เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มีนาคม 2549 ที่ห้องประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  มีการจัดประชุมและอภิปรายเรื่องทางออกปัญหาสัญชาติของคนไทยพลัดถิ่น โดยศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีคนไทยพลัดถิ่นจากจังหวัดระนองเข้าร่วม 200 คน

นายบรรเจิด สิงคะเนติ ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนปัญหาการขอคืนสัญชาติไทยของคนไทยพลัดถิ่น ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิในสมัยแบ่งเขตแดนประเทศ เนื่องจากบรรพบุรุษติดอยู่ในเขตประเทศพม่า ซึ่งพบว่ามีอุปสรรคทางกฎหมาย ที่ประชุมจึงได้มอบหมายให้ตนกับรองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นผู้ศึกษาข้อกฎหมายในประเด็นการขอคืนสัญชาติ รวมทั้งศึกษาบทเรียนทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับการคืนสัญชาติที่ผ่านมา ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อรณรงค์ในระดับนโยบายให้มีการแก้ไขกฎหมายรองรับกรณีคนไทยพลัดถิ่น

ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์พันธุ์ทิพย์ อภิปรายต่อที่ประชุมครั้งนี้ว่า การได้สัญชาติไทยของไทยพลัดถิ่น ประกอบด้วย เด็กเกิดในประเทศไทย มีพ่อแม่เป็นคนไทยพลัดถิ่นทั้งคู่ กรณีนี้พ่อแม่ต้องมีประวัติในทะเบียนสำหรับบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน แล้วขอสัญชาติไทยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เด็กถึงจะได้สัญชาติไทย, กรณีพ่อแม่เป็นคนไทยพลัดถิ่นทั้งคู่ แต่ถือใบทะเบียนแรงงานต่างด้าว เด็กจะได้สัญชาติไทยโดยดินแดนเกิด, กรณีพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นคนไทยพลัดถิ่น จะต้องจดทะเบียนสมรสก่อน เด็กถึงจะได้สัญชาติไทย สำหรับเด็กที่เกิดในประเทศไทยในทุกกรณี จะต้องตรวจสอบหลักฐานจนแน่ชัดว่า เกิดในประเทศไทย ถึงจะได้สัญชาติไทย

ส่วนการดำเนินการเฉพาะหน้า ทางเครือข่ายแก้ปัญหาการคืนสัญชาติคนไทย จะเร่งจัดทำทะเบียนราษฎรคนไทยพลัดถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไว้เป็นฐานข้อมูลให้หน่วยงานราชการ หรือเครือข่ายต่างๆ นำไปใช้แก้ปัญหา โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนเมษายน 2549

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม คนไทยพลัดถิ่นได้เข้าร่วมชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ท้องสนามหลวง พร้อมกับเตรียมขึ้นเวทีแสดงขับโย่ง ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของคนไทยพลัดถิ่นด้วย โดยจะอยู่ร่วมชุมนุมจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2549