพี่ดร.ทักษิณ) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ผมปราศรัยหน้าประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดี ส่วนน้อยต่างหากที่ไม่ตรงไปตรงมา และมีอำนาจในการสอบสวนคดีใหญ่ๆ

ประชาชนทราบดีว่า การรักษาความปลอดภัยให้ดร.ทักษิณนั้นต้องเข้มข้นเป็นพิเศษ แต่ต้องไม่ปล่อยปละละเลยคนอื่นๆด้วย ระเบิดเกิดขึ้นแล้วจริงๆ (ไม่ใช่เตรียมจะระเบิด) ที่สันติอโศกและที่หน้าบ้านป๋า เวลาผ่านมาหลายเดือนจนบัดนี้ยังจับใครไม่ได้เลย ทั้งๆที่หลักฐานซึ่งเป็นอาคารสถานที่ๆ ถูกระเบิดมีให้เห็นตำตา ไม่มีการทำลายหลักฐานแต่อย่างใด

แสดงว่าตำรวจยุคนี้ สนใจในการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว คนอื่นๆตั้งแต่ชาวบ้านธรรมดาๆ ไปจนถึงท่านประธานองคมนตรี ตำรวจไม่แยแส จะถูกใครลอบทำลายล้างผลาญ...กี่ครั้งก็ "ช่างมัน" อย่างนั้นหรือ

ดร.ทักษิณต้องกำชับครับว่า ตำรวจต้องรักษาความปลอดภัยคนอื่นด้วย เพราะตำรวจได้เงินเดือนจากภาษีอากรคนทั้งประเทศไม่ใช่จากดร.ทักษิณคนเดียว

เช้าวานนี้มีคนประมาณ 100 ไปเรียกร้องให้ป๋า "ไว้ชีวิต" ดร.ทักษิณ ทำให้ดร.ทักษิณแย่อีกเหมือนกัน น่าเห็นใจที่ดร.ทักษิณโชคไม่ดีมีลูกน้องที่ "โง่ขยัน" ชอบขยันทำเรื่องโง่ๆ ให้เจ้านายเดือดร้อนอยู่เรื่อย ก่อนทำก็ไม่คิดว่าจะเสียหายไหม

เป็นการกล่าวหาโดยปริยายว่าป๋าเป็นคนหนึ่งละที่จ้องจะเอาชีวิตดร.ทักษิณ จึงไปขอร้องทั้งๆที่รู้ว่าป๋าเป็นคนมีความเมตตา ผมรู้จักป๋าดี เพราะผมเป็นลูกป๋าที่จัดได้ว่า "ขนานแท้และดั้งเดิม" ไม่เคยไปบ้านป๋าในวันเกิด วันขึ้นปีใหม่ หรือวันสงกรานต์ จะไปเฉพาะเมื่อมีปัญหาใหญ่ๆ ที่ต้องขอกราบเรียนหารือท่านเท่านั้น บางครั้งเมื่อมีเรื่อง ท่านก็ถามผู้ใกล้ชิดว่า "จำลองเขาทำอะไรอยู่"

แม้จะถูกพวกผมปฏิวัติ ป๋าท่านก็ไม่เคยอาฆาต แล้วผู้สนับสนุนดร.ทักษิณจะไปเหมาได้อย่างไรว่าท่านคิดจะฆ่า จึงต้องพากันไปขอชีวิต ดร.ทักษิณจากท่าน เวลาไปบ้านป๋าจะเตรียมให้ดีๆหน่อยก็ไม่ได้ ดันเอาคนเมาแอ๋ไปด้วย

การไปขอชีวิตแสดงว่า นายกฯหมดรูปแล้ว ทั้งๆที่ยังมี่ไพร่พล และอาวุธยุทโธปกรณ์เต็มบ้านเต็มเมือง แล้วชาวไทยและชาวต่างประเทศเขาจะมั่นใจในเสถียรภาพของประเทศไทยได้อย่างไร ลูกน้องที่ "โง่ขยัน" ฉลาดน้อยเหลือเกิน

อีกอย่างหนึ่งที่ลูกน้องดร.ทักษิณหวังก็คือ หวังว่าทำอย่างนั้นแล้วเจ้านายจะได้รับความสงสารจากคนทั้งประเทศกลับกลายเป็นได้สิ่งที่ตรงกันข้าม

เราสอนกันในโรงเรียนเสนาธิการว่า ลูกน้องที่ "โง่ขยัน" อย่าเอาไปออกรบด้วย ถ้าไป "โง่ขยัน" ในสนามรบ ต้องฆ่าทิ้งสถานเดียวเท่านั้น

ดร.ทักษิณครับ ผมเตือนอีกอย่าง ไม่ใช่เตือนเพราะห่วงตัวผมเอง แต่ผมห่วงดร.ทักษิณต่างหาก ถ้าดร.ทักษิณจะหาเรื่องผม ต้องคิดให้หนักนะครับ ถ้าหาเรื่องจปร.รุ่น 7 ทั้งรุ่นยิ่งไปกันใหญ่ อย่าไปเชื่อคนยี้ๆ แย่ๆ ที่เป็นลูกยุอยู่รอบข้าง

เพราะยังไงๆ ผมและเพื่อนจปร.รุ่น 7 ที่เคยเสี่ยงชีวิตมาในสมรภูมิก็ยังดำรงคงมั่นในคุณลักษณะที่ป๋าท่านพูด

เราไม่มีวันตายไปจากความรักชาติ

เราไม่มีวันตายไปจากความเป็นผู้มีเกียรติ

เราไม่มีวันตายไปจากความเป็นผู้มีวินัย

และที่สำคัญอีกอย่าง ดร.ทักษิณต้องจำให้ดี

เราไม่มีวันตายไปจากความกล้าหาญ

                                                                                         โชคดีครับ

                                                                                            จำลอง

ที่มา: เว็บไซต์ผู้จัดการ